ศูนย์ข่าวภูเก็ต - 2 ชาวต่างชาติผู้ต้องหาปลอมพาสปอร์ต ถูกส่งตัวกลับจากเกาหลี ตม.ภูเก็ตส่งตำสวจสอบปากคำที่ สภ.สาคูเตรียมฟ้องศาล แต่ผู้ต้องหาออกอุบายขอเข้าห้องน้ำ ฉวยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอ วิ่งออกจากโรงพัก หลบหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.) มีการเผยแพร่ภาพผู้ต้องหาปลอมพาสปอร์ต จำนวน 2 คน คือนาย SANDEEP SINGH อายุ 30 ปี สัญชาติโปรตุกีส และนาย RAJ KUMAR อายุ 36 ปี สัญชาติโปรตุกีส หลบหนีออกจากสถานีตำรวจภูธรสาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ผ่านทางกลุ่มไลน์ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่พบเห็นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีผู้ต้องหาปลอมพาสปอร์ตอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอ หลบหนีออกจากสถานีตำรวจภูธรสาคู ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เป็นผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ซึ่งถูกจับกุมในข้อหาใช้พาสปอร์ตปลอม เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 พ.ค.) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา ได้นำตัวมาสอบปากคำ เตรียมนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดภูเก็ต เมื่อเวลา 08.00 น. ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ขอเข้าห้องน้ำ และอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเผลอ วิ่งหลบหนีออกจากโรงพักไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งการให้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานี และทุกหน่วยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายแล้ว เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์รูปภาพ และข้อมูลของชาวต่างชาติทั้ง 2 ราย ไปยังสื่อโซเชียล เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยกันตามหาทั้ง 2 ราย หากใครพบเห็นสามารถแจ้งไปยัง สภ.สาคู หรือแจ้งไปยัง 191 ได้เลย
พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวต่อไปว่า สำหรับ สภ.สาคู เป็นสถานีตำรวจที่เพิ่งก่อสร้าง ขณะนี้ยังไม่มีห้องควบคุมผู้ต้องขัง เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องหามาก็จะต้องรีบสอบปากคำ และนำตัวส่งฟ้องศาลเลย จึงเป็นโอกาสให้ผู้ต้องหาอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเผลอ หลบหนีออกไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีของการปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนีก็จะต้องมีการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นเดียวกัน
ด้าน พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ ผกก.สาคู กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้รับตัวมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สนามบินภูเก็ต เมื่อเวลาประมาณ 05.00 ของวันนี้ (20 พ.ค.) หลังจากนั้น ทางพนักงานสอบสวน สภ.สาคู ได้รับตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาสอบสวนเพิ่มเติม โดยพนักงานสอบสวนได้มีการสอบสวนเสร็จสิ้นตามกระบวนการของกฎหมาย และรอนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดภูเก็ต แต่ระหว่างนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขอเข้าห้องน้ำ และขอออกไปสูบบุหรี่
ทางพนักงานสอบสวนจึงอนุญาตให้ออกไปข้างนอก และมีสิบเวรประจำวัน สภ.คอยเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด แต่ผู้ต้องหาได้อาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่เผลอ เพราะต้องดูผู้ต้องหาทั้ง 2 คน วิ่งหลบหนีออกไปทางหน้า สภ.อย่างรวดเร็ว ทางเจ้าหน้าที่ฯได้วิ่งไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน จากนั้นจึงได้มีการแจ้งวิทยุสกัดจับ แต่ก็ไร้วี่แวว โดยขณะนี้มีการส่งภาพประชาสัมพันธ์แจ้งไปยังทุก สภ. เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัวมาให้โดยเร็วที่สุด นอกจากนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้มีการยึดพาสปอร์ต เสื้อผ้า และสิ่งของต่างๆ ไว้ที่ สภ.
