xs
xsm
sm
md
lg

ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา เร่งเพาะพันธุ์ “ปลากือเลาะห์” หลังราคาพุ่งสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จ.ยะลา เร่งเพาะพันธุ์ปลากือเลาะห์ หรือปลาพลวงชมพู เป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ หลังราคาในท้องตลาดพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 2 พันบาท

วันนี้ (23 มี.ค.) สำนักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา หมู่ 1 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา นายการุณ อุไรประสิทธิ์ ผอ.ศูนย์พัฒนาประมงน้ำจืดยะลา เปิดเผยว่า สำหรับปลาพลวงชมพู หรือปลากือเลาะห์ ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา ก็ได้ดำเนินการเพาะพันธุ์ และสนับสนุนให้ชาวบ้านนำไปเลี้ยงตั้งแต่ปี 2558 จำนวน 50 ราย ซึ่งล่าสุด ปลาพลวงชมพูของกลุ่มนี้ขนาดประมาณ 800 กรัม ถึง 1 กิโลกรัม และในปี 2560 นี้ก็จะส่งเสริมให้ประชาชนเลี้ยงอีก จำนวน 50 ราย โดยในวันที่ 28-29 มีนาคม 2560 นี้ ก็จะมีการแจกพันธุ์ปลา
 

 
“สำหรับความต้องการปลาพลวงชมพู หรือปลากือเลาะห์ ในท้องตลาด ทางกรมประมงได้ประเมินเอาไว้ประมาณปีละ 5,000 ตัว ในขนาด 1-2 กิโลกรัม ซึ่งปลาขนาดไม่เกิน 1 กิโลกรัม จะขายได้ในราคากิโลกรัมละ 1,000 บาท ส่วนขนาดที่มากกว่า 1 กิโลกรัม จะขายได้ในราคา กิโลกรัมละ 2,000 บาท โดยราคาที่ค่อนข้างสูงของปลาชนิดนี้เนื่องจากว่าเป็นปลาเฉพาะถิ่น เป็นปลาจากธรรมชาติ รวมถึงรสชาติก็เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค” นายการุณ กล่าว

ผอ.ศูนย์พัฒนาประมงน้ำจืดยะลา ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา สามารถเพาะพันธุ์ปลากือเลาะห์ ได้ประมาณปีละ 3,000 ถึง 5,000 ตัว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งทางศูนย์ฯ จะพัฒนาให้มากกว่านั้นให้ได้ปีละ 10,000 ตัว ซึ่งจะนำไปปล่อยในธรรมชาติ และส่วนหนึ่งก็จะนำไปส่งเสริมพัฒนาการเลี้ยงให้แก่ชาวบ้าน ที่ถือว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ ที่ผ่านมา มีประชาชนให้ความสนใจมาก แต่ทางศูนย์ฯ ก็จะคัดเฉพาะผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจ และมีความตั้งใจที่จะเลี้ยงจริงๆ เนื่องจากปลาพลวงชมพู เป็นปลาที่โตช้า ใช้เวลาประมาณ 2 ปี จึงจะสามารถนำไปจำหน่ายได้
 

 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับปลาพลวงชมพู เป็นปลาน้ำจืดประจำท้องถิ่น จ.ยะลา มีชื่อเรียกตามภาษาท้องถิ่นภาคใต้ว่า “ปลากือเลาะห์” หรืออีแกกือเลาะห์ เป็นปลาที่มีเนื้อรสชาติดี สามารถรับประทานได้ทั้งเกล็ด ในปัจจุบันตลาดการเลี้ยงปลาสวยงามก็กำลังเป็นที่ต้องการอย่างสูง เนื่องจากเป็นปลาที่มีความโดดเด่นในสีของเกล็ด ที่มีลักษณะเป็นสีชมพู บริเวณครีบหลัง และครีบหางเป็นสีแดง

โดยลักษณะนิสัย และความเป็นอยู่ของปลาชนิดนี้จะเป็นปลาที่ชอบอาศัยอยู่ในบริเวณแหล่งน้ำที่น้ำไหลผ่าน มีน้ำค่อนข้างเย็น มีปริมาณออกซิเจนสูง เช่น น้ำตก หรือบริเวณต้นแม่น้ำสายหลักในพื้นที่ จ.ยะลา โดยเฉพาะป่าฮาลาบาลา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ปลาพลวงชมพูได้รับการประกาศให้เป็นปลาประจำ จ.ยะลา เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา
 

กำลังโหลดความคิดเห็น