พังงา - วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวยากจนรายได้น้อย บ้านหลังเดียวอยู่ 7 คน เคราะห์กรรมซ้ำร้าย ตาประสบอุบัติเหตุเรือชนกับโขดหินทำให้ซี่โครงหัก ส่วนยายป่วยเป็นโรคฝีในปอด ทำให้ต้องเจาะปอด มีอาการหอบ และเหนื่อย
เมื่อวันนี้ (11 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพบ้านไม้ยกพื้นชั้นเดียว เลขที่ 74/4 หมู่ 4 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา ที่ผุพัง และต้องเดินเข้าบ้านด้วยสะพานไม้เสื่อมโทรม สร้างความลำบากแก่ผู้อยู่อาศัย เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น ยิ่งสภาพภายในบ้านมีเพียงเสื้อผ้า เครื่องครัว อยู่ภายในห้องเดียวกัน มีเพียงห้องน้ำเท่านั้นที่แยกอยู่นอกตัวบ้าน บ้านหลังดังกล่าวมีผู้อาศัยถึงจำนวน 7 คน โดยมี นายม่าเด็น หอมหวล อายุ 79 ปี เป็นหัวหน้าครอบครัว และขณะนี้ไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากอุบัติเหตุเรือชนกับโขดหินเมื่อหลายปีก่อน จนทำให้ซี่โครงหัก ทำการผ่าตัดหลายรอบ และนางสุดใจ วาหะรักษ์ ภรรยาเป็นผู้ดูแล และทำมาหากินแทนหัวหน้าครัวเรือนนี้ เคราะห์กรรมซ้ำร้าย เมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นางสุดใจ ป่วยเป็นโรคฝีในปอด ทำให้ต้องเจาะปอด มีอาการหอบ และเหนื่อย ประกอบกับเรือที่ใช้ในการออกทะเลหาสัตว์น้ำแต่เรือของครัวเรือนรั่วไม่มีเงินซ่อมแซมจึงไม่สามารถหาสัตว์น้ำได้
ส่วนรายได้ต้องพึ่งลูกชายทำงานก่อสร้างได้เงินบ้างไม่ได้เงินบ้าง ยังดีที่เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงช่วยเหลือ หาปลาหาสัตว์น้ำมาแบ่งให้เพื่อได้กินประทังชีวิตในแต่ละวัน สำหรับลูกสาวคนเล็กอายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 2 ได้ไปโรงเรียนบ้างไม่ได้ไปบ้าง เนื่องจากไม่มีเงินไปโรงเรียน จนคุณครูที่โรงเรียนต้องมาติดตามพยายามให้ไปเรียนหวังว่าจนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3
นางสุดใจ วาหะรักษ์ อายุ 40 ปี ภรรยานายม่าเด็น กล่าวว่า ครอบครัวตนเองอยู่ด้วยความลำบาก รายได้ต้องหวังพึ่งพาลูกชายที่ทำงานก่อสร้างเป็นค่าจ้างรายวัน บางครั้งไม่มีงานก็ไม่มีรายได้ ยังดีที่เพื่อนบ้านช่วยเหลือหาอาหารมาแบ่งปันบ้าง หาพืชผักในละแวกบ้านบ้าง พอได้กินไปแต่ละมื้อ เมื่อรายได้น้อยอาศัยซื้อข้าวสารเป็นกิโลกรัมประทังชีวิตไปแต่ละมื้อ สำหรับสิ่งของที่จำเป็นหากมีผู้ช่วยเหลือครอบครัวตนเองต้องการให้ช่วยเรื่องเรือ ซึ่งต้องใช้เงินซ่อมประมาณ 2,000 บาท เพื่อเป็นเครื่องมือในการประทังชีวิต ส่วนบ้านที่ผุพังไม่รู้ว่าจะพังลงมาเมื่อใดเพราะสภาพทรุดโทรมมาก และอาศัยอยู่กันหลายคน และเรื่องเงินการศึกษาของลูกสาว ปัจจุบันลูกสาวได้ไปโรงเรียนบ้างไม่ได้ไปบ้าง โดยให้เงินไปโรงเรียนวันละ 40 บาท หากไม่มีเงินลูกสาวก็ไม่ได้ไป ทำให้คุณครูที่โรงเรียนมาเยี่ยมบ้าน และขอให้ลูกสาวไปโรงเรียน เสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน คุณครู เป็นผู้ช่วยเหลือตามกำลัง
ด้าน นายดลหล้อ สาระกิจ อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านกล่าวว่า ตนเองเป็นกรรมการอิสลามประจำหมู่บ้าน เห็นครัวเรือนนี้ยากจนมาก ซึ่งเพื่อนบ้านในหมู่บ้านต่างมีน้ำใจช่วยเหลือกันตามกำลัง นอกจากนี้ หากมีเงินบริจาคทานมาก็จะนึกถึงครอบครัวนี้เป็นหลัก ตนเองอยากให้ครอบครัวนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้ สามารถอยู่ในสังคมได้ โดยเฉพาะสะพานหากวันไหนที่คนในครัวเรือนเจ็บป่วยเพื่อนบ้านยังไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปเยี่ยมเยือน ก่อนหน้านี้ ลูกชายวัย 9 ขวบของนายม่าเด็น พลัดตกสะพานจนจมน้ำเสียชีวิตรายหนึ่งแล้ว จึงไม่อยากให้เหตุการณ์ซ้ำรอย จึงขอให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้าช่วยเหลือครอบครัวนี้ด้วยนับว่าเป็นบุญเป็นกุศลอย่างยิ่ง
สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือสามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่ หมายเลขบัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาทับปุด บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (โครงการ) บัญชีเลขที่020075403501
