พังงา - นายอำเภอเกาะยาว จ.พังงา ส่งมอบนกเงือก 3 ตัว อายุ 2 เดือน ให้เจ้าหน้าที่สถานีเพาะสัตว์ป่าพังงาดูแล หลังชาวบ้านกลัวจะถูกขโมย ตัดสินใจนำออกจากรังก่อนกำหนด พร้อมย้ำหากมีใครครอบครองสัตว์สงวนหวงห้าม มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมออกประกาศห้ามจับนกเงือกในพื้นที่ และรณรงค์หยุดบริโภค หยุดค้าขายนก
วันนี้ (7 พ.ค.) นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอเกาะยาว พร้อมด้วย นายบัญญัติ ศรีสมุทร กำนันตำบลเกาะยาวน้อย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำลูกนกเงือกอายุประมาณ 2 เดือน จำนวน 3 ตัว ส่งมอบให้แก่ นายธีรัช คำอุดม หัวหน้าสถานีเพาะสัตว์ป่าพังงา และนายแสงสุรี ซองทอง ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เพื่อนำไปดูแลรักษาให้เติบโตสามารถอยู่กับธรรมชาติได้ โดยลูกนกเงือก จำนวน 3 ตัวดังกล่าว ชาวบ้านนำออกจากโพรงใต้ต้นไม้ในสวนผลไม้ ของชาวบ้านที่เกาะยาวน้อย และนำมาให้แก่ทางกลุ่มอนุรักษ์เกาะยาว เนื่องจากเกรงว่าจะถูกขโมยก่อนที่ลูกนกจะโต เพราะรังนกเงือกอยู่ไม่สูงมากนัก
นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอเกาะยาว กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านในอำเภอเกาะยาวหากมีการพบเห็นนกเงือกดูแล้วไม่ปลอดภัย เสี่ยงต่อการนำไปครอบครองหรือซื้อขาย ให้เร่งนำมามอบให้ทางเจ้าหน้าที่ หากมีผู้ใดครอบครองสัตว์สงวนหวงห้าม มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วน นายบัญญัติ ศรีสมุทร กำนันตำบลเกาะยาวน้อย กล่าวว่า ความผูกพันระหว่างนกเงือกกับชาวบ้านในพื้นที่เกาะยาวนั้นมีมานานแล้ว ทำให้นกเงือกใช้ชีวิตร่วมกับคนในเกาะยาวโดยนกเงือกมักจะอาศัย และหาอาหารกินภายในสวนผลไม้ บริเวณบ้านเรือน จึงเป็นเรื่องปกติ เมื่อหลายปีที่ผ่านมา พบว่าจำนวนนกเงือกลดลงจนใกล้จะสูญพันธุ์ ซึ่งทางกลุ่มชาวบ้านได้ร่วมมือกับทางอำเภอเกาะยาว พยายามที่จะอนุรักษ์ โดยมีการประกาศห้ามจับนกเงือกในพื้นที่ และรณรงค์หยุดบริโภค หยุดค้าขายนก ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณนกเงือกเพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่าตัว
วันนี้ (7 พ.ค.) นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอเกาะยาว พร้อมด้วย นายบัญญัติ ศรีสมุทร กำนันตำบลเกาะยาวน้อย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำลูกนกเงือกอายุประมาณ 2 เดือน จำนวน 3 ตัว ส่งมอบให้แก่ นายธีรัช คำอุดม หัวหน้าสถานีเพาะสัตว์ป่าพังงา และนายแสงสุรี ซองทอง ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เพื่อนำไปดูแลรักษาให้เติบโตสามารถอยู่กับธรรมชาติได้ โดยลูกนกเงือก จำนวน 3 ตัวดังกล่าว ชาวบ้านนำออกจากโพรงใต้ต้นไม้ในสวนผลไม้ ของชาวบ้านที่เกาะยาวน้อย และนำมาให้แก่ทางกลุ่มอนุรักษ์เกาะยาว เนื่องจากเกรงว่าจะถูกขโมยก่อนที่ลูกนกจะโต เพราะรังนกเงือกอยู่ไม่สูงมากนัก
นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอเกาะยาว กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านในอำเภอเกาะยาวหากมีการพบเห็นนกเงือกดูแล้วไม่ปลอดภัย เสี่ยงต่อการนำไปครอบครองหรือซื้อขาย ให้เร่งนำมามอบให้ทางเจ้าหน้าที่ หากมีผู้ใดครอบครองสัตว์สงวนหวงห้าม มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วน นายบัญญัติ ศรีสมุทร กำนันตำบลเกาะยาวน้อย กล่าวว่า ความผูกพันระหว่างนกเงือกกับชาวบ้านในพื้นที่เกาะยาวนั้นมีมานานแล้ว ทำให้นกเงือกใช้ชีวิตร่วมกับคนในเกาะยาวโดยนกเงือกมักจะอาศัย และหาอาหารกินภายในสวนผลไม้ บริเวณบ้านเรือน จึงเป็นเรื่องปกติ เมื่อหลายปีที่ผ่านมา พบว่าจำนวนนกเงือกลดลงจนใกล้จะสูญพันธุ์ ซึ่งทางกลุ่มชาวบ้านได้ร่วมมือกับทางอำเภอเกาะยาว พยายามที่จะอนุรักษ์ โดยมีการประกาศห้ามจับนกเงือกในพื้นที่ และรณรงค์หยุดบริโภค หยุดค้าขายนก ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณนกเงือกเพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่าตัว
