ตรัง - เจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพเทศบาล ต.คลองเต็ง อยากได้รถตู้คันใหม่ เพื่อใช้เป็นพาหนะช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ และเพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่เสียชีวิตไปพร้อมกันทั้ง 4 คน
วันนี้ (11 พ.ค.) จากกรณีที่ได้เกิดอุบัติเหตุรถชนซ้ำซ้อนขึ้นบนถนนสายเมืองตรัง-คลองเต็ง บริเวณหัวสะพานบ้านปลายหมัน หมู่ที่ 9 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพเทศบาล ต.คลองเต็ง กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากรถจักรยานยนต์อยู่กลางถนน จู่ๆ ก็มีรถกระบะคันหนึ่งพุ่งเข้าชน จนทำให้เจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพเสียชีวิต 4 ราย รวมทั้งบาดเจ็บอีกหลายราย เหตุเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังที่ทำการหน่วยกู้ชีพเทศบาล ต.คลองเต็ง ซึ่งปัจจุบันใช้ที่ทำการชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง เป็นศูนย์รับแจ้งเหตุชั่วคราว โดยเดิมทีจะมีเจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพ จำนวน 20 คน แต่หลังจากประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปถึง 4 คน จึงยังคงเหลือเจ้าหน้าที่เพียงแค่ 16 คนเท่านั้น แต่ทุกคนก็ยังคงมีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะทำงานบริการสังคมต่อไป ท่ามกลางภาวะความขาดแคลนในหลายด้าน
โดย นายอาคม นุ้ยเอียด นายจตุรวิทย์ ช่วงแก้ว และนายสมเกียรติ ดอกรักษ์ ตัวแทนเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยเทศบาล ต.คลองเต็ง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทั้ง 4 คน ทำให้พวกตนรู้สึกช็อก และไม่คิดว่าตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้าน แต่วันหนึ่งกลับต้องมาทำหน้าที่เก็บศพเพื่อนของตนเอง จนวันนี้ก็ยังทำอะไรไม่ถูก และไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ทั้งที่พวกตนทำทุกอย่างไปด้วยใจอาสา ไม่มีเบี้ยเลี้ยง ไม่มีเงินเดือน ไม่มีค่าตอบแทน และไม่มีสวัสดิการใดๆ โดยทุกวันจะผลัดเวรกันทำหน้าที่รับแจ้งเหตุ 24 ชม. เพื่อให้บริการในชุมชนของตนเอง และพร้อมสำหรับเป็นทีมเสริมหากถูกร้องขอจากพื้นที่อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดหลังเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น ทำให้ทั้งรถตู้ และอุปกรณ์ช่วยชีวิตเสียหายไปหลายรายการ และยากที่จะซ่อมแซมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก จึงจำเป็นต้องยอมปิดศูนย์รับแจ้งเหตุเป็นการชั่วคราว ซึ่งที่ผ่านมา แม้เทศบาล ต.คลองเต็ง จะช่วยเหลือดูแลจัดสรรงบประมาณมาให้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอ โดยสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทุกคนอยากได้มากที่สุดในขณะนี้ก็คือ “รถตู้” เพื่อใช้เป็นพาหนะในการกู้ชีพผู้ประสบเหตุ และเพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่เสียชีวิตไปพร้อมกันทั้ง 4 คน
ด้าน ร.ต.ต.ชวน พลเดช นายกเทศมนตรี ต.คลองเต็ง กล่าวว่า ทางเทศบาลได้เห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพมาโดยตลอดระยะเวลา 7-8 เดือน ที่ได้มีการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุขึ้น เพราะสามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 3 เหตุการณ์ ซึ่งนับว่ามีประโยชน์มาก ขณะที่ทุกคนก็มาทำงานด้วยจิตอาสา หรือยอมเสียสละเวลาส่วนตัวมาช่วยเหลือสังคม ถือเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
แต่ทางเทศบาลเองก็มีข้อจำกัดในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ เพราะหากจะมีการจัดซื้อจัดจ้างใดๆ ก็ต้องดำเนินการหลายขั้นตอนที่ยุ่งยาก ซับซ้อน จนทำให้เกิดความล่าช้า และไม่ทันต่อการช่วยเหลือชีวิตประชาชน ดังนั้น สิ่งที่ตนอยากได้มากที่สุดในขณะนี้ก็คือ รถตู้คันใหม่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เหลือสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ดังเดิม เพราะถึงแม้จะเพิ่งเกิดเหตุร้ายขึ้น และถึงแม้บางคนทางครอบครัวจะไม่เห็นด้วย แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ยังยืนยันที่จะทำหน้าที่ต่อไป