ยะลา - นายอำเภอเบตง สั่งคุมเข้มพื้นที่ชายแดนป้องกันกลุ่ม “ไอเอส” ที่หนีจากการถูกตามจับกุมในประเทศมาเลเซีย หวั่นใช้พื้นที่เมืองติดชายแดนกบดาน
วันนี้ (4 พ.ค.) จากกรณีที่รัฐบาลมาเลเซียได้ส่งกำลังทหาร ตำรวจเข้ากวาดล้างจับกุมกองกำลังรัฐอิสลาม หรือ “ไอเอส” ในหลายรัฐของประเทศมาเลเซีย รวมทั้งรัฐตรังตานู และรัฐกลันตัน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นใหญ่ของไอเอส ในประเทศมาเลเซีย และเป็นฐานที่มั่นใหญ่ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน “บีอาร์เอ็น” ซึ่งเป็นรัฐที่มีชายแดนติดกับหลายอำเภอในภาคใต้ เช่น อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา จนทำให้สมาชิกรัฐอิสลาม หรือไอเอสที่หลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ 7 คน ถูกจับกุมไปได้ 6 คน และอีก 1 คน ซึ่งถูกระบุทราบชื่อคือ นายมูฮัมมัด มูซัปฟาอารีฟ บิน จูไนดี ที่ได้หลบหนีเข้ามาในพื้นที่ จ.นราธิวาส พร้อมด้วยอาวุธจำนวนหนึ่ง
นายดำรงค์ ดีสกูล นายอำเภอเบตง กล่าวว่า ทางศูนย์ปฏิบัติการอำเภอเบตง ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของสมาชิกกลุ่มไอเอสมาโดยตลอด ในเบื้องต้น ยังไม่มีรายงานที่แน่ชัดว่ามีสมาชิกกลุ่มไอเอสจากประเทศมาเลเซีย หลบหนีเข้ามาซ่อนตัวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเจ้าหน้าที่มาเลเซียเองก็วิเคราะห์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ
แต่อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ปฏิบัติการอำเภอเบตง ได้สั่งการให้กองกำลังทุกพื้นที่ตามแนวชายแดนให้เพิ่มความเข้มงวด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง ในการเข้าออกในช่องทางที่ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศใช้ในการเดินทาง และติดต่อกันระหว่าง 2 ประเทศ รวมทั้งเข้มงวดในเรื่องการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด เนื่องจากบุคคลในภาคใต้ที่เข้าไปอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียจะมีบัตรประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งต้องมีความละเอียดในการตรวจเพิ่มขึ้น