ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เปิดตัวชมรมสื่อมวลชน จ.ตรัง รวมพลังออกแถลงการณ์จี้ถอนร่าง พ.ร.บ.คุมสื่อออกจาก สปท. ชี้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพนำเสนอข้อมูลข่าวสาร พร้อมฝากหากจะออกกฎหมายเกี่ยวกับสื่อต้องเปิดให้สื่อมีส่วนร่วม
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่ห้องแถลงข่าวชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดตรัง มีการประชุมจัดตั้งคณะกรรมการชมรมสื่อมวลชนจังหวัดตรัง ซึ่งประกอบด้วยสื่อมวลชนทุกแขนงใน จ.ตรัง ทั้งสื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ รวมทั้งสื่อออนไลน์ เพื่อเป็นการรวมพลังการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานวิชาชีพ กำกับดูแลการทำงานภายใต้กรอบจริยธรรมวิชาชีพ โดยมีการร่างข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เลือกคณะทำงาน กำหนดกิจกรรมพัฒนาทักษะวิชาชีพ ตลอดจนผลิตวารสารสื่อมวลชน จ.ตรัง เพื่อนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพสื่อมวลชน และประชาชนชาวตรัง
นอกจากนี้ ยังมีวาระสำคัญเพื่อกำหนดท่าทีต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ... โดยที่ประชุมได้วิเคราะห์ถึงผลดีผลเสีย โดยเฉพาะผลกระทบของ พ.ร.บ.ดังกล่าวต่อสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยเฉพาะประเด็นการขึ้นทะเบียนสื่อ บทกำหนดโทษ ที่สำคัญคือ ที่มาของกรรมการสภาวิชาชีพที่สะท้อนภาพของการเข้าควบคุมสื่อ โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกจากการพิจารณาของ สปท. และเปิดให้มีกระบวนการการมีส่วนร่วมของสื่อมวลชนในการจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อการทำหน้าที่สื่อมวลชน ภายใต้กรอบจริยธรรมวิชาชีพในอนาคต
จากนั้นในที่ประชุมได้ร่วมออกแถลงการณ์ในนาม “แถลงการณ์สื่อมวลชนจังหวัดตรัง” โดยมี น.ส.กรรณิการ์ สุขะกิจ ประธานชมรมสื่อมวลชนจังหวัดตรัง นำสมาชิกอ่านแถลงการณ์สื่อมวลชนจังหวัดตรัง ความว่า ตามที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ... ตามที่คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสื่อสารมวลชนเสนอ ซึ่งได้ถูกคัดค้านจากองค์กรวิชาชีพสื่อ และนักข่าวภาคสนามมาตามลำดับนั้น ชมรมสื่อมวลชนจังหวัดตรัง มีความเห็น และมีมติร่วมกันว่า การที่ สปท.เตรียมผลักดันร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเพื่อให้มีการบังคับใช้เป็นกฎหมายในอนาคต จะส่งผลให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อ รวมไปถึงบุคคลที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการสื่อสาร และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต้องตกอยู่ในสภาวะที่ถูกกำกับควบคุม จนมิอาจใช้สิทธิเสรีภาพของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดไว้
ทั้งนี้ โดยหลักแล้วการผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการสื่อสารมวลชน ควรเป็นไปในลักษณะมุ่งคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน โดยไม่มีเจตนาแอบแฝง ในอันที่จะต้องให้กลไกการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนเป็นไปอย่างอิสระภายใต้กรอบของกฎหมาย ปราศจากการครอบงำของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ... หากเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้นี้
ดังนั้น ชมรมสื่อมวลชนจังหวัดตรัง มีมติ และความเห็นร่วมกันว่า สปท.ควรถอนร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ออกไป และให้ทบทวนเนื้อหา และหลักการสาระสำคัญของร่างฯ พ.ร.บ.ที่ส่งผลกระทบต่อวิชาชีพสื่อมวลชนโดยตรง โดยให้รับฟังความคิดเห็นของสื่อมวลชนที่ปฏิบัติหน้าที่กระจัดกระจายไปทั่วประเทศ และมีสิทธิมีเสียงให้เป็นไปตามการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
ชมรมสื่อมวลชนจังหวัดตรัง ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2560