กระบี่ - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ รวบผู้ต้องหาลักลอบยิงปลาที่บริเวณเกาะห้า อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ พร้อมของกลางอุปกรณ์ดำน้ำ ปืนยิงปลา กล้องใต้น้ำ และปลาเก๋ากว่า 10 กิโลกรัม ขณะที่ผู้ต้องหาอีก 4 คนหลบหนีไปได้พร้อมเรือยอชต์ เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัว
วันนี้ (7 พ.ค.) นายกรรณเกษม มีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ออกตรวจปราบปรามป้องกันการกระทำผิด ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบที่บริเวณเกาะห้า ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ พบเรือยอชต์ 1 ลำ ชื่อ lsakindofmagic ต้องสงสัยว่ามีการมาลอยลำเพื่อดำน้ำยิงปลาในเขตอุทยานฯ จึงเข้าตรวจสอบ พบชาย 2 คน กำลังดำน้ำยิงปลา และถ่ายภาพใต้น้ำบริเวณเกาะห้า เขตอุทยานฯ จึงเข้าทำการจับกุม และตรวจยึดอุปกรณ์การกระทำผิดดังกล่าว และพาผู้ต้องหามาที่เรือยอชต์ พบชายอีก 3 คน เป็นเด็ก 1 คน และผู้ใหญ่ 2 คน มาทำการบันทึกจับกุมที่หน่วยพิทักษ์ อุทยานฯ คลองทราย
แต่ระหว่างที่ควบคุมตัว นายวริทธิ์นันท์ โปรนานนท์ อายุ 45 ปี ชาว จ.นครปฐม 1 ในผู้ต้องหามาทำการสอบสวนนั้น ผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 คน ที่อยู่บนเรือซึ่งอ้างว่าเรือกินน้ำลึกไม่สามารถเข้ามาได้ รีบนำเรือยอชต์ และเรือยางหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามตัวได้ทัน จึงได้ยึดอุปกรณ์การกระทำผิดไว้เป็นหลักฐาน ประกอบด้วย ปืนยิงปลา พร้อมเหล็ก spear ชุดกล้องดำน้ำ Go Pro จำนวน 1 ตัว อุปกรณ์ดำน้ำลึก จำนวน 2 ชุด ตีนกบ 2 คู่ หน้ากากดำน้ำ 2 อัน BCD 2 ตัวเร็กกูเรเตอร์ 2 ชุด ไฟฉายดำน้ำ 2 กระบอก วิทยุสื่อสาร ยี่ห้อ icom จำนวน 1 เครื่อง ปลาเก๋า จำนวน 10 กิโลกรัม
นายกรรณเกษม เปิดเผยว่า ก่อนจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำบริเวณหมู่เกาะห้าว่า พบเรือยอชต์ลำดังกล่าวมาจอดลอยลำ และสงสัยว่ามีการลักลอบยิงปลาในน้ำ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน จนกระทั่งพบมีการดำน้ำยิงปลาที่บริเวณจุดเกิดเหตุจึงได้ทำการจับกุม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ฐานนำสัตว์ออกไปหรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ ฐานเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ในชั้นจับกุม นายวริทธ์นันท์ ไม่ให้การใดๆ และขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 4 คน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาขัดขวางเจ้าพนักงาน ล่าสุด ทราบว่าได้หลบหนีไปที่ จ.ภูเก็ต พร้อมเรือของกลาง ซึ่งขณะนี้ทราบตัวผู้ตองหาทั้ง 4 คนแล้ว และได้ประสานเจ้าท่าภูมิภาค จ.ภูเก็ต ตรวจสอบ และติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (7 พ.ค.) นายกรรณเกษม มีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ออกตรวจปราบปรามป้องกันการกระทำผิด ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบที่บริเวณเกาะห้า ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ พบเรือยอชต์ 1 ลำ ชื่อ lsakindofmagic ต้องสงสัยว่ามีการมาลอยลำเพื่อดำน้ำยิงปลาในเขตอุทยานฯ จึงเข้าตรวจสอบ พบชาย 2 คน กำลังดำน้ำยิงปลา และถ่ายภาพใต้น้ำบริเวณเกาะห้า เขตอุทยานฯ จึงเข้าทำการจับกุม และตรวจยึดอุปกรณ์การกระทำผิดดังกล่าว และพาผู้ต้องหามาที่เรือยอชต์ พบชายอีก 3 คน เป็นเด็ก 1 คน และผู้ใหญ่ 2 คน มาทำการบันทึกจับกุมที่หน่วยพิทักษ์ อุทยานฯ คลองทราย
แต่ระหว่างที่ควบคุมตัว นายวริทธิ์นันท์ โปรนานนท์ อายุ 45 ปี ชาว จ.นครปฐม 1 ในผู้ต้องหามาทำการสอบสวนนั้น ผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 คน ที่อยู่บนเรือซึ่งอ้างว่าเรือกินน้ำลึกไม่สามารถเข้ามาได้ รีบนำเรือยอชต์ และเรือยางหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามตัวได้ทัน จึงได้ยึดอุปกรณ์การกระทำผิดไว้เป็นหลักฐาน ประกอบด้วย ปืนยิงปลา พร้อมเหล็ก spear ชุดกล้องดำน้ำ Go Pro จำนวน 1 ตัว อุปกรณ์ดำน้ำลึก จำนวน 2 ชุด ตีนกบ 2 คู่ หน้ากากดำน้ำ 2 อัน BCD 2 ตัวเร็กกูเรเตอร์ 2 ชุด ไฟฉายดำน้ำ 2 กระบอก วิทยุสื่อสาร ยี่ห้อ icom จำนวน 1 เครื่อง ปลาเก๋า จำนวน 10 กิโลกรัม
นายกรรณเกษม เปิดเผยว่า ก่อนจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำบริเวณหมู่เกาะห้าว่า พบเรือยอชต์ลำดังกล่าวมาจอดลอยลำ และสงสัยว่ามีการลักลอบยิงปลาในน้ำ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน จนกระทั่งพบมีการดำน้ำยิงปลาที่บริเวณจุดเกิดเหตุจึงได้ทำการจับกุม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ฐานนำสัตว์ออกไปหรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ ฐานเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ในชั้นจับกุม นายวริทธ์นันท์ ไม่ให้การใดๆ และขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 4 คน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาขัดขวางเจ้าพนักงาน ล่าสุด ทราบว่าได้หลบหนีไปที่ จ.ภูเก็ต พร้อมเรือของกลาง ซึ่งขณะนี้ทราบตัวผู้ตองหาทั้ง 4 คนแล้ว และได้ประสานเจ้าท่าภูมิภาค จ.ภูเก็ต ตรวจสอบ และติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป