xs
xsm
sm
md
lg

รองโฆษก กอ.รมน.ชี้แจงเหตุ จนท.ยิงปะทะกลุ่มคนร้ายที่รือเสาะ ก่อนวิสามัญดับ 2 ศพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงเหตุ จนท.ยิงปะทะกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ตรวจสอบเบื้องต้นมีหมายจับ ป.วิอาญา 3 หมาย และมีส่วนเกี่ยวข้องต่อคดียิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพร้อมครอบครัวเสียชีวิต 4 ศพ เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2560 ส่วนอาวุธปืนที่ยึดได้ในที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายได้ขโมยไปจากเจ้าหน้าที่เมื่อปี 2556

วันนี้ (30 มี.ค.) ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีเกิดเหตุปะทะ เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันพุธที่ 29 มีนาคม 2560 ในพื้นที่เขตรอยต่อระหว่างบ้านไอร์จือนะห์ หมู่ 5 กับบ้านธรรมเจริญ หมู่ 6 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้ผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต 2 รายนั้น

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงรายละเอียด ดังนี้
1.เหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการเชิงรุกตามนโยบาย ข้อสั่งการของ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หลังจากที่ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงครอบครัวของ นายสมชาย ทองจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านศรีภิญโญ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ ขณะขับรถพาลูกๆ ไปส่งโรงเรียน จน นายสมชาย พี่สาว ภรรยา และลูกชายวัย 8 ขวบ เสียชีวิตรวม 4 ศพ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นเป็นเหตุสะเทือนขวัญ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามกลุ่มคนร้ายที่กระทำผิดมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามในการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล และวัตถุพยานที่ได้จากที่เกิดเหตุ ประกอบกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลข่าวสารว่า พบกลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ จึงได้ผนึกกำลังร่วมระหว่างหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษสำนักอำนวยการข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมสนธิร่วมกำลัง 3 ฝ่าย เข้าดำเนินการติดตามเป้าหมายในพื้นที่ดังกล่าว และได้มีการจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อป้องกันการหลบหนีของกลุ่มคนร้าย

2.ความคืบหน้าด้านคดี จากการตรวจสอบพบว่า เหตุเกิดขึ้นในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังร่วม 3 ฝ่าย ได้ตั้งจุดตรวจอยู่นั้นได้มีการเรียกตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ผ่านเส้นทางดังกล่าว และเมื่อเวลา 13.30 น. ก็ได้เรียกตรวจรถยนต์ของบุคคลต้องสงสัย ซึ่งรถคันดังกล่าวได้วิ่งฝ่าด่าน พร้อมทั้งได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ แล้วเกิดยิงปะทะกันจนเป็นเหตุให้ผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อคือ นายอาเซ็ง อูเซ็ง อายุ 30 ปี และนายอิสมาแอ หามะ อายุ 28 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.รือเสาะ บริเวณที่เกิดเหตุพบปืนเอ็มโฟร์ และอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ตกอยู่อย่างละ 1 กระบอก โดยอาวุธเอ็มโฟร์ พบว่า คนร้ายได้ยึดมาจากเหตุยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อปี 2556 ส่วนอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. คนร้ายได้ยึดมาจากเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกตาบารู ขณะทำพิธีละหมาด เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2556 นอกจากนี้ ยังพบว่า นายอาเซ็ง อูเซ็ง ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย ประกอบด้วย หมายจับ ป.วิอาญา ศาลาจังหวัดนราธิวาส ที่ จ.578/59 ลงวันที่ 3 พ.ย.59 หมายจับ สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ตามคดีอาญาที่ 165/59 ในข้อหา ร่วมกันก่อการร้าย หมายจับ ป.วิอาญา ศาลาจังหวัดยะลา ที่ 310/59 ลง 25 ส.ค.59 หมายจับ สภ.รามัน จ.ยะลา ตามคดีอาญาที่ 121/59 ในข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น และหมายจับ ป.วิอาญา ศาลาจังหวัดยะลา ที่ จศ 22/58 ลงวันที่ 30 ม.ค. 58 หมายจับ สภ.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา ตามคดีอาญาที่ 14/56 ในข้อหาฆ่าเจ้าพนักงาน ผู้ช่วยเจ้าพนักงานฯ

3.จากแนวทางการสืบสวนวัตถุสงสัย วัตถุพยาน และบุคคลที่ถูกควบคุมตัวจากเหตุกราดยิงครอบครัวของ นายสมชาย ทองจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านศรีภิญโญ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ ขณะขับรถพาลูกๆ ไปส่งโรงเรียน จน นายสมชาย พี่สาว ภรรยา และลูกชายวัย 8 ขวบ เสียชีวิตรวม 4 ศพ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2560 นั้น เชื่อได้ว่า นายอิสมาแอ หามะ และนายอาเซ็ง อุเซ็ง มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการก่อเหตุดังกล่าว และได้มีการติดตามพฤติกรรมของบุคคลทั้ง 2 ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การยิงปะทะกันในครั้งนี้

4.สำหรับเหตุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย โดยเจ้าหน้าที่ได้กระทำการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยได้เรียกให้ผู้ต้องสงสัยจอดรถเพื่อตรวจสอบ แต่คนร้ายกลับฝ่าด่าน และใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้จนเกิดเหตุขึ้นดังกล่าว

5.ทางกองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่เห็นต่างจากรัฐเข้าแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยแสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านเพื่อร่วมกันพัฒนาพื้นที่ พร้อมกันนี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน.ภาค 4 ยังได้จัดทำเบอร์โทรพิเศษ เพื่อรับรายงานตัวเข้าร่วมโครงการโดยเฉพาะ จึงขอเชิญชวนผู้เห็นต่างเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยโทรศัพท์ผ่านเบอร์โทรพิเศษหมายเลข 09-2532-4989 ได้ทุกเวลา ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมที่จะเดินทางไปรับด้วยตนเอง
 
กำลังโหลดความคิดเห็น