ชุมพร - อย่าคิดว่าจะรอด ผู้ว่าฯ ชุมพร มทบ.44 ออกคำสั่ง คสช.แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงสำรวจรังวัดขอบเขต เพิกถอนเอกสารสิทธินายทุนยึดครองที่ดินแก้มลิงหนองใหญ่ กว่า 700 ไร่ โครงการตามพระราชดำริฯ ร.9 ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
จากกรณีกลุ่มปกป้องบ้านพ่อ ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ร้องเรียนผู้เกี่ยวข้องทวงคืนพื้นที่ชุ่มน้ำแก้มลิงหนองใหญ่ โครงการตามแนวพระราชดำริฯ ในหลวง ร.9 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ขอให้ตรวจสอบเพิกถอน น.ส.3ก.และการรังวัดเตรียมออกโฉนดกว่า 700 ไร่ ของนายทุนในพื้นที่ดังกล่าว จนมีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (18 พ.ค.) นายชุมพล องอาจ เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลบางลึก หนึ่งในแกนนำกลุ่มปกป้องบ้านพ่อ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการลงตรวจสอบพื้นที่นายทุนยึดครอง 27 แปลง กว่า 700 ไร่ ในที่ดินสาธารณะทุ่งหนองใหญ่ โครงการตามพระราชดำริฯ ในหลวง ร.9 ระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดชุมพร กับทหารชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 ยังไม่เป็นเอกภาพ ต่างฝ่ายต่างทำ จนชาวบ้านเกิดความไม่ไว้วางใจเจ้าหน้ารัฐบางคน บางหน่วยงาน เพราะที่ผ่านมา ได้มีการเดินหน้ารังวัดจะออกโฉนดที่ดินให้แก่นายทุนอยู่แล้ว
ทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นหนองน้ำสาธารณะโดยสภาพมีน้ำท่วมขังสูง บางจุดสูงมิดหัวตลอดทั้งปี จนชาวบ้านรวมตัวกันออกมาร้องเรียน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางลึก ในฐานผู้ดูแลพื้นที่จึงได้เสนอให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานไขปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ การออกเอกสารสิทธิในที่ดินหนองน้ำสาธารณะ บริเวณโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ จังหวัดชุมพร เพื่อสำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง และทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ อัยการ ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ผู้นำท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ตัวแทนชาวบ้าน และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 48 คน เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ซึ่งขณะนี้ นายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร ร่วมกับ มทบ.44 ได้ใช้อำนาจ คสช.ที่ 13/2559 ลงนามคำสั่งแต่งตั้งเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายชุมพล กล่าวต่อว่า คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานฯ ดังกล่าว มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ประชุมเสนอแนะแนวทาง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เดินสำรวจกำหนดขอบเขตที่ดินหนองน้ำสาธารณะที่แท้จริงทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบพื้นที่บุกรุกทั้ง 27 แปลง กว่า 700 ไร่ เพื่อเสนอหน่วยงานเกี่ยวข้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ แล้วให้ดำเนินการออกเอกสารสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ นสล. เพื่อดูแลคุ้มครอง และใช้ประโยชน์ร่วมกันของประชาชน รวมทั้งกำชับเร่งรัดติดตาม และสรุปผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ได้ข้อยุติภายใน 30 วัน แล้วรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ เพื่อเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากกรณีกลุ่มปกป้องบ้านพ่อ ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ร้องเรียนผู้เกี่ยวข้องทวงคืนพื้นที่ชุ่มน้ำแก้มลิงหนองใหญ่ โครงการตามแนวพระราชดำริฯ ในหลวง ร.9 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ขอให้ตรวจสอบเพิกถอน น.ส.3ก.และการรังวัดเตรียมออกโฉนดกว่า 700 ไร่ ของนายทุนในพื้นที่ดังกล่าว จนมีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (18 พ.ค.) นายชุมพล องอาจ เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลบางลึก หนึ่งในแกนนำกลุ่มปกป้องบ้านพ่อ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการลงตรวจสอบพื้นที่นายทุนยึดครอง 27 แปลง กว่า 700 ไร่ ในที่ดินสาธารณะทุ่งหนองใหญ่ โครงการตามพระราชดำริฯ ในหลวง ร.9 ระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดชุมพร กับทหารชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 ยังไม่เป็นเอกภาพ ต่างฝ่ายต่างทำ จนชาวบ้านเกิดความไม่ไว้วางใจเจ้าหน้ารัฐบางคน บางหน่วยงาน เพราะที่ผ่านมา ได้มีการเดินหน้ารังวัดจะออกโฉนดที่ดินให้แก่นายทุนอยู่แล้ว
ทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นหนองน้ำสาธารณะโดยสภาพมีน้ำท่วมขังสูง บางจุดสูงมิดหัวตลอดทั้งปี จนชาวบ้านรวมตัวกันออกมาร้องเรียน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางลึก ในฐานผู้ดูแลพื้นที่จึงได้เสนอให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานไขปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ การออกเอกสารสิทธิในที่ดินหนองน้ำสาธารณะ บริเวณโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ จังหวัดชุมพร เพื่อสำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง และทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ อัยการ ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ผู้นำท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ตัวแทนชาวบ้าน และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 48 คน เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ซึ่งขณะนี้ นายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร ร่วมกับ มทบ.44 ได้ใช้อำนาจ คสช.ที่ 13/2559 ลงนามคำสั่งแต่งตั้งเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายชุมพล กล่าวต่อว่า คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานฯ ดังกล่าว มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ประชุมเสนอแนะแนวทาง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เดินสำรวจกำหนดขอบเขตที่ดินหนองน้ำสาธารณะที่แท้จริงทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบพื้นที่บุกรุกทั้ง 27 แปลง กว่า 700 ไร่ เพื่อเสนอหน่วยงานเกี่ยวข้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ แล้วให้ดำเนินการออกเอกสารสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ นสล. เพื่อดูแลคุ้มครอง และใช้ประโยชน์ร่วมกันของประชาชน รวมทั้งกำชับเร่งรัดติดตาม และสรุปผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ได้ข้อยุติภายใน 30 วัน แล้วรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ เพื่อเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป