นราธิวาส - ผู้ต้องหาคดีแทงคู่อริเสียชีวิตคาห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ญาตินำเข้ามอบตัวแล้ว 1 ราย เป็นเยาวชนอายุเพียง 18 ปี ส่วนอีกรายตำรวจขอเวลา 2-3 วัน รวบรวมหลักฐานเพื่ออกหมายจับต่อไป
วันนี้ (2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวกรณีที่มีการแชร์ภาพวงจรปิดในเฟซบุ๊ก และกลุ่มไลน์ผ่านโลกโซเชียล จนมีการกล่าววิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา โดยเหตุเกิดขึ้นภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่ชาย 2 คน ใช้ของมีคมบุกแทงคู่อริตายคาห้องฉุกเฉิน จนพยาบาลเวร และผู้ป่วยที่เห็นเหตุการณ์ต่างวิ่งหลบหนีกันอลหม่าน ก่อนกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่ประตูทางเข้าของโรงพยาบาลสามารถบันทึกพฤติกรรมของ 2 คนร้ายเอาไว้ได้ ขณะวิ่งหลบหนีออกจากห้องฉุกเฉิน ก่อนที่จะพากันซ้อนท้ายรถ จยย.หลบหนีไป
ล่าสุด ทางญาติของ 1 ใน 2 ผู้ต้องหาที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเอาไว้ได้ซึ่งสวมเสื้อยืดสีแดง ได้นำตัว นายอัสรี เซะ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/7 ซอยรัฐตะเสวี ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส มามอบตัวต่อ พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส โดยได้นำของกลางเป็นมีดพกปลายแหลม อาวุธปืนปากกา และโทรศัพท์มือถือมาด้วย
โดย นายอัสรี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพต่อ พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส ว่าตนเป็นผู้ร่วมก่อเหตุบุกแทง นายอัสฮา เจ๊ะเลาะ อายุ 30 ปี เสียชีวิตภายในห้องฉุกเฉินจริง เนื่องจากโกธรแค้นที่ผู้ตายได้ทำร้ายเพื่อนชื่อ นายโซเซีย หลังจากที่ขี่ และซ้อนท้ายรถ จยย.กลับจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส ได้เปรียบเทียบปรับทั้งคู่หลังจากก่อเหตุทะเลาะวิวาทภายในงานกาชาด
โดยขากลับ นายโซเซีย ซึ่งเป็นเพื่อนตนได้ขี่รถ จยย.พาผู้ตายคือ นายอัสฮา ซ้อนท้ายเข้าพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส แต่ผู้ตายคือ นายอัสฮา ยังมีความแค้นฝังใจอยู่จึงได้โทรศัพท์บอกเพื่อนอีกกลุ่มให้มาดักทำร้าย นายโซเซีย จนนายโซเซีย ได้รับบาดเจ็บจนรถเสียหลักล้มคว่ำชนป้ายบอกทาง จนมีพลเมืองดีได้ส่งผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน ส่งรักษาโรงพยาบาลนราฯ เนื่องจากคาดว่าเป็นอุบัติเหตุ
เมื่อ นายอัสรี 1 ใน 2 คนร้ายทราบว่า นายโซเซีย ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ นายอัสรี จึงได้ชวน นายอากิม ซึ่งเป็นเยาวชน และเป็นอีก 1 ผู้ต้องหาตามกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ที่ร่วมก่อเหตุบุกแทง นายอัสฮา เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ได้หลบหนีอยู่ ให้ไปดูอาการของ นายโซเซีย ที่นอนรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู และ นายโซเซีย ได้เล่าพฤติกรรมของ นายอัสฮา ผู้ตายให้รับทราบว่าเป็นคนโทรศัพท์ดักให้เพื่อนมาทำร้ายตนจึงเกิดความแค้น
และในระหว่างที่เดินผ่านห้องฉุกเฉินเห็น นายอัสฮา ผู้ตายนั่งอยู่ในระหว่างรอญาติมารับกลับบ้าน นายอัสรี และนายอากิม ซึ่งเป็นเยาวชนที่หลบหนีเกิดความแค้น จึงได้เดินไปใช้มีดพกปลายแหลมแทง นายอัสฮา ผู้ตายที่ลำคอจนเสียชีวิตคาห้องฉุกเฉิน ก่อนที่จะพากันวิ่งหลบหนีซ้อนท้ายรถ จยย.
นอกจากนี้แล้ว นายอัสรี 1 ใน 2 คนร้ายที่เข้ามอบตัวในครั้งนี้ยังได้รับสารภาพอีกด้วยว่า ในช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ตนได้ใช้อาวุธปืนปากกายิง นายสมพร ขุนอำไพ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุเกิดบนถนนภายในเขตเทศบาล หลังจากที่ตนขี่รถ จยย.ชนท้ายของนายสมพร ได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ภรรยาของนายสมพร ไม่ยอมความ แถมด่าตนด้วยคำหยาบคาย ตนจึงมีความโกรธใช้อาวุธปืนปากกายิงนายสมพร ถูกที่สร้อยคอ ก่อนหลบหนีตนได้หยิบโทรศัพท์มือถือของนายสมพร หลบหนีไปด้วย 1 เครื่อง
ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุทำร้ายร่างกายนี้แล้ว ตนจะประสาน ผอ.โรงพยาบาลเพื่อหามาตรการป้องกัน ส่วนคนร้ายที่หลบหนีอีก 1 คน คือ นายอากิม ยาเซาะ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเยาวชน อีกประมาณ 2-3 วัน จะรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป
