ตรัง - ชาวบ้านโวยปัญหาก่อสร้างซ่อมแซมสะพานข้ามแม่น้ำตรัง บริเวณท่าแก้มดำอีกรอบ เพราะมีวัสดุที่เคยจมอยู่ใต้น้ำโผล่ขึ้นมาจำนวนมาก แต่การดำเนินการล่าช้า และหวั่นเกรงจะเกิดอันตราย
วันนี้ (16 มี.ค.) จากกรณีที่มีกลุ่มชาวบ้านเคยออกมาร้องเรียนว่า ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างซ่อมแซมสะพานข้ามแม่น้ำตรัง บริเวณท่าแก้มดำ หมู่ที่ 1 ต.โคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างหลายตำบลในอำเภอเมืองตรัง กับอำเภอกันตัง เนื่องจากมีการทิ้งวัสดุ เช่น เสาเข็ม แท่งปูน เหล็ก จำนวนมาก ลงไปในแม่น้ำตรัง ทำให้ขวางทางน้ำ และไหลไม่สะดวก จนทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนักในพื้นที่ดังกล่าว ระดับน้ำสูงราว 2 เมตร และขังนานนับสัปดาห์ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2559 ถึงมกราคม 2560
นอกจากนั้น ผู้ที่ใช้แม่น้ำตรังในการสัญจรไปมาทำมาหากิน หรือจับสัตว์น้ำ ก็ต้องประสบอุบัติเหตุเรือคว่ำแล้วหลายราย เพราะเกิดเฉี่ยวชนกับวัสดุเหล่านั้น จนทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนในวงกว้าง โดยที่ไม่มีผู้ใดแก้ไข และแสดงความรับผิดชอบ ปล่อยให้ชาวบ้านรับชะตากรรมเพียงลำพังมานานหลายปี เพราะการก่อสร้างซ่อมแซมสะพานข้ามแม่น้ำตรัง เป็นไปอย่างล่าช้า เมื่อมีการสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ออกมาชี้แจงว่า การทำงานยังอยู่ในกรอบเวลา และกำลังเร่งดำเนินการให้แล้วนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงไปตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างซ่อมแซมสะพานข้ามแม่น้ำตรัง บริเวณท่าแก้มดำอีกครั้ง ปรากฏว่า ระดับน้ำในแม่น้ำตรังได้ลดลงไปมากแล้ว เนื่องจากเป็นช่วงฤดูแล้ง ทำให้มีวัสดุทั้งเสาเข็ม แท่งปูน เหล็ก และปั้นจั่นขนาดใหญ่ที่เคยจมอยู่ใต้น้ำโผล่ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก สร้างความหวาดเสียวให้แก่ผู้ที่สัญจรไปมาโดยใช้สะพานเบี่ยงเป็นการชั่วคราว และหวั่นเกรงว่าอาจได้รับอันตราย หากมีผู้คน หรือรถตกลงไปในแม่น้ำตรังช่วงบริเวณนี้ รวมทั้งผู้ที่สัญจรไปมาทางเรือ
นายวัลลภ ม่วงเรือน นายช่างผู้ดูแลกู้ทุ่นปั้นจั่น กล่าวว่า การกู้วัสดุต่างๆ คงต้องใช้เวลานานนับเดือน โดยเฉพาะปั้นจั่นที่จมลงไปในแม่น้ำตรังมีน้ำหนักมาก ส่งผลให้การทำงานค่อนข้างยากลำบาก และต้องใช้เครื่องจักรกลหนักจำนวนมากมาช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน สาเหตุที่วัสดุบางชนิดตกลงไปน้ำก็มีผลกระทบมาจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อครั้งที่ผ่านมา และได้รับความเสียหายไม่น้อยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตนก็จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะเข้าใจในปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน
