ยะลา - กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุระเบิด เผาเสาไฟฟ้า และสายส่งสัญญาณโทรศัพท์หลายจุดในชายแดนใต้
วันนี้ (25 เม.ย.) ณ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงถึงความคืบหน้าทางคดีคนร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิด เผาเสาไฟฟ้า และสายส่งสัญญาณโทรศัพท์จำนวนหลายจุด เมื่อวันที่ 6-7 เมษายน 2560 ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวทางรัฐบาลได้มีบัญชาให้เร่งรัดบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ ทาง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และ รอง ผอ.รมน.ได้สั่งการให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า บูรณาการร่วมกับกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐาน ตลอดจนสถานการณ์ด้านการข่าวเพื่อปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล
ในการนี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้ทุกส่วนเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐาน ตลอดจนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และกล้องวงจรปิด เพื่อบังคับใช้กฎหมายนำไปสู่ความคืบหน้าของคดี คือ จุดเกิดเหตุในพื้นที่อำเภอมายอ จ.ปัตตานี การรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์พบสารพันธุกรรม (DNA) ที่แผงวงจรจุดระเบิดตรงกับ นายมัฮหมูด หาแว ซึ่งนายมัฮหมูด หาแว ถูกจับกุมตัวในคดีอนาจารเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 ก่อนเกิดเหตุหนึ่งวัน ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส
จากการสอบสวนเชื่อว่า นายมัฮหมูด หาแว มีส่วนเกี่ยวข้องในการประกอบชุดวงจรระเบิดสำหรับใช้ในการประกอบระเบิดก่อนที่จะถูกจับกุมตัว จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้นำวงจรระเบิดไปประกอบระเบิด และนำมาก่อเหตุ พนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ ป.วิอาญา บุคคลดังกล่าวไว้แล้ว
“จุดเกิดเหตุในพื้นที่ตำบลจะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ตรวจพบสารพันธุกรรม (DNA) บริเวณแผงวงจรระเบิดตรงกับ นายอัสรีย์ โต๊ะเย๊ะ เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย จึงได้ทำการควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก เพื่อซักถามที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2560 ผลการซักถาม นายอัสรีย์ ให้การว่าถูกชักชวนให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วม และเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2560 มีชาย 2 คนซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้มาพบที่บ้าน และสั่งให้ทำแผงวงจรระเบิด จำนวน 3 ชุด หลังจากนั้น ก็เกิดเหตุการณ์ในวันที่ 6-7 เมษายน 2560 ซึ่งดีเอ็นเอของ นายอัศรีย์ ไปปรากฏอยู่ในระเบิด จึงเชื่อได้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้เกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ นำสู่การที่ศาลอนุมัติหมายจับ ป.วิอาญา เพื่อดำเนินการต่อไป” พ.อ.ยุทธนาม กล่าว
รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จากการตรวจสอบสารพันธุกรรม (DNA) เชื่อมโยงถึงบุคคลผู้ประกอบระเบิดในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดปัตตานี ซึ่งนำไปสู่การที่ศาลสามารถออกหมายจับ ป.วิอาญา ได้อีก 1 คน
นอกจากนี้ จากการรวบรวมหลักฐานทางพันธุกรรม พบความเชื่อมโยงเหตุระเบิดระหว่างวันที่ 6-7 เมษายน 2560 กับอีกหลายเหตุการณ์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทางเจ้าหน้าที่ที่จะได้สืบหาผู้ก่อเหตุโดยการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน และขยายผลสู่การออกหมายจับได้อีกหลายคน สรุปในขณะนี้สามารถออกหมายจับได้ จำนวน 3 หมาย และควบคุมผู้กระทำผิดได้ จำนวน 2 ราย และเชื่อว่าจากพยานหลักฐานตลอดจนการรวบรวมข้อมูลทางด้านการข่าวจะสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อีกหลายราย
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยึดมั่นในนโยบายการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ทางผู้บัญชาการทหารบก ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ตลอดจนบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เรื่องการใช้ไฟฟ้าโดยด่วน ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว จนทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ ตลอดจนทำให้กระแสไฟฟ้ากลับมาใช้ได้ตามปกติโดยเร็วและยังคงเดินหน้าในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายต่อไป