สุราษฎร์ธานี - ส่อเค้าวุ่นกรณีร้อง ผอ.โรงเรียนใน อ.กาญจนดิษฐ์ อมเงินเด็กยากชน ชาวบ้านกดดัน ออกใบปลิวโจมตีครูคู่กรณี แจ้งความตำรวจดำเนินคดีต่อคนเดินแจกใบปลิวในข้อหาหมิ่นประมาทว่าด้วยการโฆษณาทำให้เสียชื่อเสียงโร่ ในขณะที่กรรมการเข้าสอบปากคำ ผอ.กับภรรยาแล้ว
จากกรณีครูประจำชั้นนักเรียน ป.3 โรงเรียนบ้านห้วยโศก หมู่ที่ 8 ตำบลช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี นำเด็กนักเรียนเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อตัวแทนสภาทนายความภาค 8 ในกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยโศก ยักยอกเงินนักเรียนยากจน จนมีการตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) นายสัญญา พรหมมณี รองผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 ประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมทีมงานได้เดินทางไปสืบหาข้อเท็จจริงที่โรงเรียนบ้านห้วยโศก และสอบปากคำ นายโกวิทย์ หีดนาคราม ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ถูกร้องเรียน และนางวรณัน หีตนาคราม ภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การเงินของโรงเรียน โดยสอบปากคำในครั้งนี้ห้ามบุคคลภายนอกเข้ารับฟัง
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่คณะกรรมการกำลังสอบปากคำ ผอ.กับภรรยา อยู่นั้น ได้มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งประมาณ 50 คน ได้นำใบปลิว จำนวน 4 หน้ากระดาษเอ 4 เขียนข้อความโจมตีครูคู่กรณีที่เป็นผู้นำเด็กนักเรียนไปร้องขอความเป็นธรรม โดยใจความบางส่วนสรุป ว่า เป็นต้นเหตุทำให้ ผอ.เสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้โรงเรียนเสียหาย โดยมีการแจกจ่ายใบปลิวบริเวณทางเข้าโรงเรียนและตระเวนแจกตามบ้านพักของชาวบ้าน ทำให้ทาง พ.ต.อ.จำโนทย์ แก้วขาว ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ ต้องสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยตลอดเวลาระหว่างที่คณะกรรมการกำลังสอบปากคำ ผอ.กับภรรยา ที่โรงเรียน
ด้าน นายสัญญา พรหมมณี รองผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 ประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กล่าวว่า กรณีมีมวลชนมากดดันถ้าพูดตามหลักมองว่าไม่ควรกระทำ ในสภาวะที่ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ ไม่ควรจะมีใบปลิวแบบนี้ออกมา เป็นการไม่ดีเลย แต่เรื่องนี้คงต้องรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชารับทราบ ส่วนที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยเข้าใจว่าคงไม่มั่นใจในสถานการณ์การที่มีการนำมวลชนมากดดัน
ขณะที่ นายวัชรินทร์ ชัยเชน อดีตนักการเมืองท้องถิ่น กล่าวว่า ประชาชนที่มารวมตัวกันก็เพื่อให้กำลังใจผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมเรียกร้องให้ทำความจริงให้กระจ่าง และเกิดความเป็นธรรมต่อผู้อำนวยการโรงเรียน หากผู้อำนวยการโรงเรียนผิดก็ไม่มีใครว่า หากผู้อำนวยการโรงเรียนถูกก็ขอให้อยู่ต่อ และไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เรื่องที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่จริงที่สื่อออกไปก่อนหน้านี้ได้สร้างความเสียหายให้แก่หมู่บ้าน และขอให้ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนออกสื่อไป
ส่วน น.ส.จิรัชยา สุทธิราช หรือครูแหม่ม หลังจากที่เห็นใบปลิวโจมตีได้นำใบปลิวดังกล่าวเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ณัฐดนัย รุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ ทันที ให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่แจกใบปลิวในข้อหาหมิ่นประมาทว่าด้วยการโฆษณาทำให้เสียชื่อเสียง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความลงประจำวัน และจะติดตามผู้ถูกกล่าวหามาทำการสอบสวน และแจ้งข้อหาต่อไป
จากกรณีครูประจำชั้นนักเรียน ป.3 โรงเรียนบ้านห้วยโศก หมู่ที่ 8 ตำบลช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี นำเด็กนักเรียนเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อตัวแทนสภาทนายความภาค 8 ในกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยโศก ยักยอกเงินนักเรียนยากจน จนมีการตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) นายสัญญา พรหมมณี รองผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 ประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมทีมงานได้เดินทางไปสืบหาข้อเท็จจริงที่โรงเรียนบ้านห้วยโศก และสอบปากคำ นายโกวิทย์ หีดนาคราม ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ถูกร้องเรียน และนางวรณัน หีตนาคราม ภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การเงินของโรงเรียน โดยสอบปากคำในครั้งนี้ห้ามบุคคลภายนอกเข้ารับฟัง
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่คณะกรรมการกำลังสอบปากคำ ผอ.กับภรรยา อยู่นั้น ได้มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งประมาณ 50 คน ได้นำใบปลิว จำนวน 4 หน้ากระดาษเอ 4 เขียนข้อความโจมตีครูคู่กรณีที่เป็นผู้นำเด็กนักเรียนไปร้องขอความเป็นธรรม โดยใจความบางส่วนสรุป ว่า เป็นต้นเหตุทำให้ ผอ.เสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้โรงเรียนเสียหาย โดยมีการแจกจ่ายใบปลิวบริเวณทางเข้าโรงเรียนและตระเวนแจกตามบ้านพักของชาวบ้าน ทำให้ทาง พ.ต.อ.จำโนทย์ แก้วขาว ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ ต้องสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยตลอดเวลาระหว่างที่คณะกรรมการกำลังสอบปากคำ ผอ.กับภรรยา ที่โรงเรียน
ด้าน นายสัญญา พรหมมณี รองผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 ประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กล่าวว่า กรณีมีมวลชนมากดดันถ้าพูดตามหลักมองว่าไม่ควรกระทำ ในสภาวะที่ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ ไม่ควรจะมีใบปลิวแบบนี้ออกมา เป็นการไม่ดีเลย แต่เรื่องนี้คงต้องรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชารับทราบ ส่วนที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยเข้าใจว่าคงไม่มั่นใจในสถานการณ์การที่มีการนำมวลชนมากดดัน
ขณะที่ นายวัชรินทร์ ชัยเชน อดีตนักการเมืองท้องถิ่น กล่าวว่า ประชาชนที่มารวมตัวกันก็เพื่อให้กำลังใจผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมเรียกร้องให้ทำความจริงให้กระจ่าง และเกิดความเป็นธรรมต่อผู้อำนวยการโรงเรียน หากผู้อำนวยการโรงเรียนผิดก็ไม่มีใครว่า หากผู้อำนวยการโรงเรียนถูกก็ขอให้อยู่ต่อ และไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เรื่องที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่จริงที่สื่อออกไปก่อนหน้านี้ได้สร้างความเสียหายให้แก่หมู่บ้าน และขอให้ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนออกสื่อไป
ส่วน น.ส.จิรัชยา สุทธิราช หรือครูแหม่ม หลังจากที่เห็นใบปลิวโจมตีได้นำใบปลิวดังกล่าวเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ณัฐดนัย รุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ ทันที ให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่แจกใบปลิวในข้อหาหมิ่นประมาทว่าด้วยการโฆษณาทำให้เสียชื่อเสียง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความลงประจำวัน และจะติดตามผู้ถูกกล่าวหามาทำการสอบสวน และแจ้งข้อหาต่อไป