สตูล - คณะพนักงานสอบสวน “คดียึดเวที ค.1” โครงการท่าเรือปากบารา นัดแรกเรียกสอบ 8 พยานผู้เกี่ยวข้องตั้งเวที หลังกล่าวหา 3 แกนนำตาม พ.ร.บ.ชุมนุม
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ สภ.ละงู ชั้น 3 ตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ได้เรียกพยาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการตั้งเวทีแสดงความคิดเห็น ครั้งที่ 1 หรือ ค.1 ให้ปากคำครั้งแรก โดยมี นายนาวี พรหมทรัพย์ ในนามผู้ริเริ่มโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือนลึกปากบารา พร้อมพวกอีก 8 คน เดินทางมาร่วมเป็นพยานให้ปากคำในครั้งนี้ พร้อมนำภาพนิ่งที่บันทึกในเหตุการณ์ว่ามีการถูกทำลายของทรัพย์สินของผู้จัดเวที ตัวอาคารโรงเรียนที่พังชำรุด
โดยมี พ.ต.อ.ชัชพิสิฐ นคราวงศ์ รอง ผบก.ตร.ภ.จว.สตูล ประธานคณะพนักงานสอบสวน คดีพิเศษเหตุชุมนุมยึดเวทีแสดงความคิดเห็น ครั้งที่ 1 หรือ ค.1 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2560 ที่โรงเรียนบ้านปากบาง ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล หลังตำรวจได้เป็นผู้กล่าวหาการชุมนุมในครั้งนั้นตาม พ.ร.บ.การชุมนุม จากการเข้ายึดพื้นที่ของกลุ่มผู้มีความเห็นต่าง รอบนอกของอาคารโรงเรียนเพื่อไม่ให้เกิดการเปิดเวทีในวันรุ่งขึ้นนั้น ในกลางดึกของวันที่ 15 มีนาคม 2560 เป็นเหตุให้ไม่สามารถเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นได้
นายนาวี พรหมทรัพย์ ผู้ริเริ่มโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา บอกว่า การเดินทางมาเป็นพยานให้ปากคำในครั้งนี้ เพื่อยืนยันถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายในครั้งนั้นสร้างความเสียหาย โดยนำภาพนิ่งและการชำรุดเสียหายของโรงเรียน และทรัพย์สินรวมมูลค่าแสนบาท และบุคคลที่ถูกทำร้ายจากการชุมนุมในครั้งนี้ เพียงเพื่อจะเข้าไปฟังร่วมเป็นพยานด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้แจ้งถูกทำร้ายร่างกายด้วยเช่นกัน และเร็วๆ นี้ เจ้าท่า และบริษัทก็จะเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดด้วยเช่นกัน เพราะเม็ดเงินที่ใช้ในการจัดทำเวที 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินภาษีประชาชนต้องหายไป และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ และอยากถามกลับเช่นกันว่า ก่อนเปิดเวที ค.1 กลุ่มผู้คัดค้านฯ นำเม็ดเงินมาจากไหนในการจ้างวงดนตรี จัดงานที่ลาน 18 ล้าน ปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู เชื่อว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังในการทำเรื่องเหล่านี้ในการขัดขวางไม่ให้เกิดท่าเรือน้ำลึกปากบารา เข้ามาปั่นหัวคนสตูล
สำหรับการดำเนินคดีของแกนนำขณะนี้พบว่า มี 3 คน ที่ถูกกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุม คือ นายสมบูรณ์ คำแหง นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี และนายไกรวุฒิ ชูสกุล ซึ่งยังไม่มีการกล่าวหาโทษเพิ่มเติมอย่างไร จนกว่าจะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน
ขณะที่ด้าน นายไกรวุฒิ ชูสกุล หนึ่งในเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ยังคงยืนยันว่าการชุมนุมที่โรงเรียนบ้านปากบาง ของเวที ค.1 นั้น เป็นการแสดงออกเพื่อปกป้องทรัพยากรตามสิทธิและหน้าที่ประชาชน ไม่ได้ชุมนุมเพื่อก่อความวุ่นวาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วว่าควรให้ยุติเวที ค.1 ด้วยความไม่ชอบทั้งปวงที่เสนอไปแล้ว รวมทั้งผู้ใหญ่ในรัฐบาลที่มีการทำหนังสือส่งถึงด้วยเช่นกัน
“ส่วนการตั้งข้อสังเกตของการใช้จ่ายในการทำเวทีคู่ขนานยินดีให้ตรวจสอบทรัพย์สิน แต่ต้องตรวจสอบทรัพย์สินของผู้มีความคิดเห็นต่างด้วย เพราะเงินทุกบาทที่ใช้ของผู้มีความเห็นต่างคือภาษีของประชาชน แต่กลุ่มเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนากับภาคีมาด้วยใจ การเปิดรับบริจาค ดนตรีศิลปินที่รักษ์ธรรมชาติมาช่วยกันทั้งนั้น ให้วัดใจกันไปเลยว่าเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของตัวเองหรือไม่ และอยากให้ ป.ป.ช. สตง.เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเหล่านี้ด้วย” นายไกรวุฒิ ชูสกุล กล่าว
