ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านขายของชำย่านชานเมืองหาดใหญ่ กล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายขณะหลบหนีได้ รวมทั้งลูกชายเจ้าของร้านขับรถไล่ติดตาม และแจ้งเบาะแสให้ตำรวจ ก่อนระดมกำลังปิดเมืองไล่ล่า และรวบตัวสำเร็จ
วันนี้ (20 มี.ค.) ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นจี้ชิงทรัพย์ร้านขายของชำ ตั้งอยู่บริเวณปากซอยเพชรเกษม 38 ซอย 6 เขตเทศบาลเมืองควนลัง ย่านชานเมืองหาดใหญ่ หลังจาก พ.ต.อ.กิตติชัย สังข์ถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.เอกรัฐ สวนแสน รอง ผกก.สส. พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนและปราบปรามลงพื้นที่ตรวจสอบ พบ นางซอฟียะ หมันเบ็นหมัด อายุ 60 ปี เจ้าของร้านอยู่เพียงลำพัง และยังอยู่ในอาการตกใจ โดยบอกว่าถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน ใช้อาวุธปืนเข้ามาจี้ได้เงินสดไปเกือบ 500 บาท และขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
และช่วงเกิดเหตุลูกชายของเจ้าของร้านได้ขับรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามคนร้าย ซึ่งขับรถเข้าไปภายในซอยสามสกุลซอย 10 และจอดรถหน้าบ้านเช่าเลขที่ 33 แต่ได้ชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่และขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบบ้านหลังนี้ เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นบ้านของคนร้าย
พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ ได้สั่งการให้ทั้งตำรวจชุดสืบสวน และชุดสายตรวจเร่งติดตามไล่ล่าคนร้าย กระทั่งสามารถจับกุมได้บนถนนศรีภูวนารถ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ขณะขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 สีขาวตัดน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน คคฉ 652 สงขลา หลบหนี ทราบชื่อคือ นายสมโชค ปราบปัญจะ อายุ 26 ปี ซึ่งตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณเกิดเหตุที่จับภาพคนร้ายไว้ได้ ขณะขับรถหลบหนีหลังจากที่ก่อเหตุ
และควบคุมตัวมายังบ้านเช่าค้นในตัวพบเงินสดที่ชิงทรัพย์มาเกือบ 500 บาท ทั้งธนบัตรใบละ 100 และใบ 50 แต่ไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเพราะโยนทิ้งไปแล้ว ระหว่างนั้น นายบันลือ หมันเบ็นหมัด อายุ 40 ปี ลูกชายเจ้าของร้านชำหวิดที่จะเข้าไปชกหน้าคนร้ายด้วยความแค้น แต่ตำรวจคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
จากการตรวจค้นภายในห้องเช่ายังพบใบกระท่อมอีก 1 มัด ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อนเหตุพบว่าเป็นรถที่ถูกขโมยมา จึงควบคุมตัวส่ง สภ.หาดใหญ่ เพื่อสอบสวนขยายผล รวมทั้งยังได้นำตัวน้องชายมาสอบสวนอีกคนเพราะต้องสงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการก่อเหตุชิงทรัพย์ใน อ.หาดใหญ่ ด้วย
นางซอฟียะ หมันเบ็นหมัด อายุ 60 ปี เจ้าของร้านชำเปิดเผยว่า ขณะนั่งขายของอยู่ในร้านเพียงคนเดียว คนร้ายได้เข้ามาทำทีซื้อของ ก่อนชักอาวุธปืนออกมาจี้ที่ศีรษะ และบังคับให้ส่งเงินในกระเป๋ามา พร้อมกับขึ้นลำปืนทำท่าเหมือนจะยิงจึงยอมส่งเงินให้ หลังเกิดเหตุรีบออกไปตะโกนให้คนช่วย และลูกชายได้ขับรถจักรยานยนต์ตามคนร้ายไป โชคดีที่ตำรวจจับกุมได้ และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ โดยครั้งแรกเมื่อเดือนก่อนก็ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงทรัพย์มาแล้วครั้งหนึ่ง