สตูล - ประชาชนสุดงงปลอมเฟซบุ๊กใส่รูปผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ยืมเงิน ผู้ว่าฯ เตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ ยืนยันไม่เล่นเฟซบุ๊ก
วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงนี้มักเกิดปัญหาของการปลอมแปลงเฟซบุ๊กมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุด พบการปลอมแปลงเฟซบ๊กของผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะมากในโลกโซเชียล โดยทำทีขอเข้าเป็นเพื่อนเพื่อตีสนิท จากนั้นแต่งเรื่องเพื่อขอยืมเงินประชาชน
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นกับ นายอนันต์ เจียะจิระวิบูลย์ หรือช่างอนันต์ อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 52/1 ม.4 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ช่างรับติดตั้งกล้องวงจรปิด จานรับสัญญาณดาวเทียมทุกระบบ และกล้องวงจรปิด กล่าวให้นักข่าวฟังว่า วานนี้ (18 พ.ค.) เวลาประมาณ 12.04 น. มีบุคคลแอบอ้างใช้เฟซบุ๊กในชื่อ “Phatthana Rattanapichetchai” โดยมีรูป นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นโปรไฟล์ ทันทีที่เห็นว่าเข้ามาขอเป็นเพื่อน รู้สึกดีใจมากที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองมาขอเป็นเพื่อน จึงรีบรับไว้ และเข้าไปคุยในกล่องส่วนตัวเพื่อแนะนำตัวเอง พร้อมบอกชื่อ นามสกุล และหน้าที่การงานว่าครั้งหนึ่งเคยได้รับใช้หลายผู้ว่าฯ ในการเข้าไปติดตั้งกล่องสัญญาณดาวเทียมภายในจวน
หลังการแนะนำตัว และได้มีการโต้ตอบกันไปมาประมาณ 15 นาที เฟซบุ๊กดังกล่าวได้เอ่ยว่า “ผมขอรบกวนหน่อย แต่เกรงใจ โดยอยากจะยืมเงินให้งานศพลูกน้อง เป็นค่าวัวเลี้ยงในงานศพ โดยตอนเย็นจะคืนให้” หลังเห็นข้อความนั้นถึงกับฉุกคิดมาทันทีว่า พ่อเมืองสตูล จะมายืมเงินประชาชนอย่างเราๆ เป็นไปได้อย่างไร จึงเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็พากันหัวเราะ และได้บอกไปว่าให้ท่านกลับมาจากต่างจังหวัดก่อนละกันจะเข้าไปคุย และทำความรู้จักกันที่จวนให้ดีกว่านี้ จากนั้นบทสนทนาก็หยุดลง และคิดต่อไปว่าคงถูกเล่นงานเข้าแล้วจากพวกต้มตุ๋น และได้เก็บหลักฐานการพูดคุยไว้หมดแล้ว พร้อมยอมรับว่า เชื่อสนิทใจว่าเป็นเฟซบุ๊กของผู้ว่าฯ เพราะมีการใส่ภาพกิจกรรมต่างๆ ไว้ในโปรไฟล์มากมายทำให้หลงเชื่อ แต่ที่ไม่เชื่อคือ มายืมเงินประชาชนอย่างเราๆ เป็นไปได้ไง
หลังจากเกิดปัญหาการปลอมแปลงเฟซบุ๊กผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลขึ้น ได้มีการประสานไปยังเลขาผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล แจ้งว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เดินทางไปราชการต่างจังหวัด และยืนยันว่าท่านไม่เล่นเฟซบุ๊ก ฉะนั้น จึงขอแจ้งให้ทราบกันโดยทั่วหน้า ส่วนท่านจะดำเนินการอย่างไรต่อไปต้องรอให้กลับจากราชการต่างจังหวัด หากไม่หยุดใช้เฟซบุ๊กปลอมดังกล่าว คงต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้เป็นหลักฐาน และขอให้ประชาชนอย่างได้หลงเชื่อมิจฉาชีพ
