xs
xsm
sm
md
lg

นับวันยิ่งเน่า! สนามกีฬากลางเมืองคอนงบ 13.4 ล้าน ดินลูกรังโผล่ แฉหน่วยงานตรวจสอบไม่กล้าหือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
นครศรีธรรมราช - สนามกีฬากลางนครศรีธรรมราช ยังจมฝุ่น ผู้ร้องเรียนต่อ สตง.เข้าตรวจสอบการใช้งบประมาณ 13.4 ล้านบาท แฉเส้นใหญ่จริงหน่วยงานตรวจสอบไม่กล้าหือ งัดเอกสารรับเรื่องแล้วเงียบ ทั้ง ป.ป.ช.-ป.ป.ท.-สำนักนายกรัฐมนตรี ส่วน สตง.พบเรื่องไปกองที่ห้องผู้บริหารระดับสูงข้ามปี
 

 
วันนี้ (22 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในส่วนของสนามฟุตบอล และลู่วิ่งได้ถูกปรับปรุงด้วยงบประมาณสูงถึง 13.4 ล้านบาท โดยการดำเนินโครงการของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จนถูกตรวจสอบโดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 14 นครศรีธรรมราช เมื่อ 3 ปีก่อน หลังจากนั้น เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ส่งคืนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ในสภาพทรุดโทรมอย่างหนักแม้ว่าจะใช้งบไปจำนวนมาก
 

 
โดยล่าสุด นายสนั่น ศิลารัตน์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดรักษาราชการแทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เสนอญัตติทบทวนการรับโอนคืนสนามกีฬากลางนครศรีธรรมราช กลับไปให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช รับผิดชอบเต็มเช่นเดิม โดยอ้างเอกภาพในการบริหารงาน
 

 
ขณะที่ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.อบจ.นครศรีธรรมราช ได้ยืนยันถึงขีดความสามารถขององค์การบริหารส่วนจังหวัด รวมทั้งการเตรียมตั้งงบประมาณฟื้นฟูบูรณะในปีงบประมาณ 2560 อีก 10 ล้านบาทอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องคืนไปให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยในที่สุดสมาชิกมีมติไม่ทบทวนการรับโอนนามกีฬาแห่งนี้ 28 เสียง แม้ว่าการรับโอนจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ตามกฎหมายและระเบียบพัสดุก็ตาม หลายส่วนจึงยังคงเป็นสุญญากาศที่ไม่สามารถบริการจัดการได้
 

 
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ผู้ที่ร้องเรียนต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา ระบุว่าการตรวจสอบของ สตง.ในส่วนภูมิภาคเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้วทุกขั้นตอนในการชี้มูลไปแล้ว และพร้อมที่จะนำเอกสารมาเปิดเผยต่อสาธารณะ
 

 
แต่การติดตามล่าสุดนั้นทราบว่า จนถึงขณะนี้เรื่องไปกองค้างอยู่ที่ห้องของผู้บริหาร สตง.ระดับสูงรายหนึ่งที่มีความสนิทสนมกับนักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ และมีความสัมพันธ์กับผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งสอดคล้องต่อการยืนยันของ นายพิศิษฐ์ ลีลาวัชโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ที่เคยเปิดเผยถึงเรื่องนี้เมื่อปลายปี 2559 ระบุว่า เรื่องอยู่ในระหว่างการพิจารณาของรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
 

 
ขณะที่ผู้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบการปรับปรุงสนามกีฬา 13.4 ล้าน ได้นำหลักฐานเข้าแสดงต่อ “MGR Online ภาคใต้” ว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไม่ได้มีเฉพาะ สตง.เท่านั้นที่เรื่องเงียบไป โดยมีเอกสารมายืนยันว่าได้ส่งหลักฐานที่ได้ร้องเรียนไปอีกหลายหน่วยงาน เช่น สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 และคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ได้ส่งกลับมายังจังหวัดนครศรีธรรมราช เรื่องเงียบหายไปเช่นกัน
 

 
นอกจากนั้น ยังมีการร้องเรียนไปยังประธาน ป.ป.ช.จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งแนบหลักฐานไปเป็นจำนวนมากที่รวบรวมไว้ตั้งแต่ปี 2555 จนถึง 2557 ปรากฏว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า รวมทั้งมีหนังสือตอบรับมาจากสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 ขณะนั้น พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ยังดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ได้แจ้งมาเพียงว่าได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงาน ป.ป.ท.แล้ว หลังจากนั้นทุกอย่างได้เงียบหายไปทั้งหมด

“แต่หลักฐานที่ฟ้องต่อชาวนครศรีธรรมราช และเยาวชนที่เล่นกีฬาคือ สนามกีฬาที่ทรุดโทรมกลายเป็นดินลูกรัง เป็นผลมาจากเม็ดเงิน 13.4 ล้านในการพัฒนาจริงหรือไม่จริงทุกฝ่ายย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ แม้สนามชนโคหลายแห่งของนครศรีธรรมราช ยังมีสภาพดีกว่าสนามฟุตบอลแห่งนี้” ผู้ร้องรายนี้ระบุ
 
กำลังโหลดความคิดเห็น