ตรัง - องคมนตรี และคณะลงพื้นที่ตรัง ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยช่วงเดือน ธ.ค.59-ม.ค.60 รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (18 พ.ค.) นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ได้ให้การต้อนรับ ฯพณฯ พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี และคณะ ในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยช่วงเดือน ธ.ค.59-ม.ค.60 รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากภัยพิบัติดังกล่าว โดย ฯพณฯ พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี และคณะ ได้เดินทางเข้ารับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย พร้อมมอบนโยบาย และขอบคุณหน่วยงานที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือดูแลผู้ประสบภัย ณ โรงเรียนสภาราชินี 2 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง
ทั้งนี้ พณฯ พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ได้กล่าวพบปะ และให้กำลังใจครู นักเรียน และผู้ปกครอง ว่า ครั้งนี้ตนได้มาติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดตรังในช่วงที่ผ่านมา และในโอกาสนี้ ถือโอกาสมามอบโต๊ะเก้าอี้ครู และนักเรียนพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกร บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งพระองค์มีเมตตาต่อพสกนิกรที่ประสบภัย และได้พระราชทานเงินส่วนพระองค์ จำนวน 40 ล้านบาท เพื่อมาช่วยจังหวัดที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 12 จังหวัด
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 2 เรื่องใหญ่ๆ ส่วนแรกคือ พระองค์ต้องการให้ทุนการศึกษาแก่เด็กที่สูญเสียผู้ปกครอง เพื่อให้เด็กนั้นสามารถเรียนจนจบปริญญาตรี รวมจำนวน 15 ล้านบาท ซึ่งจังหวัดตรังมี 1 รายที่สูญเสียพ่อแม่ ถือเป็นคนแรกในรัชกาลที่ 10 ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณได้รับทุนพระราชทานเพื่อการศึกษา ส่วนที่ 2 พระองค์พระราชทานเงินเพื่อมาซื้อโต๊ะเก้าอี้ให้แก่ครูและนักเรียนที่ประสบอุทกภัยที่ผ่านมา ซึ่งจังหวัดตรัง ได้รับความเสียหายทั้งหมด 26 แห่งด้วยกัน
โดยก่อนหน้านี้ ทางศึกษาธิการจังหวัด ได้ทำเรื่องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอเงินจากรัฐบาลมาซ่อมแซมโรงเรียน และซื้อโต๊ะเก้าอี้ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นแล้วว่าน่าจะช่วยได้ในบางส่วน ดังนั้น ท่านจึงพระราชทานพระราชทรัพย์มาเพื่อซื้อโต๊ะเก้าอี้ให้แก่นักเรียน และครู เนื่องจากถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในการเรียนของเด็ก จึงขอให้คณะครูได้ภาคภูมิใจ ส่วนที่เหลือที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ทางรัฐบาลกำลังจัดงบประมาณสนับสนุนมาให้ เพื่อให้โรงเรียนมีสภาพที่พร้อมที่จะสร้างคนดี
นอกจากนั้น พระองค์ยังรับสั่งกับคณะองคมนตรีว่า การศึกษานั้นถือว่าสำคัญ และเกี่ยวกับความมั่นคงด้วย เพราะการศึกษาสร้างคนเพื่อให้คนเป็นคนดี และทำอย่างไรคนดีต้องมาก่อน ซึ่งการจะเป็นคนดีได้พื้นฐานต้องแน่น ทำให้การถูกชักชวนไปในทางไม่ดีก็น้อยลงไป รวมทั้งมีทัศนคติที่ถูกต้อง เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประชาชน และเพื่อส่วนรวม
ต่อจากนั้น ฯพณฯ พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี พร้อมด้วยคณะได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 61/5 หมู่ที่ 4 บ้านหนองบัว ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง เพื่อตรวจเยี่ยมบ้านที่สร้างใหม่ให้แก่ นางวิลัย มูประสิทธิ์ อายุ 62 ปี ซึ่งได้รับความเสียหายจากอุทกภัยทั้งหลัง และทางการได้จัดสร้างให้ใหม่ด้วยงบประมาณกว่า 270,000 บาท เป็นบ้านขนาด 2 ชั้น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และยังได้มีการซ่อมแซมบ้านเรือนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยที่เสียหายบางส่วนอีก 4 หลัง
ทั้งนี้ นางวิลัย มูประสิทธิ์ ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ม.4 ต.นาตาล่วง กล่าวว่า วันนี้ตนรู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก เพราะเมื่อคราวเกิดน้ำท่วมใหญ่ตนเคยคิดฆ่าตัวตาย เนื่องจากรู้สึกน้อยใจในโชคชะตาตัวเอง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนเข้ามาให้การช่วยเหลือเยียวยา จนสภาพความเป็นอยู่ และจิตใจดีขึ้น มาถึงตอนนี้ก็จะไม่คิดมาก แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของลูกหลานในอนาคตอีกครั้ง