ตรัง - เกษตรกรชาวตรังผลิตกาแฟขี้ชะมดออกจำหน่าย ทั้งทางโลกออนไลน์ และขายตรง เป็นรายแรกของจังหวัด จนได้ปีละ 500 กิโลกรัม และสร้างรายได้ให้นับ 10 ล้านบาทแล้ว
วันนี้ (14 มี.ค.) นายสมศักดิ์ อักษรกาญจน์ อายุ 50 ปี ใช้พื้นที่ของตัวเองประมาณ 1 ไร่ ในหมู่ที่ 6 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เลี้ยงชะมดกว่า 100 ตัว มาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว โดยป้อนให้กินเมล็ดกาแฟสดสลับกับกล้วย นม ผลไม้ที่มีกากใย และอื่นๆ เพื่อนำขี้ชะมดที่ได้มาสกัดเป็นกาแฟขี้ชะมดเมืองตรัง ซึ่งชะมด 1 ตัว จะกินเมล็ดกาแฟสุกวันละ 1 กิโลกรัมในช่วงเย็น
จากนั้นในช่วงเช้าของอีกวันถึงจะสามารถเก็บขี้ชะมดที่ถ่ายทิ้งไว้เพื่อนำไปตากแดดประมาณ 8 วัน และจะนำไปเข้าตู้อบอีก 6 เดือน ก่อนนำมาคั่วด้วยความร้อน 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 13 นาที จึงสามารถนำมาบดให้เป็นผงเพื่อจำหน่ายในราคาแก้วละ 200 บาท แต่หากเป็นเมล็ดกาแฟที่คั่วสุกแล้วแต่ยังไม่บดเป็นผง จะจำหน่ายขนาดซองละ 50 กรัม ในราคา 1,000 บาท ซองละ 100 กรัม ราคา 2,000 บาท ซองละ 150 กรัม ราคา 3,000 บาท และซองละ 200 กรัม ราคา 4,000 บาท
สำหรับรสชาติของกาแฟขี้ชะมดเมืองตรัง จะมีความหอม กลมกล่อม ละมุนละไม และนุ่มลิ้นมาก จนสร้างความกระปรี้กระเปร่า และชุ่มคอตลอดทั้งวัน ทำให้คอกาแฟหันมาดื่มกาแฟขี้ชะมดกันมากขึ้น ถึงแม้จะมีราคาสูงกว่ากาแฟปกติทั่วไปก็ตาม โดยส่วนใหญ่ซื้อไปเป็นของฝากให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ และในงานเทศกาลต่างๆ ส่งผลให้แต่ละปีตนสามารถผลิตกาแฟขี้ชะมดได้ประมาณ 500 กิโลกรัม และสร้างรายได้นับ 10 ล้านบาทแล้ว
เพียงแต่การผลิตกาแฟขี้ชะมดต้องใช้ต้นทุนที่สูงมาก โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟสุกที่รับซื้อมาในราคากิโลกรัมละ 40-50 บาท และต้องใช้เมล็ดกาแฟเพื่อให้ชะมดกินถึงวันละ 100 กิโลกรัม หรือวันละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท ทำให้ยังไม่มีคู่แข่งในจังหวัดตรัง และจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนั้น กว่าจะได้กาแฟขี้ชะมดยังต้องผ่านกระบวนการต่างๆ เป็นเวลานานกว่า 6 เดือน จึงจะสามารถนำออกจำหน่ายได้ แต่ยังโชคดีที่ชะมดอายุเพียง 8 เดือน ก็สามารถผสมพันธุ์กันได้แล้ว และออกลูกครั้งละ 2-3 ตัว ปีละ 2-3 ครั้ง ทำให้แพร่พันธุ์ชะมดได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้ไปหาซื้อชะมดจากชาวบ้านทั่วไปแล้วนำมาเพาะขยายพันธุ์เอง โดยมีใบอนุญาตจากกรมป่าไม้อย่างถูกต้อง ประกอบกับตัวเองจบทางด้านการเกษตร จึงหันมาทำกาแฟขี้ชะมดอย่างจริงจัง เพื่อส่งขายให้แก่นักท่องเที่ยว และตระเวนซื้อเมล็ดกาแฟสุกที่ปลอดภัยจากการใช้สารเคมีจากจังหวัดต่างๆ มาเลี้ยงชะมด ซึ่ง 1 ปี จะมีเมล็ดกาแฟสุกให้ชะมดกินได้ทุกวัน รวมเวลา 3 เดือน คือ ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม ส่วนอีก 9 เดือนที่เหลือ จะให้ชะมดกินกล้วย อาหารหมา อาหารแมว ซึ่งเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกัน และผลไม้อื่นๆ รวมทั้งให้กินเมล็ดกาแฟนอกฤดูกาล ทั้งพันธุ์อะราบิก้า และโรบัสต้า
ดังนั้น จึงขอเชิญชวนให้เกษตรกรในจังหวัดตรัง หันมาปลูกต้นกาแฟแซมในสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน เพื่อนำเมล็ดกาแฟสุกมาป้อนให้แก่ตน โดยจะรับซื้อตลอดทั้งปีเพื่อให้มีกาแฟขี้ชะมดขายอย่างยั่งยืนเป็นระบบ และครบวงจรทั้งใน และต่างประเทศ นับเป็นเกษตรกรรายแรกในจังหวัดตรัง ที่ผลิตกาแฟขี้ชะมดออกจำหน่ายทั้งทางโลกออนไลน์ และขายตรง