เกษตรพังงาคาดโทษเกษตรกรตกเขียวทุเรียนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ

พังงา - เกษตรพังงา คาดโทษ เกษตรกรตกเขียวทุเรียนมีโทษตามกฎหมาย ทั้งทางอาญา และทางแพ่ง มีโทษทั้งจำทั้งปรับ แนะตัดทุเรียนที่สุกเพื่อรักษาภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของทุเรียนสาลิกา หลังตลาดมีความต้องการ ขายได้กิโลกรัมละ 180-250 บาท

นายสมชาย บริพันธุ์ เกษตรจังหวัดพังงา แนะเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ให้หมั่นดูแลบำรุงรักษาสวนผลไม้ตั้งแต่เริ่มต้นออกดอกจนถึงการเก็บเกี่ยว ทั้งการให้ปุ๋ย การกำจัดศัตรูพืช เพราะในช่วงนี้ ทางภาคใต้กำลังเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้ผลไม้ชนิดต่างๆ เริ่มติดดอกออกผลเข้าสู่ตลาดแล้วบางส่วน และเพื่อให้ผลผลิตที่ออกมานั้นมีคุณภาพที่ดี และเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งจะทำให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายได้ราคาสูงด้วย โดยเฉพาะทุเรียนสายพันธ์ต่างๆ และทุเรียนสาลิกาที่สามารถจำหน่ายได้สูงถึงกิโลกรัมละ 180-250 บาท กำลังออกผลผลิตสู่ตลาดแล้วบางส่วนในช่วงนี้

นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า ฝากเตือนเกษตรกรให้คำนึงถึงผู้บริโภคอันดับแรกก่อนที่จะตัดทุเรียนนำมาจำหน่าย ควรเลือกผลผลิตที่แก่ กำลังเหมาะ ไม่มีการตกเขียวหลอกขายผู้ซื้อ เพื่อรักษาคุณภาพ ทั้งความอร่อย ความหอม และชื่อเสียงของทุเรียนสาลิกา ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดพังงาแห่งเดียว โดยที่ผ่านมา พบว่ามีพ่อค้าคนกลางจากจังหวัดอื่นได้เข้ามาเหมาซื้อ และตัดขายในขณะที่ทุเรียนอ่อนมาจำหน่าย ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าโดนหลอก

ทั้งนี้ หากพบว่าเกษตรกรรายใดตัดทุเรียนอ่อนมาจำหน่ายจะมีโทษตามกฎหมายทั้งทางอาญาและทางแพ่ง มีโทษปรับไม่น้อยกว่า 5 หมื่นบาท และจำคุกไม่น้อยกว่า 2 ปี ถือเป็นโทษที่รุนแรง จึงอยากให้เกษตรกรช่วยกันรักษาชื่อเสียงของจังหวัด และคุณภาพของผลผลิต ไม่มุ่งหวังผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย และที่สำคัญจะเป็นผลดีต่อพี่น้องเกษตรกรสวนผลไม้อีกด้วย