สตูล - เครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ส่งหนังสือถึง รมว.ทรัพยากรฯ เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบ 2 บริษัททำ EHIA ไร้ความเป็นกลางต่อโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา
วันนี้ (18 พ.ค.) เครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล นำโดย นายสมบูรณ์ คำแหง นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี และเครือข่ายประชาชนร่วม 30 คน เดินทางไปมายัง สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสตูล ตั้งอยู่บนถนนสตูลธานี ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล เพื่อยื่นหนังสือผ่าน นางศุภวรรณ จินากุล นักจัดการทั่วไปชำนาญการ ซึ่งรับเรื่องแทน หน.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ผ่านไปถึง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยต้องการให้มีการตรวจสอบพฤติกรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพของ บ.เอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด และ บ.ทีม คอลซัลติ้ง เอ็นจิเนียริ่ง แอน แมเนจเม้นท์ จำกัด กรณีจัดศึกษาทบทวน และสำรวจออกแบบรายละเอียด และศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้ม (EHIA) โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา ภายหลังข้อกังวลของเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสตูล พบว่ามีการทำงานที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน และกฎระเบียบของทางราชการที่มีอยู่ ด้วยโครงการขนาดใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงวิถีชีวิต สังคม วัฒนธรรมเป็นอย่างมาก
จากการระดมความคิดของตัวแทนองค์กรภาคประชาชนในจังหวัดสตูล เช่น สภาพัฒนาการเมือง สภาองค์กรชุมชน คณะทำงานศูนย์วิจัยท้องถิ่น เครือข่ายประมงพื้นบ้าน เครือข่ายสมัชชาคนสตูล มูลนิธิอันดามัน สมาคมรักษ์ทะเลไทย และกลุ่มรักจังสตูล ได้เสนอรูปแบบ และกระบวนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในโครงการนี้ที่ภาคประชาชนสามารถยอมรับได้ ซึ่งมีลักษณะสำคัญ คือ บริษัทฯ ต้องปรับภาพลักษณ์ของตนเองใหม่เพื่อให้เป็นภาพของคนกลางที่ไม่จำเป็นต้องสร้างภาพขัดแย้งกับใคร
บริษัทฯ ต้องเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในกระบวนการศึกษาดังกล่าว โดยให้องค์กรภาคประชาชน สังคมจังหวัด ร่วมออกแบบการจัดเวที ค.1 ค.2 และ ค.3 จึงขอเสนอให้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบพฤติกรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพของทั้ง 2 บริษัท ระหว่างนี้ขอให้มีการสั่งพักใบอนุญาต และให้มีการหยุดการดำเนินการใดๆ ของบริษัททั้ง 2 ไว้ก่อนจนกว่าจะมีผลการสอบถึงที่สุด สุดท้ายหากพบว่าบริษัททั้ง 2 มีความผิด และไม่เป็นไปตามจรรยาบรรณที่กำหนดไว้ในระเบียบ โดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในฐานะผู้ออกใบอนุญาตแล้ว ขอให้มีการลงโทษไปตามข้อหาความผิดนั้นๆ
พร้อมกันนี้ เครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ยังอ้างคำยืนยันของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคยกล่าวไว้ว่า กรณีบริษัทที่ปรึกษาเหล่านี้ หากทำงานไร้ประสิทธิภาพและไม่สามารถทำให้ประชาชนในพื้นที่ยอมรับในกระบวนการเหล่านี้ได้ ก็จะต้องตรวจสอบกันบ้าง และหากพบว่ามีการทำงานที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ ก็จะต้องมีการถอนใบอนุญาตนั้นเสีย
ด้าน นายสมบูรณ์ คำแหง คณะทำงานเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ระบุว่า การทำงานของทั้ง 2 บริษัทไม่ปฏิบัติไปตามขั้นตอน ใช้วิธีการทำงานเพื่อให้เสร็จไปที ใช้วิธีการวิจัย หรือการสอบถามความคิดเห็นที่ไม่มีหลักวิชาการรองรับ ตั้งศูนย์ข่าวสารไม่เป็นสาธารณะและไม่เปิดกว้างให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ วางตัวไม่เหมาะสม ไม่เป็นกลางทางวิชาการ กลายเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ซึ่งแทนที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนรัฐบาลเพื่อมาสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่ประชาชน กลับมาส่งเสริมให้เกิดความเกลียดชัง แบ่งฝ่าย และมีทัศนคติที่เลวร้ายต่อผู้ที่มีความคิดเห็นต่าง รวมทั้งมีการจัดสรรผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่กลุ่มผู้สนับสนุนโครงการอย่างเป็นระบบ