ยะลา - ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 หนุนตั้งค่ายมวยเยาวชนในชุมชนบ้านกูวิง ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา หวังผลักดันให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติด ฝึกให้มีระเบียบวินัย ลดปัญหาความเห็นต่างในพื้นที่
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่ค่ายมวย ช.ศรีวิเชียร ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านกูวิง ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา ติดกับฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4703 สังกัดหน่วยเฉพาะกรมทหารพรานที่ 47 อ.ยะหา จ.ยะลา มีเยาวชนตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ถึง 15 ปี จำนวนกว่า 30 คน เข้าร่วมฝึกซ้อมเป็นประจำทุกวัน
โดยมีอาสาสมัครทหารพรานของกองร้อยทหารพรานที่ 4703 เป็นครูฝึกสอนด้านทักษะศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้แก่เยาวชนที่สนใจ ซึ่ง พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 เป็นผู้ให้การสนับสนุน และเป็นหัวหน้าค่ายมวย ช.ศรีวิเชียร
พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร เปิดเผยว่า ในพื้นที่บ้านกูวิง ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา แห่งนี้ ผู้คนในหมู่บ้านมีเลือดเนื้อของการเป็นนักต่อสู้ และมีความชื่นชอบในศิลปะมวยไทยมาแต่ในอดีต กองร้อยทหารพรานที่ 4703 ซึ่งมาตั้งฐานปฏิบัติการเพื่อดูแลความปลอดภัยหมู่บ้าน ดูแลพื้นที่ให้แก่ประชาชน ได้เล็งเห็นว่า เยาวชนในพื้นที่มีความชื่นชอบการต่อยมวย อีกทั้งผู้ปกครอง และคนในชุมชน ผู้นำหมู่บ้าน ตลอดจนถึงผู้ปกครองก็ให้การสนับสนุน เพื่อจะช่วยให้ลดปัญหายาเสพติด และดึงเยาวชนไม่ให้ถูกชักจูงเข้าสู่กระบวนการก่อเหตุความรุนแรง ตนเองก็ได้ให้การสนับสนุนการจัดตั้งค่ายมวยเยาวชน โดยขอความร่วมมือสนับสนุนอุปกรณ์ไปยังศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้งบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และผู้หลักผู้ใหญ่อีกหลายท่าน จึงได้มีการดำเนินการจัดตั้งค่ายมวยเยาวชน ชื่อค่าย ช.ศรีวิเชียร ขึ้นมา
ซึ่งการฝึกสอนก็มีอาสาสมัครทหารพรานของกองร้อยทหารพรานที่ 4703 ที่มีความรู้ด้านทักษะศิลปะมวยไทย และเคยเป็นอดีตแชมป์มวยเก่าฝึกสอนให้แก่เด็กๆ และเยาวชนทั้งชาย และหญิง ซึ่งเยาวชนในพื้นที่ให้ความสนใจมาก ผู้ปกครองก็ให้การสนับสนุน เพราะจะได้ฝึกฝนให้บุตรหลานของตนเองออกำลังกาย เล่นกีฬา ฝึกฝนระเบียบวินัย และที่สำคัญคือ นักมวยทุกคนในค่ายต้องได้รับการศึกษาประจำอยู่ หลังเสร็จสิ้นภารกิจการเรียนในแต่ละวัน ทุกคนก็จะมาที่ค่ายมวย เพื่อฝึกซ้อม
“เด็กๆ นักมวยในค่ายจะมีไฟต์ขึ้นชกเป็นประจำทุกเดือน ตระเวนชกในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และทุกคนก็จะได้รับค่าตอบแทนจากการขึ้นชกในแต่ละครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นการหาเงิน หารายได้ด้วยตัวเองในการสนับสนุนการศึกษา และเป็นรายได้เสริม อีกทั้งยังนับว่ากลุ่มเยาวชนนักมวยเหล่านี้ได้มีพื้นที่ในการแสดงออก ได้พบปะผู้คน และสังคมที่กว้างขึ้นด้วย” พ.อ.ชลัช กล่าว