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทราบว่าได้เดินทางไปยังประเทศเกาหลี แต่เมื่อถึงประเทศเกาหลี มีการตรวจพบว่าใช้พาสปอร์ตปลอม ทางประเทศเกาหลีจึงส่งกลับมายังต้นทางที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เดินทางออกไป โดยก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 เดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.) มีการเผยแพร่ภาพผู้ต้องหาปลอมพาสปอร์ต จำนวน 2 คน คือนาย SANDEEP SINGH อายุ 30 ปี สัญชาติโปรตุกีส และนาย RAJ KUMAR อายุ 36 ปี สัญชาติโปรตุกีส หลบหนีออกจากสถานีตำรวจภูธรสาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ผ่านทางกลุ่มไลน์ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่พบเห็นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีผู้ต้องหาปลอมพาสปอร์ตอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอ หลบหนีออกจากสถานีตำรวจภูธรสาคู ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เป็นผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ซึ่งถูกจับกุมในข้อหาใช้พาสปอร์ตปลอม เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 พ.ค.) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา ได้นำตัวมาสอบปากคำ เตรียมนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดภูเก็ต เมื่อเวลา 08.00 น. ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ขอเข้าห้องน้ำ และอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเผลอ วิ่งหลบหนีออกจากโรงพักไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งการให้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานี และทุกหน่วยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายแล้ว เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์รูปภาพ และข้อมูลของชาวต่างชาติทั้ง 2 ราย ไปยังสื่อโซเชียล เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยกันตามหาทั้ง 2 ราย หากใครพบเห็นสามารถแจ้งไปยัง สภ.สาคู หรือแจ้งไปยัง 191 ได้เลย
พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวต่อไปว่า สำหรับ สภ.สาคู เป็นสถานีตำรวจที่เพิ่งก่อสร้าง ขณะนี้ยังไม่มีห้องควบคุมผู้ต้องขัง เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องหามาก็จะต้องรีบสอบปากคำ และนำตัวส่งฟ้องศาลเลย จึงเป็นโอกาสให้ผู้ต้องหาอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเผลอ หลบหนีออกไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีของการปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนีก็จะต้องมีการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นเดียวกัน
ด้าน พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ ผกก.สาคู กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้รับตัวมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สนามบินภูเก็ต เมื่อเวลาประมาณ 05.00 ของวันนี้ (20 พ.ค.) หลังจากนั้น ทางพนักงานสอบสวน สภ.สาคู ได้รับตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาสอบสวนเพิ่มเติม โดยพนักงานสอบสวนได้มีการสอบสวนเสร็จสิ้นตามกระบวนการของกฎหมาย และรอนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดภูเก็ต แต่ระหว่างนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขอเข้าห้องน้ำ และขอออกไปสูบบุหรี่
ทางพนักงานสอบสวนจึงอนุญาตให้ออกไปข้างนอก และมีสิบเวรประจำวัน สภ.คอยเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด แต่ผู้ต้องหาได้อาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่เผลอ เพราะต้องดูผู้ต้องหาทั้ง 2 คน วิ่งหลบหนีออกไปทางหน้า สภ.อย่างรวดเร็ว ทางเจ้าหน้าที่ฯได้วิ่งไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน จากนั้นจึงได้มีการแจ้งวิทยุสกัดจับ แต่ก็ไร้วี่แวว โดยขณะนี้มีการส่งภาพประชาสัมพันธ์แจ้งไปยังทุก สภ. เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัวมาให้โดยเร็วที่สุด นอกจากนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้มีการยึดพาสปอร์ต เสื้อผ้า และสิ่งของต่างๆ ไว้ที่ สภ.
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทราบว่าได้เดินทางไปยังประเทศเกาหลี แต่เมื่อถึงประเทศเกาหลี มีการตรวจพบว่าใช้พาสปอร์ตปลอม ทางประเทศเกาหลีจึงส่งกลับมายังต้นทางที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เดินทางออกไป โดยก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 เดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา