พัทลุง - ชาวบ้านร้อง สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุง กรณีมีการใช้ยาฆ่าหญ้าบริเวณเกาะกลางถนนเพชรเกษม หวั่นสารเคมีไหลลงสู่แหล่งน้ำ ด้าน สนง.ทรัพยากรฯ แจงไม่ได้กำกับดูแล แต่คาดน่าจะเป็นความรับผิดชอบของแขวงการทาง
วันนี้ (15 มี.ค.) ชาวบ้านได้โทรศัพท์แจ้งร้องทุกข์ไปยังสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุง เพื่อให้ผู้ที่รับผิดชอบดูแลงานด้านสิ่งแวดล้อมช่วยตรวจสอบ กรณีที่คนงานซึ่งเข้าใจว่าเป็นคนงานของแขวงการทางจังหวัดพัทลุง ได้ใช้สารเคมีฉีดฆ่าหญ้าในเกาะกลางถนนเพชรเกษม ช่วงระหว่างสามแยกท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง ไปจนถึง อ.ศรีนครินทร์ ระยะทางกว่า 30 กม. ซึ่งการกระทำของแขวงการทาง ประชาชนมองว่าดูจะไม่เหมาะสม และสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยริมถนน เกรงว่าจะทำให้สารเคมีไหลลงสู่แหล่งน้ำ แต่เนื่องจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ได้กำกับดูแลงานด้านสิ่งแวดล้อม จึงไม่สามารถสั่งการอะไรกับใครได้ เพียงแต่ได้ประสานงานพูดคุยเป็นการส่วนตัวเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อได้ไปตรวจสอบบริเวณเกาะกลางถนนเพชรเกษม ตั้งแต่ ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง ก็พบว่า บริเวณเกาะกลางถนนทั้งขาขึ้นและขาล่อง มีร่องรอยหญ้าแห้งตายคล้ายกับการฉีดพ่นยาฆ่าหญ้าทั้ง 2 ฝั่ง และกว้างจากผิวจราจรฝั่งละประมาณ 50 ซม. ยาวจากสี่แยกเอเชีย ไปจนถึง อ.ศรีนครินทร์ ประมาณ 22 กม.
ทางด้าน นายสมพร เพชรทองเกลี้ยง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร้องเรียนกรณีที่ส่วนราชการใช้สารเคมีฉีดพ่นฆ่าหญ้าริมถนน และบริเวณหน้าบ้านของประชาชนในเขตเทศบาล แต่ก็ได้คุยกับผู้บริหารเทศบาลถึงความเหมาะสมในการใช้สารเคมีฆ่าหญ้า ส่วนที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีที่แขวงการทางใช้ยาฉีดฆ่าหญ้าที่ถนนเพชรเกษมนั้น ทราบมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุง ไม่มีอำนาจไปสั่งการอะไรได้ เนื่องจากไม่ได้ดูแลงานเกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อม แต่อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร้องเรียนกรณีที่มีการฉีดยาฆ่าหญ้าริมทางนั้น มีทั้งเทศบาล ริมทางรถไฟ และที่ถนนเพชรเกษม เข้าใจว่าเป็นเขตรับผิดชอบของแขวงการทางพัทลุง
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องกรณีที่แขวงการทางใช้ยาฉีดฆ่าหญ้าริมถนนเพชรเกษม และจะต้องตามดูรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องใช้ยาฆ่าหญ้าฉีดพ่นริมถนน