เมื่อวันนี้ (11 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพบ้านไม้ยกพื้นชั้นเดียว เลขที่ 74/4 หมู่ 4 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา ที่ผุพัง และต้องเดินเข้าบ้านด้วยสะพานไม้เสื่อมโทรม สร้างความลำบากแก่ผู้อยู่อาศัย เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น ยิ่งสภาพภายในบ้านมีเพียงเสื้อผ้า เครื่องครัว อยู่ภายในห้องเดียวกัน มีเพียงห้องน้ำเท่านั้นที่แยกอยู่นอกตัวบ้าน บ้านหลังดังกล่าวมีผู้อาศัยถึงจำนวน 7 คน โดยมี นายม่าเด็น หอมหวล อายุ 79 ปี เป็นหัวหน้าครอบครัว และขณะนี้ไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากอุบัติเหตุเรือชนกับโขดหินเมื่อหลายปีก่อน จนทำให้ซี่โครงหัก ทำการผ่าตัดหลายรอบ และนางสุดใจ วาหะรักษ์ ภรรยาเป็นผู้ดูแล และทำมาหากินแทนหัวหน้าครัวเรือนนี้ เคราะห์กรรมซ้ำร้าย เมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นางสุดใจ ป่วยเป็นโรคฝีในปอด ทำให้ต้องเจาะปอด มีอาการหอบ และเหนื่อย ประกอบกับเรือที่ใช้ในการออกทะเลหาสัตว์น้ำแต่เรือของครัวเรือนรั่วไม่มีเงินซ่อมแซมจึงไม่สามารถหาสัตว์น้ำได้
ส่วนรายได้ต้องพึ่งลูกชายทำงานก่อสร้างได้เงินบ้างไม่ได้เงินบ้าง ยังดีที่เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงช่วยเหลือ หาปลาหาสัตว์น้ำมาแบ่งให้เพื่อได้กินประทังชีวิตในแต่ละวัน สำหรับลูกสาวคนเล็กอายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 2 ได้ไปโรงเรียนบ้างไม่ได้ไปบ้าง เนื่องจากไม่มีเงินไปโรงเรียน จนคุณครูที่โรงเรียนต้องมาติดตามพยายามให้ไปเรียนหวังว่าจนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3
นางสุดใจ วาหะรักษ์ อายุ 40 ปี ภรรยานายม่าเด็น กล่าวว่า ครอบครัวตนเองอยู่ด้วยความลำบาก รายได้ต้องหวังพึ่งพาลูกชายที่ทำงานก่อสร้างเป็นค่าจ้างรายวัน บางครั้งไม่มีงานก็ไม่มีรายได้ ยังดีที่เพื่อนบ้านช่วยเหลือหาอาหารมาแบ่งปันบ้าง หาพืชผักในละแวกบ้านบ้าง พอได้กินไปแต่ละมื้อ เมื่อรายได้น้อยอาศัยซื้อข้าวสารเป็นกิโลกรัมประทังชีวิตไปแต่ละมื้อ สำหรับสิ่งของที่จำเป็นหากมีผู้ช่วยเหลือครอบครัวตนเองต้องการให้ช่วยเรื่องเรือ ซึ่งต้องใช้เงินซ่อมประมาณ 2,000 บาท เพื่อเป็นเครื่องมือในการประทังชีวิต ส่วนบ้านที่ผุพังไม่รู้ว่าจะพังลงมาเมื่อใดเพราะสภาพทรุดโทรมมาก และอาศัยอยู่กันหลายคน และเรื่องเงินการศึกษาของลูกสาว ปัจจุบันลูกสาวได้ไปโรงเรียนบ้างไม่ได้ไปบ้าง โดยให้เงินไปโรงเรียนวันละ 40 บาท หากไม่มีเงินลูกสาวก็ไม่ได้ไป ทำให้คุณครูที่โรงเรียนมาเยี่ยมบ้าน และขอให้ลูกสาวไปโรงเรียน เสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน คุณครู เป็นผู้ช่วยเหลือตามกำลัง
ด้าน นายดลหล้อ สาระกิจ อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านกล่าวว่า ตนเองเป็นกรรมการอิสลามประจำหมู่บ้าน เห็นครัวเรือนนี้ยากจนมาก ซึ่งเพื่อนบ้านในหมู่บ้านต่างมีน้ำใจช่วยเหลือกันตามกำลัง นอกจากนี้ หากมีเงินบริจาคทานมาก็จะนึกถึงครอบครัวนี้เป็นหลัก ตนเองอยากให้ครอบครัวนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้ สามารถอยู่ในสังคมได้ โดยเฉพาะสะพานหากวันไหนที่คนในครัวเรือนเจ็บป่วยเพื่อนบ้านยังไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปเยี่ยมเยือน ก่อนหน้านี้ ลูกชายวัย 9 ขวบของนายม่าเด็น พลัดตกสะพานจนจมน้ำเสียชีวิตรายหนึ่งแล้ว จึงไม่อยากให้เหตุการณ์ซ้ำรอย จึงขอให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้าช่วยเหลือครอบครัวนี้ด้วยนับว่าเป็นบุญเป็นกุศลอย่างยิ่ง
สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือสามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่ หมายเลขบัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาทับปุด บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (โครงการ) บัญชีเลขที่020075403501
