กระบี่ - จัดกำลังทหาร ตำรวจ และ อส.กว่า 100 นาย คุมเข้มเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานในพื้นที่ภาคใต้ ที่ จ.กระบี่ ขณะที่กลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน เตรียมแถลงการณ์ต่อการจัดเวที ของ คสช. และแถลงจุดยืนกรณีโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (27 มี.ค.) ที่โรงแรมกระบี่ มารีไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา รีสอร์ท อ.เมือง จ.กระบี่ ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดฝั่งอันดามัน กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าภาคใต้ ได้ทยอยเดินทางมาลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมเวที ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด มีการนำเครื่องสแกนบัตร และเครื่องตรวจจับโลหะแบบเดินผ่านมาติดตั้งที่บริเวณทางเข้า พร้อมตรวจค้นกระเป๋าทุกคนที่เดินผ่าน นอกจากนี้ ยังมีการนำรถบรรทุกนักโทษมาจอดไว้ที่ด้านหน้าด้วย
สำหรับพิธีการเริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 09.50 น.โดยเนื้อหาสาระในการประชุมวันนี้ในช่วงเช้า จะเป็นการบรรยายเรื่องสถานการณ์การใช้พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนผ.) การบรรยายเรื่องทางเลือกที่เหมาะสมและการยอมรับได้ในการสร้างโรงไฟฟ้าโดย กฟผ. และในช่วงบ่าย จะมีการรับฟังความคิดเห็นจากภาครัฐ และเอกชนเพื่อสรุปข้อมูลส่งให้ คสช.พิจารณาในการประกอบความคิดเห็นจะสร้างหรือไม่สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินต่อไป
ขณะเดียวกัน กลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินก็ได้มีการเตรียมเดินทางมายังเวทีที่มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวเช่นกัน โดยทาง นายประสิทธิชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ ได้มีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า ในช่วงเวลา 09.00 น. จะมีการแถลงข่าวที่บริเวณสถานที่ประชุม และ และหลังเสร็จสิ้นการประชุมในเวลา 17.30 น. เพื่อแสดงจุดยืนต่อโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในจังหวัดกระบี่
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายประสิทธิชัย ได้มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดในการแถลงการณ์ดังกล่าวมีใจความโดยสรุป ว่า เห็นด้วยต่อโจทย์ของ คสช.ที่ต้องการหาทางออกเรื่องพลังงานในภาคใต้ที่ไม่ผูกกับโรงไฟฟ้าถ่านหิน แต่ไม่เห็นด้วยต่อกระบวนการจัดงานที่โน้มเอียงไปในทางการให้ข้อมูลด้านเดียวแก่ผู้รับฟัง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดไปตลอด
เพราะผู้เข้าฟังส่วนใหญ่เป็นฝ่ายปกครองที่ส่งผลต่อความคิดของประชาชน และข้อมูลทั้งหมดเกิดจากเจ้าของโครงการผู้จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพียงฝ่ายเดียว แต่ก็จะร่วมนำเสนอทางออกพลังงานภาคใต้ในเวทีนี้ ด้วยเห็นว่าโจทย์ทางออกควรจะได้พูดคุยกันมานานแล้ว รัฐบาลหรือ คสช.ไม่ควรนำข้อมูลการรับฟังความเห็นดังกล่าวไปสู่การตัดสินใจอนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน