[มหากาพย์ประปาเทศบาลนครนครศรีฯ 12] เวรกรรมคนเมืองคอน! “ประปาดื่มได้” 6 ปียังเหลว “ที่พึ่ง ปชช.” เป็นได้แค่ตอไม้ผุ?!

 
ศูนย์ข่าวภาคใต้ - การปรับอัตราค่าน้ำประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อ 1 พ.ค.2560 ขณะที่ชาวบ้านผู้ใช้น้ำยังประสบปัญหาจากคุณภาพน้ำประปาไม่จบไม่สิ้น เชื่อหากเป็นบริษัทเอกชนคงล้มละลายไปนานแล้ว ติงทหารเป็นได้แค่ตอไม้ผุ ช่วยเหลือชาวบ้านไม่ได้

วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา นับเป็นวันแรกที่การประกาศบังคับใช้ เรื่องการปรับอัตราค่าน้ำประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีผลบังคับใช้ ประกาศฉบับนี้ออกมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 ผู้ลงนามไม่ใช่ใครที่ไหน

“เชาว์นวัศ เสนพงศ์”

ส่งผลให้ราคาน้ำประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จะปรับสูงขึ้นนับตั้งแต่วันนั้นมา เทวดาหน้าไหน จะบั้งเต็มบ่า หรือจะดาวพราวแพรว แถมช่อชัยพฤกษ์มาก็ช่วยประชาชนชาวเมืองนครศรีธรรมราชไม่ได้
 

 
บทพิสูจน์เหล่านี้พิสูจน์มาแล้วจากการปล่อยน้ำเน่าจากบ่อขยะหลังกองทัพภาคที่ 4 หลังค่ายวชิราวุธทั้งค่าย แม่ทัพนายกองได้แค่หนวดกระดิกเงื้อง่าราคาแพง ชาวบ้านจมน้ำเน่าทนรับชะตากรรมขยะกันต่อไป แถมให้ทหารทั้งกองทัพต้องแบกรับชะตากรรมดมกลิ่นขยะต่อไปด้วย มันช่วยไม่ได้ในเมื่อระดับขุนทหารไม่ขยับ และร่วมด้วยช่วยชาวบ้าน

แต่เข้าใจได้เพราะอาจเจอ “ตอ” ท.ทหาร (ทภ.4) จึงต้องอดทน สมกับที่ชาวบ้านท่องพยัญชนะไทยทั้ง 44 ตัวเมื่อคราวหัดเรียนเขียนอ่าน ไม่แตกต่างกับหน่วยงานเสือกระดาษทั้งหลายที่ตรวจๆ ไปแล้วเงียบเช่นกัน ว่ากันว่าที่ว่า “ใหญ่” ท่าจะจริง

ไม่แตกต่างกับระบบประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ประชาชนผู้ใช้น้ำต้องทนทุกข์ต่อคุณภาพน้ำประปาที่ส่งออกมาถึงบ้านเรือนตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา น้ำประปามีสีไม่ต่างจากชาเย็น และสีสันของน้ำประปาแต่ละมุมเมืองก็ไม่มีความแตกต่าง ชาวเมืองนครศรีธรรมราชที่ชื่นชอบสังคมออนไลน์ระบายความเดือดร้อนคับแค้นไม่เว้นแต่ละวัน
 

 
แต่น่าแปลกใจผู้มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลกำกับกลับ “เงียบเฉย” แม้ชาวบ้านจะเดือดร้อนทั้งเมืองจากน้ำใช้สีขุ่นโคลน หรือก่อนหน้าน้ำประปาปนเปื้อนน้ำมันเชื้อเพลิงไปค่อนเมือง การตรวจสอบคุณภาพน้ำของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงต่อผู้บริโภคไม่มีบทบาทใดๆ ให้ชาวบ้านได้ชื่นใจ เหมือนกับการตรวจสอบคุณภาพน้ำจากภูเขาขยะที่ไหลลงแหล่งน้ำธรรมชาติ หน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงไม่มีกระดิก ไม่ใช่เรื่อง ธุระไม่ใช่ สิ้นเดือนมีเงินเดือนกิน (ไม่นับรวมอื่นๆ) กรรมของชาวบ้านชาวเมืองโดยแท้

แม้ชาวบ้านจะเดือดร้อนจากน้ำใช้เจ้าของนโยบาย “ประปาดื่มได้” เมื่อ 6 ปีก่อนเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องกับระบบประปา และไม่นานข้อสรุปถึงสภาพปัญหาคลอดออกมาผ่านโซเชียลมีเดียของเขาที่นานๆ จะปรากฏออกมาสักคราว

เฟซบุ๊กที่มีบัญชีผู้ใช้ชื่อว่า “ผศ.เชาว์นวัศ เสนพงศ์” มีโพสต์แสดงข้อความพร้อม ทั้งภาพหน้าตาผู้ที่เข้าร่วมประชุม รวมทั้งภาพที่มีการขุดถนนแสดงภาพท่อ เนื้อความบอกว่า ประชุมผู้เกี่ยวข้องผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับปัญหาน้ำขุ่นแดงในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2560 เวลา 15.30 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลฯ
 

 
ทั้งนี้ ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เรียกประชุมผู้รับผิดชอบ สรุปว่าสาเหตุการปัญหาน้ำขุ่นแดงในเขตเทศบาลฯโดยสาเหตุเกิดจาก

1.การเพิ่มแรงดันเพื่อให้น้ำไหลแรง ส่งผลให้น้ำมีสีขุ่น ซึ่งตะกอนที่สะสมในเส้นท่อ สะสมเป็นเวลานานหลายปี 2.ในการทำฝายแกเบรียลที่คลองท่าดี ทำให้น้ำเกิดการขุ่นข้น 3.หน้ามิเตอร์เกิดมีการอุดตัน ซึ่งจะมีสิ่งอุดตันหน้ามิเตอร์น้ำประปา และ 4.เส้นท่อมีความเก่าทำให้ท่อแตกประจำทำให้เกิดน้ำขุ่นแดงดังกล่าว

การแก้ปัญหาน้ำขุ่นแดงมีเพียง 2 ข้อดังนี้ 1.ตอนนี้สำนักการประปาเทศบาลฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงระบายตะกอนในเส้นท่อทุกสายในเขตเทศบาลฯ และ 2.จัดชุดรับแจ้งเหตุขุ่นแดง โดยจัดเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุน้ำขุ่นข้น และติดต่อได้ที่สำนักการประปา โทร 0-7534-2880-2 ต่อ 120-121 สำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และโรงกรองน้ำประกรองน้ำประตูชัย โทร.0-7535-6282 ตลอด 24 ชั่วโมง
 

 
เหล่านี้เป็นข้อความที่ชี้แจง ไม่พ้นวงรอบเดิมของการชี้แจงปัญหาคือ เป็นเรื่องเก่า ความเก่า ภาพที่แสดงขัดแย้งต่อความเป็นจริง สภาพดินดำสนิทไม่น่าจะทำให้น้ำมีสีแดงขุ่นราวกับชาเย็น ไม่น่าจะมีสารแขวนลอยที่ทำให้สีน้ำแตกต่างไปจากสีคล้ำของดินเหล่านี้ และสอดคล้องต่อข้อมูลอีกชุดที่ได้รับ

“มันจะไม่ข้นพันนั้นได้ปรือ รู้จักเครื่องมิกซ์เคมีผลิตประปาม้ายล่ะบ่าว เครื่องที่เขาไว้สำหรับฉีดสารส้ม ฉีดคลอรีนนั่นแหละ ไปแลต่ะ ทั้งหมดหมันมีกี่ตัว หมันตายไปกี่ตัว น้ำที่สูบเข้ามาพันพรือมันกะไปพันนั้น ฮายยย...คิดไหรมาก ค่อยจ่ายตางค์เพิ่มต่ะ หมันขึ้นราคาค่าน้ำแล้วโด ท่อกะวางกันแหล๊ะ 30 ล้าน 50 ล้าน...แ...มม ประปาแ...กได้”

เป็นคำบอกเล่าด้วยสำเนียงใต้ของคนหนึ่งที่การผลิตประปาอยู่ในสายตาของเขามาตลอด เขาบอกระบายความรู้สึกออกมาอย่างเอือมระอา

สาเหตุของการขึ้นค่าน้ำประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราชคราวนี้ สมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช คนหนึ่งบอกว่า หากประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นบริษัทเอกชน บริษัทนี้ล้มละลายไปนานแล้ว วันนี้การเก็บรายได้จากค่าน้ำประปาอยู่ที่ราว 4.2 ล้านบาทต่อเดือนเท่านั้น จากผู้ใช้น้ำราว 4 หมื่นราย 

“นี่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายที่เก็บมาพร้อมกันคือ ค่าไฟฟ้า ค่าขยะ ภาษี เงินเดือนพนักงานลูกจ้าง แล้วจะเหลือเท่าไหร่ เป็นภาวะตกต่ำขีดสุดนับตั้งแต่มีการก่อตั้งสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จำนวนผู้ใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางต่อรายได้ที่มีแต่ลดลง เกิดอะไรขึ้น” ส.ท.รายนี้ทิ้งท้าย
 

 
เช่นเดียวกับผู้ที่รู้ลึกถึงข้อมูลประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราชอีกรายบอกว่า ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการลงทุนสำหรับการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพน้ำเลย การลงทุนที่เกิดขึ้นเป็นการทิ้งเงินเปล่าจำนวนมาก ประเมินคร่าวๆ มากกว่า 200 ล้าน ในช่วงราว 4-6 ปีที่ผ่านมา จะเน้นไปที่การซื้อเครื่องสูบน้ำ การวางท่อขนาดใหญ่ที่แทบไม่ได้ใช้งาน เช่น โครงการนาทราย-ทวดทอง มูลค่ากว่า 32 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในสภาพท่อกระจัดกระจายนับแต่น้ำท่วมเมื่อต้นปี นั่นแสดงให้เห็นว่าไม่เคยมีการใช้งานตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ไม่นับรวม 2 ปีก่อนหน้า

การเช่าบ่อน้ำเอกชนหลายแห่งที่ต้องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน เดือนละนับแสนบาท โดยไม่ได้ใช้น้ำ หรือโครงการใหม่ที่สร้างความกังขาด้วยงบถึง 47 ล้านบาท วางท่อจากชลประทานท่าดี-ทวดทอง ทั้งที่เอกสารจากชลประทานแจ้งชัดเจนว่า มีน้ำให้สูบใช้เพียงไม่ถึง 1 แสน ลบ.ม. แต่กล้าลงทุนถึง 47 ล้านบาทเพื่ออะไร ผลที่ได้กับประชาชนคืออะไร

แต่กลับไม่มีงบประมาณในการปรับปรุงคุณภาพน้ำ เมื่อเกิดปัญหาน้ำกับผู้บริโภคเดี๋ยวตรรกะเดิมๆ ได้ยินอยู่เสมอคือ ความเก่าของท่อ ตะกอนสะสมนาน เป็นเรื่องการเมืองฝ่ายตรงข้าม ไม่ก็ท่อแตกเพราะทนแรงดันไม่ได้ ทำนองนี้มาตลอด
 

 
6 ปีที่ผ่านมา นโยบาย “ประปาดื่มได้” สร้างความหวังให้แก่ชาวเมืองนครศรีธรรมราชไม่น้อย และเมื่อ 6 ปีที่ผ่านไปจากผลบุญวีซ่า คสช.แถมอีก 2 ปี นโยบาย “ประปาดื่มได้” เป็นบทพิสูจน์ถึงวาทกรรมทางการเมืองที่จับต้องไม่ได้ ในทางสุขภาพ หรือสุขอนามัย ประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช อาจดื่มไม่ได้อย่างที่เคยหาเสียงคุยโว

“แต่หลายคนบอกว่า ประปาแห่งนี้ดื่มไม่ได้เป็นเรื่องจริง แต่พัฒนาไปไกลกว่านั้นแล้ว เป็นประปาที่กินได้ แต่กินได้ไม่กี่คนเท่านั้นเอง ผมไม่รู้จริงๆ เขากินได้ตรงไหน กินอย่างไร เอาอะไรมากิน ช่วยอธิบายที ผมเป็นคนโง่”