กระบี่ - เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลน สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนบ้านหลังสอด อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ หลังได้รับการร้องเรียนห้างขายยายักษ์ใหญ่บุกรุกถมดินเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ และโค่นต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก รวมเนื้อที่กว่า 100 ไร่ อ้างเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. เผยมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิไปแล้ว 1 แปลง เนื้อที่กว่า 20 ไร่ ที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ
วันนี้ (11 พ.ค.) นายเลวิศิษฎ์ บริพันธุ์ หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 29 (เกาะลันตา) นายสุคนธ์ บัวกิ่ง หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.9 (เกาะกลาง) อ.เกาะลันตา เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 นายบุญ พงษ์เพชร ประธานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคประชาชน จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 30 นาย ลงพื้นที่ป่าชายเลนบ้านหลังสอด ม.1 ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีการนำเครื่องจักรเข้าปรับพื้นที่ป่าชายเลน และล้มต้นไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าหลังสอด และป่าบากันเกาะ อ.เกาะลันตา รวมเนื้อที่กว่า 100 ไร่
จากตรวจสอบพื้นที่พบว่า บริเวณดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าชายเลน พบร่องรอยการนำเครื่องจักรเข้าปรับสภาพพื้นที่ และนำดินมาถมจนกลายเป็นพื้นราบ เนื้อที่รวมไม่ต่ำกว่า 100 ไร่ และมีการกั้นกำแพงรอบพื้นที่ตลอดแนวจนเกือบถึงบริเวณชายหาด นอกจากนี้ พบว่ามีต้นสนทะเลขนาดใหญ่ถูกโค่นล้มนับร้อยต้น สอบถาม นายพุ่ม ศรีจันทร์ ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าว ทราบว่า ผู้เป็นเจ้าของ คือ บริษัท ผู้ผลิตยาชื่อดัง เปิดเผยว่า ตนได้รับการว่าจ้างให้มาควบคุมดูแลการปรับถมที่ดินดังกล่าวมาได้ประมาณ 6 เดือน โดยที่ดินบริเวณดังกล่าวมีเอกสารสิทธิเป็น น.ส.3 ก.จำนวน 6 ฉบับ รวมเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ไม่ได้เป็นการบุกรุกที่ดินป่าสงวนแต่อย่างใด
ด้าน นายเลวิษฏ์ บริพันธุ์ หน.สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 29 (เกาะลันตา) กล่าวว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ และยึดพื้นที่ไปแล้ว 2 แปลง เมื่อเดือนเมษายน 2559 จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 17 ไร่ และในวันที่ 31 มีนาคม 2560 จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 16 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างรอให้เจ้าของที่ดินนำหลักฐานมาแสดง ทั้งนี้ เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ทางหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.9 ได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอเกาะลันตา เข้ามารังวัดพื้นที่ และตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่ยังไมมีการดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเบื้องตนทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินตรวจยึดพื้นที่ได้ เนื่องจากประสานเจ้าหน้าที่ที่ดินเข้ามาชี้แนวเขต แต่เจ้าหน้าที่ที่ดินไม่มา ทางชุดตรวจสอบจึงได้กลับออกไป และประสานเจ้าหน้าที่ที่ดินเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งเพื่อหาแนวเขตที่แน่ชัด และตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิว่ามีการออกชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป