สุราษฎร์ธานี - สาวเหยื่ออดีตสามี เผยนาทีมรณะถูกอดีตสามีใช้มีดแทงหวังฆ่า จนต้องแกล้งตาย ก่อนถูกนำร่างยัดท้ายรถเก๋งทิ้งกลางเมืองสุราษฎร์ฯ โชคดีมีคนช่วยเหลือก ถามอดีตสามีผ่านสื่อ “ทำไมถึงได้ทำกันอย่างนี้ ไม่สงสารลูกโหดร้ายมากเลย” ด้านตำรวจออกหมายจับอดีตสามี แต่ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้
จากกรณีเหตุ น.ส.สุนันทา ภิรมย์ อายุ 37 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ถูกอดีตสามีใช้อาวุธมีดแทงบริเวณลำตัว และคอ ก่อนนำร่างไปใส่ในท้ายรถเก๋ง และขับออกไปจอดทิ้งบนถนนในซอยหลังวัดใหม่พัฒนาราม เนื่องจากคิดว่าเสียชีวิตแล้ว แต่โชคดีที่ชาวบ้านซึ่งเดินผ่านบริเวณที่เกิดเหตุได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงช่วยเปิดกระโปรงหลังรถเก๋ง และนำร่างส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โดยเหตุเกิดเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.)
คืบหน้าล่าสุด วันนี้ (8 พ.ค.) น.ส.สุนันทา ภิรมย์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยถึงนาทีมรณะที่ถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกาย ว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 พ.ค. อดีตสามี ทีเลิกรากันไปประมาณ 3-4 เดือน คือ นายณรงค์ อินทร์ทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227 หมู่ 6 ต.สวนขัน อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ได้มาพบพร้อมกับรับตนมาจากที่ทำงาน และพาไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งเพื่อมาพูดคุยและขอคืนดี แต่ตนไม่ขอคืนดีด้วย อดีตสามีได้บังคับตนไม่ให้กลับแต่ก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน
ขณะนอนหลับอยู่ประมาณเวลา 05.00 น. วันที่ 7 พ.ค.นายณรงค์ ได้ใช้มีดแทงที่คอของตนจนได้รับบาดเจ็บ เท่านั้นไม่พอ อดีตสามียังจับตนพลิกตัวนอนคว่ำหน้าแล้วใช้มีดแทงที่ลำตัวอีก 4 ครั้ง ซึ่งการทำร้ายตนในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการทะเลาะ หรือมีปากเสียงกันแต่อย่างใด
เมื่อตนถูกแทงก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่ก็ได้พูดกับอดีตสามี ว่า ก่อนจะตายยากรู้ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่อดีตสามีนิ่งไปอึดใจ และไม่มีคำตอบให้ แต่กลับเอาผ้าขนหนูมายัดปาก ปิดจมูกไม่ให้ตนหายใจ และส่งเสียงร้อง เมื่อเห็นว่าสามีพยายามที่จะฆ่าตนให้ตาย ตนจึงแกล้งตาย เมื่ออดีตสามีเห็นว่าตนนิ่งเงียบ จึงนำผ้ามาห่อตัวแล้วอุ้มมายัดไว้ในกระโปรงหลังรถ หลังจากนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คิดว่าอดีตสามีได้ขับมาจอดทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่ง ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.30 น. ส่วนสามีคาดว่าเมื่อจอดรถทิ้งไว้แล้วก็น่าจะหลบหนีไป
น.ส.สุนันทา ยังเล่านาทีโหดร้ายต่อไปว่า หลังจากเมื่ออดีตสามีหลบหนีไปแล้ว ตนก็พยายามเอาผ้าห่มที่ห่อร่างกายออกเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่ผ่านไปมา ซึ่งตอนแรกคิดว่าน่าจะนำร่างของตนมาใส่ในห้องผู้โดยสาร แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตนถูกยัดไว้ในกระโปรงท้ายรถ ซึ่งไม่สามารถเปิดออกมาได้ จึงใช้มือควานหาพบรองเท้าจึงใช้เคาะกับตัวรถ พร้อมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือตลอดระยะ 3 ชั่วโมงเศษ แต่ไม่มีใครได้ยิน ประกอบกับเสียเลือดไปมาก เริ่มรู้สึกอ่อนแรง และนาทีนี้คิดว่าตัวเองจะต้องตายอย่างแน่นอน
แต่ก็โชคดีในช่วงที่ตนกำลังหมดหวัง ได้ยินเสียงคนพูดคุยใกล้ๆ รถ จึงรวบรวมกำลังใช้รองเท้าทุบรถอย่างแรงเพื่อให้เกิดเสียงดัง และตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ จนคนที่เดินผ่านได้ยินเสียงและให้ความช่วยเหลือเปิดท้ายรถเก๋งนำร่างของตนออกมา และนำตัวส่งโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม น.ส.สุนันทา ได้ฝากคำพูดผ่านผู้สื่อข่าวไปถึงอดีตสามีว่า “ทำไมถึงได้ทำกันอย่างนี้ ไม่สงสารลูกทั้ง 3 คนหรือ ถึงเลิกกันไปแล้วต่างคนต่างอยู่ และต่างช่วยกันรับผิดชอบลูก ทำกันอย่างนี้โหดร้ายมากเลยนะ”
ด้าน นายแพทย์ประกอบ ลือชาเกียรติศักดิ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล แพทย์เจ้าของไข้ ระบุว่า ผู้บาดเจ็บมีอาการเลือดออกทางช่องปอด และได้ให้การรักษาไปตามอาการ อาการบาดเจ็บปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะใช้เวลารักษาตัวประมาณ 1 สัปดาห์ ก็สามารถกลับบ้านได้
ในขณะที่ พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุในรถยนต์ และจากการสอบปากคำผู้บาดเจ็บได้ออกหมายจับ นายณรงค์ อินทร์ทอง ผู้ก่อเหตุในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช เข้าช่วยเหลือจับกุมแต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปได้ และคาดว่ายังหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังลงพื้นที่สกัดทางนี้ไว้แล้ว และจะติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้
จากกรณีเหตุ น.ส.สุนันทา ภิรมย์ อายุ 37 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ถูกอดีตสามีใช้อาวุธมีดแทงบริเวณลำตัว และคอ ก่อนนำร่างไปใส่ในท้ายรถเก๋ง และขับออกไปจอดทิ้งบนถนนในซอยหลังวัดใหม่พัฒนาราม เนื่องจากคิดว่าเสียชีวิตแล้ว แต่โชคดีที่ชาวบ้านซึ่งเดินผ่านบริเวณที่เกิดเหตุได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงช่วยเปิดกระโปรงหลังรถเก๋ง และนำร่างส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โดยเหตุเกิดเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.)
