ตรัง - ตำรวจ สภ.กันตัง จ.ตรัง จัดกำลังคอยตรวจตรา “ไม้พะยูง” ภายในป่าบ้านโต๊ะเมือง พื้นที่ความรับผิดชอบของ สนง.ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หลังเพิ่งถูกคนร้ายลักลอบเข้าไปตัดโค่นแล้ว 2 ต้น
วันนี้ (20 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.อิสรพงศ์ จินา รอง ผกก.ฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.กันตัง จ.ตรัง ได้ลงไปตรวจสอบป่าบ้านโต๊ะเมือง หมู่ที่ 5 ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จ.สงขลา หลังจากถูกคนร้ายเข้าไปลักลอบตัดไม้พะยูง จำนวน 2 ต้น เมื่อคืนวันที่ 12 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตู้แดงมาติดตั้งเป็นกรณีพิเศษในพื้นที่ป่าดังกล่าว พร้อมจัดกำลังคอยตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายช่วยเป็นหูเป็นตาเพื่อแก้ไขปัญหา ส่วนกลุ่มคนร้ายขณะนี้ทราบเบาะแสแล้ว ซึ่งเป็นคนต่างพื้นที่ และกำลำลังเร่งติดตามตัว
สำหรับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จ.สงขลา มีพื้นที่ป่าในความรับผิดชอบที่ ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง จำนวนหลายแปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 5,200 ไร่ ส่วนแปลงที่เกิดเหตุคือ ป่าบ้านโต๊ะเมือง มีเนื้อที่ทั้งหมด 18 ไร่ และมีไม้พะยูงทั้งหมด 44 ต้น แต่ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ได้ถูกคนร้ายพยายามตัดไม้มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ติดกับถนนเส้นตรัง-กันตัง ทำให้ง่ายต่อการลักลอบเข้าไป อีกทั้งไม้พะยูงก็มีราคารับซื้อสูงมากถึงกิโลกรัมละ 3,000 บาท เพราะเป็นที่ต้องการของนายทุนจากประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ เมื่อรวมไม้พะยูงที่มีอยู่ทั้งหมดในป่าบ้านโต๊ะเมือง ซึ่งมีอายุ 70-80 ปี และมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่าต้นละ 3 ตัน หากนำไปขายจะได้ราคาถึงต้นละ 9 ล้านบาท จึงทำให้เป็นที่ล่อตาล่อใจของขบวนการมอดไม้ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ถึงแม้ว่าจะปลูกอยู่ในที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ก็ตาม ส่วนไม้พะยูง จำนวน 2 ต้น ที่เพิ่งจะถูกโค่นล่าสุดนั้น จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มคนร้ายได้ตัดเป็นท่อนๆ และเคลื่อนย้ายออกไปในเวลาเดียวกันแล้ว ส่วนหนึ่งยังคงเหลือทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ จำนวน 7 ท่อน ยาวประมาณ 2.20 เมตร และมีน้ำหนักประมาณตั้งแต่ 200-400 กิโลกรัม โดยถูกนำไปซุกซ่อนไว้กระจัดกระจายในหลายจุด
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฟ้าสางเสียก่อนคนร้ายจึงทิ้งไว้รอการลักลอบเข้าไปเคลื่อนย้ายในเวลากลางคืนอีกครั้ง แต่เมื่อชาวบ้านทราบเรื่องจึงแจ้งไปให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ และเก็บพยานหลักฐานเสียก่อน จากนั้นจึงได้นำของกลางทั้งหมดเข้าร้องทุกข์ต่อ สภ.กันตัง แต่ทางพนักงานสอบสวนไม่รับแจ้งความ โดยให้เหตุผลว่าขัดต่อคำสั่ง คสช. มาตรา 7 เกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงเตรียมทำหนังสือรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อให้ดำเนินคดีในมาตรา 157 ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป ก่อนนำไม้พะยูงทั้งหมดไปเก็บไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตง.5 (สิเกา) จ.ตรัง