กระบี่ - ชาวเน็ตรุมวิจารณ์นักท่องเที่ยวสาวชาวจีนจับปลาดาวมาถ่ายรูปแล้วโพสต์ในเฟซบุ๊ก ไม่เหมาะสม เป็นการทรมานสัตว์ เรียกร้องหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการอย่างเด็ดขาด ด้านหัวหน้าหน่วยอนุรักษ์ทางทะเลและชายฝั่งฯ เผยอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาดำเนินคดี เข้าข่ายทำลายห่วงโซ่อาหาร
วันนี้ (4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้โลกออนไลน์กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสม ภายหลังผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Ohaee Nutcha” ได้โพสต์ภาพหญิงสาวนั่งบนเรือหางยาว และวางปลาดาวทะเลขนาดใหญ่ไว้บนศีรษะ และด้านหลังยังมีปลาดาวสีสันสวยงามอีก 4 ตัว และปลิงทะเลอีก 4 ตัว ที่ถูกจับขึ้นมาวางบนเรือ
นอกจากนี้ ยังมีภาพตอนเอามือจับปลาดาวขึ้นมาถ่ายบนเรือด้วย ทั้งนี้ ในเฟซบุ๊กดังกล่าวได้มีการเช็กอินสถานที่ อ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่
หลังมีการโพสต์ภาพดังกล่าว ชาวเน็ตได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร ขาดจิตสำนึกในการท่องเที่ยว เนื่องจากการจับขึ้นมานานๆเป็นการทรมานปลาดาว ทำให้เนื้อตัวบอบช้ำ ควรจะให้อยู่ตามธรรมชาติ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบ ดำเนินการต่อผู้ที่กระทำการดังกล่าว หากปล่อยไว้จะกระทบต่อธรรมชาติระบบนิเวศทางทะเล
ด้าน นายวิทยา ขุนสัน หัวหน้าหน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จ.กระบี่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานหาดนพรัตน์ธารา และตำรวจน้ำกระบี่ เบื้องต้นทราบว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าวได้จับปลาดาวมาจากบริเวณเกาะมุก ในเขตจังหวัดตรัง จากนั้นก็เดินทางมาเที่ยวต่อที่หาดอ่าวนาง จ.กระบี่ ก่อนนำภาพมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก โดยเช็กอินที่อ่านาง
เบื้องต้น ได้ประสานเจ้าของเรือหางยาวนำเที่ยวเพื่อตักเตือน โดยพบว่าเจ้าของเรือซึ่งอยู่ที่หาดปากเมง จ.ตรัง และให้ห้ามนำนักท่องเที่ยวหยิบจับสัตว์น้ำในทะเลขึ้นมาถ่ายรูป เบื้องต้น มีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ มาตรา 16 ฐานทำลายธรรมชาติ ห่วงโซ่อาหาร ซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่อุทยานในจังหวัดตรัง ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ฝากเตือนไปยังนักท่องเที่ยวไม่ควรหยิบจับสัตว์ทะเลขึ้นมาจากน้ำ และไม่เหยียบแนวปะการังเพราะเป็นการทำลายธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวได้มีการลบภาพภาพที่โพสต์ไปแล้วก็ตามหลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่มีการแชร์ต่อกันไปอย่างกว้างขวาง และเจ้าหน้าที่ได้แค็ปหน้าเฟซบุ๊กไว้ ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวพร้อมเพื่อนอีก 1 คน ยังคงท่องเที่ยวอยู่ที่ จ.กระบี่ ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาว่ากล่าวตักเตือนไปก่อน หากกระทำผิดซ้ำจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป