พังงา - ไกด์ชาวจีนเรียกเก็บเงินนักท่องเที่ยวชาติเดียวกันเพิ่ม อ้างเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซื้อออปชันทัวร์ไปเที่ยวเกาะพีพี ดูโชว์และอื่นๆ แต่นักท่องเที่ยวไม่ยอมจ่าย โซ! ปล่อยลูกทัวร์ 22 คน ทิ้งข้างถนน พร้อมไกด์คนไทย คนขับรถ ส่วนตัวเองหนีหาย ขณะที่เจ้าของบรินำเที่ยวรีบเคลียร์ปัญหาขอรับผิดชอบทุกกรณี พร้อมอัปเกรดโปรแกรมท่องเที่ยว ที่พัก อาหารโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (2 พ.ค.) พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผกก.สภ.โคกกลอย ได้ร่วมกับ นายสราวุธ ธนาเจริญสกุล นายอำเภอตะกั่วทุ่ง น.ส.วัชรี ชิตะวณิชศูนย์ และ น.ส.ณภัทร เจียรนัย เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์แก้ไขปัญหาการหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดพังงา Tourist Assistance Center (TAC) ติดตามให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน จำนวน 22 คน ที่ถุกไกด์จากบริษัททัวร์แห่งหนึ่งทิ้งให้อยู่ข้างถนนสาย 402 ช่วงบายพาสโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา หลังกงสุลจีนประจำจังหวัดภูเก็ต ได้ประสานขอความช่วยเหลือเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 2 พ.ค.60 จนสาสามารถส่งนักท่องเที่ยวกลับที่พักในจังหวัดภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยเมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (3 พ.ค.)
พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผกก.สภ.โคกกลอย กล่าวว่า หลังจากเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่ถูกไกด์ทิ้งไว้ข้างถนน ก็ได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงในเบื้องต้น พบว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัททัวร์แห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีไกด์ชายชาวไทย คือ นายธีระเกียติ แซ่ห่วง พร้อมกับไกด์หญิงชาวจีน ที่อยู่ในประเทศไทย พร้อมหัวหน้าทัวร์อีก 1 คน ได้นำนักท่องเที่ยวชาวจีน จำนวน 22 คน ซึ่งเดินทางมาจากมณฑลมองโกเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ออกจากจากที่พักในจังหวัดภูเก็ต เดินทางไปชมความงามใต้ท้องทะเลบริเวณหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา
แต่ขณะเดินทางกลับไกด์ชาวจีนได้แจ้งต่อนักท่องเที่ยวเพื่อขอเก็บเงินเพิ่มคนละ 1,800 หยวน หรือประมาณ 9,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซื้อออปชันทัวร์ไปเที่ยวเกาะพีพี ดูโชว์ และอื่นๆ แต่นักท่องเที่ยวไม่ตกลงเนื่องจากจ่ายเงินไปกับบริษัททัวร์ทั้งหมดแล้ว จึงขอเก็บเหลือ 1,100 หยวน หรือประมาณ 5,500 บาท ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้
ไกด์สาวชาวจีนจึงได้สั่งให้ไกด์ชาวไทยแจ้งคนขับรถให้จอด และทำทีว่ารถเสีย ก่อนจะแจ้งให้นักท่องเที่ยวชาวจีนลงจากรถ จากนั้นไกด์ชาวจีนหนีหายไป เหลือเพียงไกด์ชาวไทย และคนขับรถทัวร์ ซึ่งไม่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ นักท่องเที่ยวจึงติดต่อไปยังกงสุลจีนประจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอความช่วยเหลือ และส่งกลับที่พัก เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในทริปที่เหลือ ก่อนจะเดินทางกลับในวันที่ 6 พ.ค.60 นี้
อย่างไรก็ตาม จากการเข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานไปยังผู้จัดการสาขาของบริษัททัวร์ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งหลังทราบเรื่องทางผู้จัดการบริษัทได้เดินทางไปพบกับนักท่องเที่ยวทั้งหมดทันที เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนที่เหลือของโปรแกรมทัวร์ที่เหลืออีก 4 วัน ด้วยการอัปเกรดโรงแรมห้องพักที่ดีที่สุดให้ อัปเกรดอาหารทุกมื้อฟรี นักท่องเที่ยวไม่ต้องจ่ายค่ากิจกรรมต่างๆ ที่อยู่บนเกาะพีพี และเกาะอื่นๆ เช่น สปา 2 ชม. นวดแผนไทย ดูโชว์ต่างๆ อาหารเย็นซีฟูด เป็นต้น พร้อมทั้งเปลี่ยนไกด์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งนักท่องเที่ยวยินยอม และลงชื่อรับทราบต่อหน้าตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต
ส่วนการดำเนินคดีต่อไกด์นำเที่ยวนั้น ในส่วนของตำรวจขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อไกด์ชาวไทย ว่า ยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์แทนตน พร้อมทั้งเตรียมเรียกเจ้าของบริษัทมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ด้วยหรือไม่ ส่วนไกด์ชาวจีน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวน และดำเนินคดีในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องให้เร็วที่สุด
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (2 พ.ค.) พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผกก.สภ.โคกกลอย ได้ร่วมกับ นายสราวุธ ธนาเจริญสกุล นายอำเภอตะกั่วทุ่ง น.ส.วัชรี ชิตะวณิชศูนย์ และ น.ส.ณภัทร เจียรนัย เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์แก้ไขปัญหาการหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดพังงา Tourist Assistance Center (TAC) ติดตามให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน จำนวน 22 คน ที่ถุกไกด์จากบริษัททัวร์แห่งหนึ่งทิ้งให้อยู่ข้างถนนสาย 402 ช่วงบายพาสโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา หลังกงสุลจีนประจำจังหวัดภูเก็ต ได้ประสานขอความช่วยเหลือเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 2 พ.ค.60 จนสาสามารถส่งนักท่องเที่ยวกลับที่พักในจังหวัดภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยเมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (3 พ.ค.)
พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผกก.สภ.โคกกลอย กล่าวว่า หลังจากเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่ถูกไกด์ทิ้งไว้ข้างถนน ก็ได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงในเบื้องต้น พบว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัททัวร์แห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีไกด์ชายชาวไทย คือ นายธีระเกียติ แซ่ห่วง พร้อมกับไกด์หญิงชาวจีน ที่อยู่ในประเทศไทย พร้อมหัวหน้าทัวร์อีก 1 คน ได้นำนักท่องเที่ยวชาวจีน จำนวน 22 คน ซึ่งเดินทางมาจากมณฑลมองโกเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ออกจากจากที่พักในจังหวัดภูเก็ต เดินทางไปชมความงามใต้ท้องทะเลบริเวณหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา
แต่ขณะเดินทางกลับไกด์ชาวจีนได้แจ้งต่อนักท่องเที่ยวเพื่อขอเก็บเงินเพิ่มคนละ 1,800 หยวน หรือประมาณ 9,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซื้อออปชันทัวร์ไปเที่ยวเกาะพีพี ดูโชว์ และอื่นๆ แต่นักท่องเที่ยวไม่ตกลงเนื่องจากจ่ายเงินไปกับบริษัททัวร์ทั้งหมดแล้ว จึงขอเก็บเหลือ 1,100 หยวน หรือประมาณ 5,500 บาท ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้
ไกด์สาวชาวจีนจึงได้สั่งให้ไกด์ชาวไทยแจ้งคนขับรถให้จอด และทำทีว่ารถเสีย ก่อนจะแจ้งให้นักท่องเที่ยวชาวจีนลงจากรถ จากนั้นไกด์ชาวจีนหนีหายไป เหลือเพียงไกด์ชาวไทย และคนขับรถทัวร์ ซึ่งไม่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ นักท่องเที่ยวจึงติดต่อไปยังกงสุลจีนประจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอความช่วยเหลือ และส่งกลับที่พัก เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในทริปที่เหลือ ก่อนจะเดินทางกลับในวันที่ 6 พ.ค.60 นี้
อย่างไรก็ตาม จากการเข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานไปยังผู้จัดการสาขาของบริษัททัวร์ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งหลังทราบเรื่องทางผู้จัดการบริษัทได้เดินทางไปพบกับนักท่องเที่ยวทั้งหมดทันที เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนที่เหลือของโปรแกรมทัวร์ที่เหลืออีก 4 วัน ด้วยการอัปเกรดโรงแรมห้องพักที่ดีที่สุดให้ อัปเกรดอาหารทุกมื้อฟรี นักท่องเที่ยวไม่ต้องจ่ายค่ากิจกรรมต่างๆ ที่อยู่บนเกาะพีพี และเกาะอื่นๆ เช่น สปา 2 ชม. นวดแผนไทย ดูโชว์ต่างๆ อาหารเย็นซีฟูด เป็นต้น พร้อมทั้งเปลี่ยนไกด์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งนักท่องเที่ยวยินยอม และลงชื่อรับทราบต่อหน้าตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต
ส่วนการดำเนินคดีต่อไกด์นำเที่ยวนั้น ในส่วนของตำรวจขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อไกด์ชาวไทย ว่า ยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์แทนตน พร้อมทั้งเตรียมเรียกเจ้าของบริษัทมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ด้วยหรือไม่ ส่วนไกด์ชาวจีน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวน และดำเนินคดีในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องให้เร็วที่สุด
