ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยึดไม่หมด ตร.ป่าตอง ร่วมกับ ตร.ภ.8 จับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์กว่า 3,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 3 แสนบาท พร้อมควบคุมคนขายดำเนินคดี หลังจากได้รับการร้องเรียนในพื้นที่มีการลักลอบจำหน่ายสินค้าปลอมจำนวนมาก
วันนี้ (10 พ.ค.) พ.ต.ต.กรพล เลี้ยงบุญจินดา สว.สส.สภ.ป่าตอง เปิดเผยถึงการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์ทางปัญญาในพื้นที่ ต.ป่าตอง ว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ชินรัตน์ ฤทธาคณานนท์ ผบก.สส.ภ.8 นำโดย พ.ต.อ.อดิพัฒน์ กรึงไกร ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.8 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.8 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ภายใต้การอำนวยของ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.ป่าตอง นำโดย พ.ต.ต.กรพล เลี้ยงบุญจินดา สว.สส.สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง ร่วมกันจับกุม 3 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1.นางไม สัญชาติเวียดนาม อายุ 33 ปี พร้อมของกลาง รองเท้าปลอมเครื่องหมายการค้าไนกี้ จำนวน 244 ชิ้น เสื้อปลอม เครื่องหมายการค้าไนกี้ จำนวน 132 ตัว เสื้อปลอม เครื่องการค้าอันเดอร์อาร์เมอร์ จำนวน 69 ตัว กางปลอม เครื่องการค้าอันเดอร์อาร์เมอร์ จำนวน 28 ตัว และกางเกงปลอม เครื่องหมายการค้า Calvin Klein จำนวน 450 ตัว
ยึดได้ที่แผงขายสินค้า รวมทั้งหมด 923 ชิ้น และยังสามารถไปยึดรองเท้าปลอม เครื่องหมายการค้าไนกี้ได้ที่โกดัง จำนวน 1,096 ชิ้น โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณแผงขายสินค้าไม่เลขที่ ริมถนนทวีวงศ์ ต่อเนื่องห้องเก็บของไม่มีเลขที่ ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต แจ้งข้อกล่าวหา จำหน่าย เสนอจำหน่าย มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นบุคคลต่างด้าวเข้าเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางที่กำหนด และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ยื่นรายการตามแบบที่กำหนดในกฎกระทรวง และไม่ผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ของด่านตรวจคนเข้าเมือง
2.Ms.Nguyen Thi Duyen สัญชาติเวียดนาม พร้อมด้วยของกลาง รองเท้าปลอม เครื่องหมายการค้าไนกี้ จำนวน 8 ชิ้น เสื้อไนกี้ จำนวน 56 ตัว เสื้ออันเดอร์อาร์เมอร์ จำนวน 17 ตัว กางยี่ห้ออันเดอร์อาร์เมอร์ จำนวน 20 ตัว กางเกงขายาวไนกี้ จำนวน 107 ตัว หมวกยี่ห้ออันเดอร์อาร์เมอร์ จำนวน 5 ใบ หมวกยี่ห้อแวนส์ จำนวน 8 ใบ หูฟังยี่ห้อแวนส์ จำนวน 23 ชิ้น ลำโพงยี่ห้อบีทส์ จำนวน 21 ชิ้น รวมทั้งหมด 416 ชิ้น โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณแผงขายสินค้าไม่เลขที่ ริมถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต แจ้งข้อกล่าวหาจำหน่าย เสนอจำหน่าย มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
3.นายเนวิน อายุ 23 ปี สัญชาติพม่า พร้อมของกลาง รองเท้ายี่ห้อไนกี้ จำนวน 106 ชิ้น ถุงเท้ายี่ห้อไนกี้ จำนวน 140 ชิ้น กางเกงยี่ห้อ Calvin Klein จำนวน 28 ตัว เสื้อยี่ห้อ Billabong จำนวน 23 ตัว กางเกงยี่ห้อ Billabong จำนวน 71 ตัว รวมทั้งหมด 771 ชิ้น โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณแผงขายสินค้าไม่เลขที่ ริมถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต แจ้งข้อกล่าวหา จำหน่าย เสนอจำหน่าย มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และเป็นบุคคลต่างด้าวไม่ทำงานตามประเภทหรือลักษณะงานและนายจ้าง ณ ท้องที่หรือสถานที่ตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาต ซึ่งสินค้าที่ตรวจยึดได้รวมทั้งหมด 3,206 ชิ้น มูลค่าประมาณ 300,000 บาท
พ.ต.ต.กรพล กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ ว่า สืบเนื่องจาก นายทรงกด ชูศรี ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท บีทส์ อิเล็กทรอนิกส์ แอลแอลซี ได้เดินทางไปร้องเรียนที่ศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตำรวจภูธรภาค 8 ว่า ที่บริเวณริมถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้มีการเปิดร้านขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นจำนวนมาก และสร้างความรำคาญให้แก่นักท่องเที่ยว หลังจากรับแจ้ง พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รอง ผบช.ภ.8 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ขับรถตรวจสอบมาที่ริมถนนดังกล่าว ปรากฏว่า มีร้านขายสินค้าดังกล่าวปิดเป็นจำนวนมาก แต่มีอยู่ 3 ร้านอยู่ใกล้กันเปิดอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบและพบสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นจำนวน จึงได้ตรวจยึดและควบคุมตัวพนักงานขายประจำร้าน จำนวน 3 คน มาสอบสวนที่ สภ.ป่าตอง
