xs
xsm
sm
md
lg

โหดเหี้ยม! ฆ่าเผานั่งยางฝังดินอำพรางศพนิรนามในสวนปาล์มใกล้ชายแดนไทย-พม่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ชุมพร - โหดเหี้ยมที่สุด เจ้าของสวนปาล์มที่ท่าแซะ ติดชายแดนไทย-พม่า ชุมพร พบร่องรอยการเผานั่งยางในสวนปาล์มพร้อมหลุมฝังศพที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่า เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบเป็นเศษอวัยวะมนุษย์ที่ยังเผาไหม้ไม่หมด 

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (20 พ.ค.) พ.ต.ท.วิชัย ต้นกันยา รอง ผกก.สส.สภ.ท่าแซะ ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมอำพรางเผาศพนั่งยางด้วยล้อรถยนต์ และฝังดินในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ 12 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.มานะ นิ่มนวล สว.กก.สส.1 บก.สส.ภ.8 ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.ชุมพร พร้อมกำลังชุดสายสืบ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร ไปตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุใกล้ชายแดนไทย-พม่า เจ้าหน้าที่ต้องขับรถยนต์ผ่านถนนลาดยาง ถนนคอนกรีต ถนนลูกรังด้วยความยากลำบากที่สลับซับซ้อนไปด้วยภูเขาสูงชันหลายลูก และต้องเดินเท้าต่อเข้าไปอีกเกือบ 1 กิโลเมตร เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวต้องใช้เฉพาะรถยนต์โฟร์วีลเท่านั้น โดยมี นายสรัณย์พงศ์ ศรีวิไล อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 6 ตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เจ้าของสวนปาล์มน้ำมันจุดพบศพได้รอนำทางพาเจ้าหน้าที่เข้าไปบริเวณเนินเขาภายในสวนปาล์มดังกล่าว ตรวจสอบพบมีเศษเถ้าถ่านกองไฟไหม้ดำกองใหญ่อยู่ใกล้โคนต้นปาล์ม และห่างกันประมาณ 5 เมตร มีร่องรอยการขุดหลุมแล้วนำดินมาฝังกลบไว้มีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมา

เจ้าหน้าที่จึงให้หน่วยกู้ภัยขุดจนลึกประมาณ 1 เมตร พบชิ้นส่วนมนุษย์เป็นกะโหลกศีรษะ แขนและขารวมทั้งสองข้าง และเศษเนื้อเศษอวัยวะของมนุษย์อีกจำนวนหนึ่งถูกไฟเผาจนไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก ลักษณะคนร้ายเพิ่งจะก่อเหตุได้ไม่นาน ภายในหลุมเจ้าหน้าที่พบถุงพลาสติกแบบหูหิ้ว 1 ใบ ขดเส้นใยเหล็กเสริมยางล้อรถยนต์จำนวนมาก คาดว่าไม่ต่ำกว่า 4 ล้อ และมีร่องรอยดอกยางล้อรถยนต์โฟร์วีลวิ่งเข้ามา และถอยโยกหน้าหลังออกไปจากจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพ และเก็บรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้น ยังไม่ทราบว่าชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกเผานั่งยาง และฝังดินเป็นเพศหญิง หรือชาย และสัญชาติใด จึงส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลท่าแซะ และส่งต่อไปพิสูจน์ยังสถาบันนิติเวชภาค 8 สุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจสอบต่อไป

เจ้าหน้าที่สอบสวน นายสรัณย์พงศ์ เจ้าของสวนปาล์มน้ำมันจุดเกิดเหตุให้การว่า ขณะที่ตนเดินทางมาดูแลสวน และตัดปาล์มน้ำมันไปขายนั้น ได้สังเกตเห็นกองเถ้าถ่านเหมือนมีใครนำอะไรมาเผา และห่างกันเล็กน้อยมีร่องรอยการขุดหลุมฝังกลบมีกลิ่นเหม็นโชยออกมาเหมือนซากศพ จึงรู้สึกผิดปกติ และได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

เจ้าหน้าที่สอบสวนเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุเพศ อายุ และสัญชาติผู้ตายได้ สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และจะต้องรู้จักชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี โดยหลังคนร้ายลงมือฆ่าผู้ตายแล้วได้นำศพขึ้นรถยนต์โฟร์วีลเข้าไปจุดไฟเผานั่งยางด้วยล้อรถยนต์ แต่ระหว่างนั้นฝนอาจจะตกลงมาทำให้เหลือซากชิ้นส่วนอยู่บ้าง จึงต้องช่วยกันเก็บนำไปขุดหลุมฝังอำพรางดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนหาข่าวว่าในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียงมีการแจ้งความคนหายทั้งคนไทย และแรงงานต่างด้าวบ้างหรือไม่ เพื่อจะได้สืบสวนขยายผลจับกุมคนร้ายพฤติกรรมโหดเหี้ยมมาดำเนินคดีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น