คืบหน้าล่าสุด วันนี้ (8 พ.ค.) น.ส.สุนันทา ภิรมย์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยถึงนาทีมรณะที่ถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกาย ว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 พ.ค. อดีตสามี ทีเลิกรากันไปประมาณ 3-4 เดือน คือ นายณรงค์ อินทร์ทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227 หมู่ 6 ต.สวนขัน อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ได้มาพบพร้อมกับรับตนมาจากที่ทำงาน และพาไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งเพื่อมาพูดคุยและขอคืนดี แต่ตนไม่ขอคืนดีด้วย อดีตสามีได้บังคับตนไม่ให้กลับแต่ก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน
ขณะนอนหลับอยู่ประมาณเวลา 05.00 น. วันที่ 7 พ.ค.นายณรงค์ ได้ใช้มีดแทงที่คอของตนจนได้รับบาดเจ็บ เท่านั้นไม่พอ อดีตสามียังจับตนพลิกตัวนอนคว่ำหน้าแล้วใช้มีดแทงที่ลำตัวอีก 4 ครั้ง ซึ่งการทำร้ายตนในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการทะเลาะ หรือมีปากเสียงกันแต่อย่างใด
เมื่อตนถูกแทงก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่ก็ได้พูดกับอดีตสามี ว่า ก่อนจะตายยากรู้ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่อดีตสามีนิ่งไปอึดใจ และไม่มีคำตอบให้ แต่กลับเอาผ้าขนหนูมายัดปาก ปิดจมูกไม่ให้ตนหายใจ และส่งเสียงร้อง เมื่อเห็นว่าสามีพยายามที่จะฆ่าตนให้ตาย ตนจึงแกล้งตาย เมื่ออดีตสามีเห็นว่าตนนิ่งเงียบ จึงนำผ้ามาห่อตัวแล้วอุ้มมายัดไว้ในกระโปรงหลังรถ หลังจากนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คิดว่าอดีตสามีได้ขับมาจอดทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่ง ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.30 น. ส่วนสามีคาดว่าเมื่อจอดรถทิ้งไว้แล้วก็น่าจะหลบหนีไป
น.ส.สุนันทา ยังเล่านาทีโหดร้ายต่อไปว่า หลังจากเมื่ออดีตสามีหลบหนีไปแล้ว ตนก็พยายามเอาผ้าห่มที่ห่อร่างกายออกเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่ผ่านไปมา ซึ่งตอนแรกคิดว่าน่าจะนำร่างของตนมาใส่ในห้องผู้โดยสาร แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตนถูกยัดไว้ในกระโปรงท้ายรถ ซึ่งไม่สามารถเปิดออกมาได้ จึงใช้มือควานหาพบรองเท้าจึงใช้เคาะกับตัวรถ พร้อมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือตลอดระยะ 3 ชั่วโมงเศษ แต่ไม่มีใครได้ยิน ประกอบกับเสียเลือดไปมาก เริ่มรู้สึกอ่อนแรง และนาทีนี้คิดว่าตัวเองจะต้องตายอย่างแน่นอน
แต่ก็โชคดีในช่วงที่ตนกำลังหมดหวัง ได้ยินเสียงคนพูดคุยใกล้ๆ รถ จึงรวบรวมกำลังใช้รองเท้าทุบรถอย่างแรงเพื่อให้เกิดเสียงดัง และตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ จนคนที่เดินผ่านได้ยินเสียงและให้ความช่วยเหลือเปิดท้ายรถเก๋งนำร่างของตนออกมา และนำตัวส่งโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม น.ส.สุนันทา ได้ฝากคำพูดผ่านผู้สื่อข่าวไปถึงอดีตสามีว่า “ทำไมถึงได้ทำกันอย่างนี้ ไม่สงสารลูกทั้ง 3 คนหรือ ถึงเลิกกันไปแล้วต่างคนต่างอยู่ และต่างช่วยกันรับผิดชอบลูก ทำกันอย่างนี้โหดร้ายมากเลยนะ”
ด้าน นายแพทย์ประกอบ ลือชาเกียรติศักดิ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล แพทย์เจ้าของไข้ ระบุว่า ผู้บาดเจ็บมีอาการเลือดออกทางช่องปอด และได้ให้การรักษาไปตามอาการ อาการบาดเจ็บปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะใช้เวลารักษาตัวประมาณ 1 สัปดาห์ ก็สามารถกลับบ้านได้
ในขณะที่ พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุในรถยนต์ และจากการสอบปากคำผู้บาดเจ็บได้ออกหมายจับ นายณรงค์ อินทร์ทอง ผู้ก่อเหตุในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช เข้าช่วยเหลือจับกุมแต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปได้ และคาดว่ายังหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังลงพื้นที่สกัดทางนี้ไว้แล้ว และจะติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้