xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ตรังมั่นใจพยานหลักฐานมัดแน่น คดี 2 พี่น้องรูดทรัพย์หนุ่มในโรงแรมม่านรูด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองตรัง ยืนยันคดี 2 สาวพี่น้องมอมยารูดทรัพย์หนุ่มในโรงแรมม่านรูด มีพยานหลักฐานมัดตัวชัดเจน ทั้งกล้องวงจรปิด และบุคคลต่างๆ หลังมีการเข้าร้องต่อสื่อที่ จ.ภูเก็ต

วันนี้ (19 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.จรูญ สังขารา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองตรัง เจ้าของคดีที่ น.ส.ศุภนุช บัวสนิท กับนางจุไรรัตน์ บัวสนิท สองสาวซึ่งเป็นพี่น้องกัน และอ้างว่าตกเป็นแพะในคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยได้เข้าไปร้องต่อสมาคมผู้สื่อข่าวภูเก็ต เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ เนื่องจาก น.ส.ศุภนุช ถูกศาลอุทธรณ์ภาค 9 ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกเป็นเวลา 5 ปี และขณะนี้ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรัง โดยสามีของผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นคนละคนกับภาพจากกล้องวงจรปิด และไม่ได้นำผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย อีกทั้งยังพบข้อพิรุธอีกหลายจุด
 

 
ทั้งนี้ พ.ต.ต.จรูญ ได้นำสำนวนคดีดังกล่าวออกมาชี้แจงว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2558 เมื่อ นายคมสัน ฝันนิมิต ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ โดยอ้างว่าถูก น.ส.ศุภนุช พาไปนั่งรับประทานอาหาร 2-3 ร้าน ก่อนที่จะพากันไปเข้าโรงแรมม่านรูด และดื่มสุราจนกระทั่งหลับไป พอตื่นขึ้นมาพบว่า สร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือ มูลค่ากว่า 100,000 บาท ได้หายไป จึงเชื่อว่าน่าจะถูก 2 สาวพี่น้องมอมยารูดทรัพย์

เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ น.ส.ศุภนุช ได้โทรศัพท์ไปให้ นางจุไรรัตน์ พี่สาว ซื้อน้ำแข็งและโซดามาให้ที่ห้องพักก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่หลังเกิดเหตุผู้ต้องหา 2 พี่น้องยังคงปฏิเสธ และต่อสู้ในชั้นศาล กระทั่งต่อมา ศาลจังหวัดตรัง ได้ยกฟ้อง นางจุไรรัตน์ เพียงคนเดียว ส่วน น.ส.ศุภนุช ศาลตัดสินสินจำคุกเป็นเวลา 5 ปี
 

 
พ.ต.ต.จรูญ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุได้ให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย แต่ผู้เสียหายเผลอหลับ จึงไม่เข้าไปตรวจตามที่หมอเรียก ซึ่งคดีนี้ตนไม่ได้ออกหมายจับแต่เป็นหมายเรียก เนื่องจากไม่มีผลตรวจร่างกายของผู้เสียหาย จึงไม่ฟันธงว่าถูกมอมยาจริงหรือไม่ จึงตั้งข้อหา 2 พี่น้องว่าร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พร้อมเปิดโอกาสให้ น.ส.ศุภนุช หาพยานหลักฐานที่มีในวันเกิดเหตุมาให้ แต่ปรากฏว่า น.ส.ศุภนุช ไม่ได้มีพยานหลักฐานอื่นใดเพิ่มเติม นอกจากพี่สาวของเขาเพียงคนเดียว

ขณะที่ตำรวจมีพยานหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อมก่อนเกิดเหตุ 2-3 ร้าน ที่จำใบหน้าของ น.ส.ศุภนุช ได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งที่ทำงานเก่าของ น.ส.ศุภนุช ก็ยืนยันว่า เคยเป็นพนักงานในโรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางเมืองตรัง ก่อนที่จะเดินทางไปทำงานที่ จ.ภูเก็ต และเคยไปใช้บริการร้านอาหารต่างๆ จนพนักงานในร้านเหล่านั้นจดจำได้หลายครั้งหลายหน ดังนั้น ตนจึงเชื่อมั่นว่าพยานหลักฐานในการดำเนินคดีต่อ น.ส.ศุภนุช ที่มีอยู่นั้นชัดเจนมาก และพร้อมให้ความร่วมมือต่อทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากมีการประสานมา
 
กำลังโหลดความคิดเห็น