ชุมพร - ผู้ว่าฯ ชุมพร สั่งระงับรังวัดออกโฉนดนายทุนรุกที่แก้มลิงหนองใหญ่ โครงการตามแนวพระราชดำริฯ พร้อมตรวจสอบแนวเขตพื้นที่ชุ่มน้ำสาธารณะใหม่ทั้งหมด แฉกว่า 700 ไร่ อยู่ในกำมือทุนใหญ่เพียงเจ้าเดียว
หลังจากชาวบ้าน ผู้นำชุมชนร้องเรียนหน่วยงานเกี่ยวข้อง และติดป้ายประท้วงขอทวงคืนพื้นที่ชุ่มน้ำสาธารณะแก้มลิงหนองใหญ่ ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร โครงการตามแนวพระราชดำริฯ ในหลวง ร.9 ป้องกันน้ำท่วมซ้ำซากตัวเมืองชุมพร ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ น.ส.3. จำนวน 27 แปลง กว่า 700 ไร่ ที่ออกโดยไม่ชอบมาพากล ทับซ้อนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า นายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ ชพ.0020.5/ว 003860 เรื่องกรณีข้อร้องเรียนดังกล่าว และตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าว โดยเรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมดที่ห้องประชุมเกาะเสม็ด ศาลากลางจังหวัดชุมพร มี นายประจิน ธารศิริสิน ปลัดจังหวัดชุมพร นายธีรพล ไชยวงศ์ รรท.ที่ดินจังหวัดชุมพร นายจงกิต สุวราช นักวิชาการและเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดิน นายวีรวัฒน์ จันทรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลบางลึก คณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินของรัฐ (กบร.) จังหวัดชุมพร ผู้ใหญ่ กำนัน ผู้นำชุมชนตัวแทนชาวบ้านกลุ่มเคลื่อนไหวเข้าร่วมกว่า 50 คน
นายจงกิต สุวราช นักวิชาการที่ดิน ได้ชี้แจงว่า การสำรวจรังวัดออกโฉนดที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือไปแจ้งต่อทางเทศบาลตำบลบางลึกแล้ว แต่เรื่องเงียบไม่มีคำตอบกลับมาแต่อย่างใด เจ้าพนักงานที่ดินจึงได้ออกสำรวจตามคำสั่งของทางกรมที่ดิน เพราะผู้ถือครอง น.ส.3 ก.ได้นำเรื่องไปยื่นขอให้ดำเนินการออกสำรวจโดยให้เหตุผลเพื่อต้องการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินการสำรวจโดยยึดแผนที่ และภาพถ่ายดาวเทียมเป็นหลัก เพื่อออกโฉนดตามหลักฐาน น.ส.3 ก.จำนวน 27 แปลงดังกล่าว และต่อมา มีชาวบ้านออกมาคัดค้านอยู่ขณะนี้
นายวีรวัฒน์ จันทรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลบางลึก กล่าวว่า ไม่เงียบหายตามที่กล่าวอ้างทางเทศบาลได้ทำหนังสือคัดค้านมาโดยตลอด เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นป่าชุ่มน้ำสาธารณะหนองใหญ่ แต่ทางที่ดินก็ไม่ฟังจะเดินหน้าสำรวจ และยังนั่งเทียนดูแต่แผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมอย่างเดียว ทำให้มองเห็นเป็นเพียงป่าเขียวขจีปกคลุมหนองน้ำขนาดใหญ่อยู่ ทำให้ไม่รู้ว่าใต้พุ่มไม้เป็นป่าชุ่มน้ำสมบูรณ์มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี แต่กลับมองเป็นเพียงทุ่งหญ้าท้องทุ่งนา นอกจากนี้ ยังมีความไม่ชอบมาพากลเนื่องจากได้รีบเร่งรังวัดในช่วงฤดูแล้งที่น้ำลดลงบางส่วนเหลือเป็นสันดอนและปักหลักหมุดอยู่บนแนวสันคลองที่แบ็กโฮขุดเป็นร่องน้ำเพื่อให้น้ำไหลสะดวกเท่านั้น ชาวบ้านทุกคนรู้ดีว่าตรงนี้เป็นพื้นที่สาธารณะชุ่มน้ำมีน้ำท่วมขังอยู่ตลอดทั้งปี จับปลา หาของป่าเลี้ยงชีพมาแต่โบราณ
นายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร เปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้ข้อสรุป คือ 1.ให้ทางที่ดินจังหวัดชุมพร ชะลอการออกเอกสารสิทธิทั้งหมดในพื้นที่หนองน้ำสาธารณะหนองใหญ่แก้มลิง 2.ให้ตรวจสอบแนวเขตในพื้นที่โดยรอบพื้นที่หนองน้ำสาธารณะหนองใหญ่ ทั้งหมดกว่า 2,000 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 8, 9, 10, 11, 12 ตำบลบางลึก ใหม่ทั้งหมด 3.ให้ตรวจสอบแนวเขตที่ดินใหม่ทั้งแปลงพร้อมกันทุกตารางเมตร ให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 60 กำหนดแล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยตนจะลงพื้นที่ร่วมสำรวจด้วยตนเองด้วย ซึ่งก็สร้างความพอใจให้แก่ทุกฝ่ายและชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า ที่ดิน น.ส.3ก.ทั้ง 27 แปลง รวมกว่า 700 ไร่ในพื้นที่ดังกล่าว ปัจจุบันมีเจ้าของผู้ถือครองกรรมสิทธิ์อยู่เพียงรายเดียวเท่านั้น โดยมีการซื้อขายโอนสลับซับซ้อนหลายมือสืบต่อเนื่องกันมานานหลายปี โดยครั้งแรกได้มีบริษัทแห่งหนึ่งรวบรวมซื้อเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดินมาจากชาวบ้านหลายราย จากนั้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ได้ขายต่อให้แก่ผู้กว้างขวางคนหนึ่ง และวันเดียวกัน ผู้กว้างขวางดังกล่าวได้ขายฝากให้แก่บริษัทเอกชนอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นนอมินีของบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับโรงงานสกัดอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มยี่ห้อดังของภาคใต้ จากนั้นได้ยื่นคำขอรังวัด น.ส.3 ก ทั้ง 27 แปลง เพื่อขอออกโฉนดที่ดินเมื่อ 28 ก.ย.59 โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดชุมพร ได้ทำการรังวัดไปแล้ว 16 แปลง งดรังวัด 6 แปลง ส่วนที่เหลืออีก 5 แปลง อยู่ระหว่างแจ้งหมายเพื่อทำการรังวัดต่อ จนผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้านในพื้นที่ทราบข่าวจึงรวมตัวกันประท้วงถึงความไม่ชอบมาพากลดังกล่าว ความคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป
หลังจากชาวบ้าน ผู้นำชุมชนร้องเรียนหน่วยงานเกี่ยวข้อง และติดป้ายประท้วงขอทวงคืนพื้นที่ชุ่มน้ำสาธารณะแก้มลิงหนองใหญ่ ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร โครงการตามแนวพระราชดำริฯ ในหลวง ร.9 ป้องกันน้ำท่วมซ้ำซากตัวเมืองชุมพร ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ น.ส.3. จำนวน 27 แปลง กว่า 700 ไร่ ที่ออกโดยไม่ชอบมาพากล ทับซ้อนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า นายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ ชพ.0020.5/ว 003860 เรื่องกรณีข้อร้องเรียนดังกล่าว และตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าว โดยเรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมดที่ห้องประชุมเกาะเสม็ด ศาลากลางจังหวัดชุมพร มี นายประจิน ธารศิริสิน ปลัดจังหวัดชุมพร นายธีรพล ไชยวงศ์ รรท.ที่ดินจังหวัดชุมพร นายจงกิต สุวราช นักวิชาการและเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดิน นายวีรวัฒน์ จันทรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลบางลึก คณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินของรัฐ (กบร.) จังหวัดชุมพร ผู้ใหญ่ กำนัน ผู้นำชุมชนตัวแทนชาวบ้านกลุ่มเคลื่อนไหวเข้าร่วมกว่า 50 คน
นายจงกิต สุวราช นักวิชาการที่ดิน ได้ชี้แจงว่า การสำรวจรังวัดออกโฉนดที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือไปแจ้งต่อทางเทศบาลตำบลบางลึกแล้ว แต่เรื่องเงียบไม่มีคำตอบกลับมาแต่อย่างใด เจ้าพนักงานที่ดินจึงได้ออกสำรวจตามคำสั่งของทางกรมที่ดิน เพราะผู้ถือครอง น.ส.3 ก.ได้นำเรื่องไปยื่นขอให้ดำเนินการออกสำรวจโดยให้เหตุผลเพื่อต้องการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินการสำรวจโดยยึดแผนที่ และภาพถ่ายดาวเทียมเป็นหลัก เพื่อออกโฉนดตามหลักฐาน น.ส.3 ก.จำนวน 27 แปลงดังกล่าว และต่อมา มีชาวบ้านออกมาคัดค้านอยู่ขณะนี้
นายวีรวัฒน์ จันทรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลบางลึก กล่าวว่า ไม่เงียบหายตามที่กล่าวอ้างทางเทศบาลได้ทำหนังสือคัดค้านมาโดยตลอด เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นป่าชุ่มน้ำสาธารณะหนองใหญ่ แต่ทางที่ดินก็ไม่ฟังจะเดินหน้าสำรวจ และยังนั่งเทียนดูแต่แผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมอย่างเดียว ทำให้มองเห็นเป็นเพียงป่าเขียวขจีปกคลุมหนองน้ำขนาดใหญ่อยู่ ทำให้ไม่รู้ว่าใต้พุ่มไม้เป็นป่าชุ่มน้ำสมบูรณ์มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี แต่กลับมองเป็นเพียงทุ่งหญ้าท้องทุ่งนา นอกจากนี้ ยังมีความไม่ชอบมาพากลเนื่องจากได้รีบเร่งรังวัดในช่วงฤดูแล้งที่น้ำลดลงบางส่วนเหลือเป็นสันดอนและปักหลักหมุดอยู่บนแนวสันคลองที่แบ็กโฮขุดเป็นร่องน้ำเพื่อให้น้ำไหลสะดวกเท่านั้น ชาวบ้านทุกคนรู้ดีว่าตรงนี้เป็นพื้นที่สาธารณะชุ่มน้ำมีน้ำท่วมขังอยู่ตลอดทั้งปี จับปลา หาของป่าเลี้ยงชีพมาแต่โบราณ
นายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร เปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้ข้อสรุป คือ 1.ให้ทางที่ดินจังหวัดชุมพร ชะลอการออกเอกสารสิทธิทั้งหมดในพื้นที่หนองน้ำสาธารณะหนองใหญ่แก้มลิง 2.ให้ตรวจสอบแนวเขตในพื้นที่โดยรอบพื้นที่หนองน้ำสาธารณะหนองใหญ่ ทั้งหมดกว่า 2,000 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 8, 9, 10, 11, 12 ตำบลบางลึก ใหม่ทั้งหมด 3.ให้ตรวจสอบแนวเขตที่ดินใหม่ทั้งแปลงพร้อมกันทุกตารางเมตร ให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 60 กำหนดแล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยตนจะลงพื้นที่ร่วมสำรวจด้วยตนเองด้วย ซึ่งก็สร้างความพอใจให้แก่ทุกฝ่ายและชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า ที่ดิน น.ส.3ก.ทั้ง 27 แปลง รวมกว่า 700 ไร่ในพื้นที่ดังกล่าว ปัจจุบันมีเจ้าของผู้ถือครองกรรมสิทธิ์อยู่เพียงรายเดียวเท่านั้น โดยมีการซื้อขายโอนสลับซับซ้อนหลายมือสืบต่อเนื่องกันมานานหลายปี โดยครั้งแรกได้มีบริษัทแห่งหนึ่งรวบรวมซื้อเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดินมาจากชาวบ้านหลายราย จากนั้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ได้ขายต่อให้แก่ผู้กว้างขวางคนหนึ่ง และวันเดียวกัน ผู้กว้างขวางดังกล่าวได้ขายฝากให้แก่บริษัทเอกชนอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นนอมินีของบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับโรงงานสกัดอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มยี่ห้อดังของภาคใต้ จากนั้นได้ยื่นคำขอรังวัด น.ส.3 ก ทั้ง 27 แปลง เพื่อขอออกโฉนดที่ดินเมื่อ 28 ก.ย.59 โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดชุมพร ได้ทำการรังวัดไปแล้ว 16 แปลง งดรังวัด 6 แปลง ส่วนที่เหลืออีก 5 แปลง อยู่ระหว่างแจ้งหมายเพื่อทำการรังวัดต่อ จนผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้านในพื้นที่ทราบข่าวจึงรวมตัวกันประท้วงถึงความไม่ชอบมาพากลดังกล่าว ความคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป
