ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คืบหน้าคดีเหตุระเบิดบิ๊กซีปัตตานี หลังพบศพเจ้าของรถยนต์คาร์บอมบ์แล้ว สอบสวนพบมีผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ฆ่าชิงรถ 5 คน ประกอบด้วย นายก อบต.ในพื้นที่ โต๊ะอิหม่ามมัสยิดบ้านเกาะเปาะ และลูกน้องอีก 3 คน
วันนี้ (11 พ.ค.) ชุดคลี่คลายคดีการก่อวินาศกรรมห้างบิ๊กซี ปัตตานี ในส่วนของการติดตามตัวนายนุสน ขจรคำ ซึ่งเป็นเจ้าของรถกระบะที่ถูกใช้นำไปประกอบเป็น “คาร์บอมบ์” นำโดย พล.ต.ต.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี และ พล.ต.จตุพร กลัมพะสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี ซึ่งได้แกะรอยการเดินทางของ นายนุสน ตั้งแต่การรับโทรศัพท์จากผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้ดูดแลมัสยิดบ้านเกาะเปาะ ต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยว่าจ้างให้ไปติดตั้งผ้าใบกันสาดที่มัสยิดดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 พ.ค. รวมทั้งการแกะรอยจากเบอร์โทรศัพท์ของ นายนุสน จนทราบว่า ปลายทางของนายนุสน คือ มัสยิดบ้านเกาะเปาะ
ซึ่งจากการแกะรอยติดตามเส้นทางของ นายนุสน เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้กำลังตำรวจ ทหาร เข้าตรวจสอบพื้นที่รอบๆ มัสยิดเมื่อเย็นของวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา จนสามารถพบหลักฐานเป็นกองเลือดกระจัดกระจายด้านข้างมัสยิด ทำให้แน่ใจว่า นายนุสน ต้องเสียชีวิตแล้วอย่างแน่นอน
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบจนพบว่า มีผู้เห็นเหตุการณ์ในขณะที่ นายนุสน ถูกทำร้าย ซึ่งตอนแรกยังไม่เสียชีวิต ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้พยายามเข้าช่วยเหลือ แต่ถูกกลุ่มคนร้ายไล่ตะเพิดไม่ให้ยุ่งเกี่ยว และจากการสอบปากคำพยานทำให้ทราบว่า หลังจากที่มีการฆ่า นายนุสนแล้ว มีการนำร่างนายนุสน ขึ้นรถยนต์กระบะสีน้ำเงินขับออกจากมัสยิดดังกล่าวเพื่อนำศพไปทิ้ง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนจนแน่ชัดว่า มีผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ฆ่านายนุสน เจ้าของรถยนต์ที่ถูกชิงไปทำคาร์บอมบ์ จำนวน 5 คน ซึ่งประกอบด้วย นายก อบต.ในพื้นที่ โต๊ะอิหม่ามมัสยิดดังกล่าว ครูสอนศาสนาในปอเนาะในพื้นที่ และลูกน้องอีก 3 คน รวมทั้งหมด 5 คน เมื่อมีหลักฐานว่า คนทั้ง 5 มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการฆ่า นายนุสน ชัดเจนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวคนทั้ง 5 จากบ้านพักเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 11 พ.ค. แล้วนำตัวไปยังศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เพื่อทำการสอบปากคำ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตั้งกล่าวหาคนทั้ง 5 แต่อย่างใด
ในส่วนของการติดตามหาศพ นายนุสน หลังจากที่ผ่านการซักถามผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คน จึงทราบว่าหลังการก่อเหตุมีการนำศพไปฝังในทุ่งนาร้าง หมู่ที่ 1 ต.เกาะเปาะ จึงได้เข้าตรวจสอบจนสามารถขุดศพ ของนายนุสน ขึ้นมาได้เมื่อเวลา 16.00 น. และนำศพส่ง ร.พ.ปัตตานี เพื่อทำการชันสูตรสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้
สำหรับโต๊ะอิหม่าน และครูสอนศาสนาที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการจับตัวนายนุสน ไปสังหารนั้น เคยถูกเจ้าหน้าที่ทำการควบคุมตัวไปทำการซักถามมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อการก่อเหตุหลายครั้งในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แต่ทุกครั้งก็เอาตัวรอดได้ เพราะขาดพยานหลักฐานที่ชัดเจนในการเชื่อมโยง ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 4 คน รวมทั้งนายก อบต. อยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ร้ายในพื้นที่หรือไม่
ในส่วนของการป้องกันเหตุร้ายในพื้นที่ ซึ่งหน่วยข่าวความมั่นคงของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้วิเคราะห์สถานการณ์ว่า สมาชิกขบวนการบีอาร์เอ็นฯ มีแผนที่จะก่อเหตุอย่างต่อเนื่องในเดือนรอมฎอน โดยมีเป้าหมายทั้งการใช้อาวุธปืน และระเบิดแสวงเครื่องในชุมชนเมืองถี่ขึ้นนั้น
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผบ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้มีการเรียกประชุมหน่วยกำลังเมื่อเวลา 08.00 น. ที่ห้องประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อสั่งการให้มีการใช้แผนเชิงรุกในพื้นที่เป้าหมาย และการป้องกันเหตุร้าย โดยให้มีการปรับแผนให้รัดกุม และให้เน้นงานการข่าวให้เข้นข้นมากขึ้น
ในขณะที่หนึ่งในคณะ ครม.ส่วนหน้า ซึ่งไม่ต้องการให้เปิดเผยชื่อ ได้แสดงความคิดเห็นว่า หาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องการที่จะป้องกันเหตุร้ายให้ได้ผลจะต้องปรับการทำงานของจุดตรวจบนถนนทุกสายให้เข้มงวดกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งเมื่อก่อนในการผ่านจุดตรวจจะต้องมีการตรวจบัตร ถ่ายภาพบัตรประชาชน แต่ปัจจุบันไม่มีการตรวจบัตรประชาชน และถ่ายบัตรประชาชน ทั้งที่เครื่องมือยังมีพร้อม แต่ไม่ได้ทำ จุดตรวจต้องตรวจจริง ไม่มีใช่เป็นเพียงการตรวจอย่างผิวเผิน
เช่นเดียวกับ ศปก.ส่วนหน้า หรือศูนย์ปฏิบัติการอำเภอส่วนหน้าที่ตั้งขึ้นมาหลายปี ต้องทำให้เป็นศูนย์ฯ ส่วนหน้าที่ให้นายอำเภอมีอำนาจในการควบคุมพื้นที่ สั่งการกับกำลังทหารชุด ฉก.2 ตัวได้ ซึ่งนโยบายในการตั้ง ศปก.อำเภอเป็นอย่างนั้น แต่ในทางเป็นจริงปรากฏว่า กำลังของ ฉก. 2 ตัว ยังฟังคำสั่งของ ฉก.จังหวัด และรองแม่ทัพ ไม่ได้ฟังนายอำเภอแต่อย่างใด
ทั้งที่ในแต่ละอำเภอ นายอำเภอจะต้องรู้สภาพปัญหา สภาพพื้นที่ และรู้จักคน โดยเฉพาะสามารถสั่งการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นได้ ซึ่งหากนายอำเภอเข้มแข็ง ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ถ้าคนเหล่านี้ทำงานเต็มที่ การป้องกัน หรือการเปิดเกมรุกก็จะทำได้ผล และหากนายอำเภอๆ ไหนที่ไม่เข้มแข็งก็ให้ทำการพิจารณาเป็นรายๆ ไป ถ้าทำได้อย่างนี้การทำลายฝ่ายตรงข้าม และการป้องกันเหตุร้ายก็จะได้ผล