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ให้การปฏิเสธในข้อหาเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากสินค้าดังกล่าวไม่ใช่เป็นของตน เป็นของนายจ้างทำหน้าที่มาขายสินค้าอย่างเดียว พร้อมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (10 พ.ค.) พ.ต.ต.กรพล เลี้ยงบุญจินดา สว.สส.สภ.ป่าตอง เปิดเผยถึงการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์ทางปัญญาในพื้นที่ ต.ป่าตอง ว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ชินรัตน์ ฤทธาคณานนท์ ผบก.สส.ภ.8 นำโดย พ.ต.อ.อดิพัฒน์ กรึงไกร ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.8 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.8 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ภายใต้การอำนวยของ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.ป่าตอง นำโดย พ.ต.ต.กรพล เลี้ยงบุญจินดา สว.สส.สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง ร่วมกันจับกุม 3 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1.นางไม สัญชาติเวียดนาม อายุ 33 ปี พร้อมของกลาง รองเท้าปลอมเครื่องหมายการค้าไนกี้ จำนวน 244 ชิ้น เสื้อปลอม เครื่องหมายการค้าไนกี้ จำนวน 132 ตัว เสื้อปลอม เครื่องการค้าอันเดอร์อาร์เมอร์ จำนวน 69 ตัว กางปลอม เครื่องการค้าอันเดอร์อาร์เมอร์ จำนวน 28 ตัว และกางเกงปลอม เครื่องหมายการค้า Calvin Klein จำนวน 450 ตัว
ยึดได้ที่แผงขายสินค้า รวมทั้งหมด 923 ชิ้น และยังสามารถไปยึดรองเท้าปลอม เครื่องหมายการค้าไนกี้ได้ที่โกดัง จำนวน 1,096 ชิ้น โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณแผงขายสินค้าไม่เลขที่ ริมถนนทวีวงศ์ ต่อเนื่องห้องเก็บของไม่มีเลขที่ ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต แจ้งข้อกล่าวหา จำหน่าย เสนอจำหน่าย มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นบุคคลต่างด้าวเข้าเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางที่กำหนด และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ยื่นรายการตามแบบที่กำหนดในกฎกระทรวง และไม่ผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ของด่านตรวจคนเข้าเมือง
2.Ms.Nguyen Thi Duyen สัญชาติเวียดนาม พร้อมด้วยของกลาง รองเท้าปลอม เครื่องหมายการค้าไนกี้ จำนวน 8 ชิ้น เสื้อไนกี้ จำนวน 56 ตัว เสื้ออันเดอร์อาร์เมอร์ จำนวน 17 ตัว กางยี่ห้ออันเดอร์อาร์เมอร์ จำนวน 20 ตัว กางเกงขายาวไนกี้ จำนวน 107 ตัว หมวกยี่ห้ออันเดอร์อาร์เมอร์ จำนวน 5 ใบ หมวกยี่ห้อแวนส์ จำนวน 8 ใบ หูฟังยี่ห้อแวนส์ จำนวน 23 ชิ้น ลำโพงยี่ห้อบีทส์ จำนวน 21 ชิ้น รวมทั้งหมด 416 ชิ้น โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณแผงขายสินค้าไม่เลขที่ ริมถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต แจ้งข้อกล่าวหาจำหน่าย เสนอจำหน่าย มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
3.นายเนวิน อายุ 23 ปี สัญชาติพม่า พร้อมของกลาง รองเท้ายี่ห้อไนกี้ จำนวน 106 ชิ้น ถุงเท้ายี่ห้อไนกี้ จำนวน 140 ชิ้น กางเกงยี่ห้อ Calvin Klein จำนวน 28 ตัว เสื้อยี่ห้อ Billabong จำนวน 23 ตัว กางเกงยี่ห้อ Billabong จำนวน 71 ตัว รวมทั้งหมด 771 ชิ้น โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณแผงขายสินค้าไม่เลขที่ ริมถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต แจ้งข้อกล่าวหา จำหน่าย เสนอจำหน่าย มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และเป็นบุคคลต่างด้าวไม่ทำงานตามประเภทหรือลักษณะงานและนายจ้าง ณ ท้องที่หรือสถานที่ตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาต ซึ่งสินค้าที่ตรวจยึดได้รวมทั้งหมด 3,206 ชิ้น มูลค่าประมาณ 300,000 บาท
พ.ต.ต.กรพล กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ ว่า สืบเนื่องจาก นายทรงกด ชูศรี ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท บีทส์ อิเล็กทรอนิกส์ แอลแอลซี ได้เดินทางไปร้องเรียนที่ศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตำรวจภูธรภาค 8 ว่า ที่บริเวณริมถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้มีการเปิดร้านขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นจำนวนมาก และสร้างความรำคาญให้แก่นักท่องเที่ยว หลังจากรับแจ้ง พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รอง ผบช.ภ.8 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ขับรถตรวจสอบมาที่ริมถนนดังกล่าว ปรากฏว่า มีร้านขายสินค้าดังกล่าวปิดเป็นจำนวนมาก แต่มีอยู่ 3 ร้านอยู่ใกล้กันเปิดอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบและพบสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นจำนวน จึงได้ตรวจยึดและควบคุมตัวพนักงานขายประจำร้าน จำนวน 3 คน มาสอบสวนที่ สภ.ป่าตอง
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ให้การปฏิเสธในข้อหาเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากสินค้าดังกล่าวไม่ใช่เป็นของตน เป็นของนายจ้างทำหน้าที่มาขายสินค้าอย่างเดียว พร้อมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป