ศูนย์ข่าวภูเก็ต - บริษัท แฮทช์ โคเวิร์คกิ้ง สเปซ ภูเก็ต จำกัด หรือ HATCH COWORKING SPACE PHUKET ได้ดำเนินโครงการเร่งสร้างวิสาหกิจเริ่มต้นระยะแรก (Startups in Residence) ภายใต้แนวคิด Startups In Residence “ยกพลขึ้นเกาะ เหาะไปด้วยกัน” ชวนคุณมาติดปีก เร่ง speed ใส่ turbo กับหลากหลาย solution ที่จะช่วยปลุกปั่นปั้นฝันให้รุ่งพุ่งทะยานของเหล่า Startups โดย HATCH COWORKING SPACE PHUKET เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ
วานนี้ (12 มี.ค.) ที่ศูนย์การค้าไลม์ไลน์ ภูเก็ต บริษัท แฮทช์ โคเวิร์คกิ้ง สเปซ ภูเก็ต จำกัด หรือ HATCH COWORKING SPACE PHUKET จัด STARTUPS IN RESIDENCE : ISLANDER SPACESHIP “ยกพลขึ้นเกาะ เหาะไปด้วยกัน” เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ภูเก็ต โดยมี นายวงศกร เทศยรัตน์ HATCH Coworking Space Phuket นายอัจฉริยะ ดาโรช JUMP Space Khon Kaen นายภาวินท์ สุทธพงษ์ Thailand Tech Startup Association นายกิตติชัย พิพัฒน์บุณยารัตน์ Punspace นายปริวรรต วงษ์สำราญ National Innovation Agency (NIA) นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด (PKCD) นักการตลาดเชิงกลยุทธ์ ร่วมกันเปิดเผยถึงการจัด STARTUPS IN RESIDENCE : ISLANDER SPACESHIP ว่า จากวิสัยทัศน์นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพัฒนา “วิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) เป็นนักรบทางเศรษฐกิจใหม่ (New Economic Warrior : NEW) และประเทศไทยจะเป็นพื้นที่เปิดสําหรับการเติบโตของอาเซียน” โดยมียุทธศาสตร์เปิดพื้นที่ 4 ด้าน ได้แก่ 1) เป็นพื้นที่เปิดรับผู้ที่มีทักษะสูงจากทั่วโลก (Talent) 2) เป็นพื้นที่เปิดรับการเร่งการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น (Business Growth) 3) เป็นพื้นที่เปิดรับและสนับสนุนการลงทุนในวิสาหกิจเริ่มต้น (Investment) และ 4) เป็นพื้นที่เปิดรับการสร้างและพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น (Ecosystem)
ทั้งนี้ คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ (National Startup Committee) ยังได้พัฒนาแผนการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นของประเทศไทย (พ.ศ. 2559-2564) โดยเร่งดําเนินการให้มีการจัดตั้งโปรแกรมเพื่อบ่มเพาะ และเร่งสร้างวิสาหกิจเริ่มต้น เพื่อสร้างให้เกิดมาตรฐานในการถ่ายทอดองค์ความรู้ และสร้างมาตรฐานในการคัดเลือกวิสาหกิจเริ่มต้นในระยะแรก Pre-Seed เพื่อพิจารณาขอรับสิทธิประโยชน์ หรือเงินทุนให้เปล่า (Grants) ซึ่งจะช่วยผลักดันการสร้างธุรกิจนวัตกรรมที่มีความเข้มแข็งและสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วผ่านการพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) ภายใต้ระบบพี่เลี้ยง (Mentor) ตลอดจนส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มุ่งเน้นการยกระดับ และพัฒนาคุณภาพของบุคลากรในธุรกิจด้านเทคโนโลยีเป็นสําคัญ ซึ่งสอดคล้องต่อยุทธศาสตร์การเป็นพื้นที่เปิดรับการเร่งการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น
นอกจากนี้ ทางสํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. ได้ดําเนินโครงการ “ย่านวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup District)” ภายใต้ยุทธศาสตร์ “เศรษฐกิจนวัตกรรมเชิงพื้นที่” โดยมีแนวคิดของการวางแผน และออกแบบพื้นที่ และสังคมเมืองเพื่อพัฒนาเมือง หรือย่านให้เป็นกลุ่มคลัสเตอร์ของผู้ประกอบธุรกิจ นวัตกรรมและวิสาหกิจเริ่มต้น โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมือและกลไกที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัย และผู้ดําเนินกิจกรรมในย่าน เพื่อเชื่อมต่อผู้คน และไอเดียภายในย่าน รวมถึงมีกลไกที่ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม สร้างสรรค์สิ่งใหม่ร่วมกัน แบ่งปันความรู้แก่กันของวิสาหกิจเริ่มต้น ชุมชน ธุรกิจ และหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องต่อยุทธศาสตร์การเป็นพื้นที่เปิดรับการสร้าง และพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น
ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว ทาง สนช. จึงริเริ่มโครงการเร่งสร้างวิสาหกิจเริ่มต้นระยะแรก (Startups in Residence) สนช. จึงมีความประสงค์ในการจัดหาหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความพร้อมจัดกิจกรรมบ่มเพาะ และเร่งสร้าง การให้ปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และพี่เลี้ยง เพื่อพัฒนารูปแบบธุรกิจนวัตกรรมที่มีความเป็นไปได้ทางธุรกิจ รวมทั้งมีพื้นที่ทํางานร่วม (co-working space) เพื่อจัดกิจกรรมเครือข่ายของวิสาหกิจเริ่มต้น ชุมชน ธุรกิจ และหน่วยงานในพื้นที่ ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มวิสาหกิจ เริ่มต้นเป้าหมายทั้ง 8 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และลอจิสติกส์ (E-Commerce and Logistictech) 2) กลุ่มเทคโนโลยีการเงิน (Fintech) 3) กลุ่มการเกษตรและอาหาร (Agtech) 4) กลุ่มการแพทย์และสุขภาพ (Medtech and Healthtech) 5) กลุ่มไลฟสไตล์ การเดินทาง และสื่อ (Lifestyletech - Traveltech- Mediatech) 6) กลุ่มอุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) 7) กลุ่มธุรกิจภาครัฐและการศึกษา (Govtech & Edtech) 8) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (Propertytech)
โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.เพื่อให้ผู้ประกอบการนวัตกรรม และวิสาหกิจเริ่มต้นที่อยู่ในเครือข่ายของแต่ละภูมิภาคสามารถต่อยอดแนวความคิดพัฒนาสู่การเป็นวิสาหกิจเริ่มต้นที่สร้างมูลค่าเพิ่มสูงให้แก่ประเทศที่ช่วยผลักดันการสร้างธุรกิจนวัตกรรมที่มีความเข้มแข็ง และสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วผ่านการพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) ภายใต้ระบบพี่เลี้ยง (Mentoring System) 2.เพื่อส่งเสริม และพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นให้มีความรู้ความสามารถพร้อมที่จะดําเนินธุรกิจในระดับสากลได้ 3.เพื่อส่งเสริมให้วิสาหกิจเริ่มต้นสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อตลาดได้ 4.เพื่อสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและประชาคมวิสาหกิจเริ่มต้นพัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มุ่งเน้นการยกระดับ และพัฒนาคุณภาพของบุคลากรในธุรกิจด้านเทคโนโลยีอย่างเป็นมาตรฐาน และ 5.เพื่อสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน และวิสาหกิจเริ่มต้นในการพัฒนาประชาคมวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup Community) ในการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่รายอุตสาหกรรมให้เอื้ออํานวยต่อการจัดตั้ง และเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัป
ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้สนใจเป็น Startup และนักประดิษฐ์คิดค้น หรือสร้างสรรค์ มีความพยายามอดทน มุ่งมั่นไปถึงเป้าหมายไม่มีสัญญาผูกมัดกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ขาดเงินลงทุน และเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่เสมอโดยได้เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ มีผู้สมัครมาแล้ว 10 ทีม (ทีมละไม่เกิน 3 ท่าน) และจะคัดเลือก 6 ทีม เพื่อเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2560 เป็นการเริ่มต้นวัน D-Day “ยกพลขึ้นเกาะ เหาะไปด้วยกัน” ทั้งนี้ ผู้เข้ารอบทั้ง 6 ทีม จะได้เข้ามานั่งทำงานที่ Hatch Coworking Space สัปดาห์ละ 5 วัน หรือร้อยละ 80 ของระยะเวลาโครงการ (3 เดือน) สามารถใช้ wifi เครื่องดื่ม ของว่างตลอดทั้งวัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเป็นโอกาสดีที่ 6 ทีมจะมีพี่เลี้ยง Mentor ให้คำปรึกษาในเรื่องการเขียนโครงการ มีเพื่อนใหม่ๆ ได้แชร์ประสบการณ์ และมีโอกาสพบปะนักลงทุนที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจอีกด้วย ซึ่งจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมเครือข่าย สัมมนา โดยจัดหาวิทยากรสำหรับรรยาย และ Workshop จำนวนอย่างน้อย 6 ครั้ง
ประกอบด้วย หัวข้อการบรรยายที่เน้นให้ความรู้ และพัฒนาศักยภาพของผู้เข้าร่วมโครงการให้สามารถดำเนินธุรกิจในรูปแบบของ startup และมีกิจกรรมเสริมอื่นๆ จัดหาวิทยากรบรรยาย วิทยากรได้แก่ วิทยากรในท้องถิ่น วิทยากรจากหน่วยงานต่างๆ ที่มีประสบการณ์ และทักษะด้านนั้นๆ ซึ่งระยะเวลาการจัดเมื่อเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม 2560 สำหรับเงินรางวัลที่จะมอบให้แก่ผู้ร่วมโครงการ ทีมละ 1 แสนบาท และเงินสนับสนุนเพื่อทำผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (prototype) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ : Hatch Phuket Startups หรือโทร.08-7461-6406
วานนี้ (12 มี.ค.) ที่ศูนย์การค้าไลม์ไลน์ ภูเก็ต บริษัท แฮทช์ โคเวิร์คกิ้ง สเปซ ภูเก็ต จำกัด หรือ HATCH COWORKING SPACE PHUKET จัด STARTUPS IN RESIDENCE : ISLANDER SPACESHIP “ยกพลขึ้นเกาะ เหาะไปด้วยกัน” เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ภูเก็ต โดยมี นายวงศกร เทศยรัตน์ HATCH Coworking Space Phuket นายอัจฉริยะ ดาโรช JUMP Space Khon Kaen นายภาวินท์ สุทธพงษ์ Thailand Tech Startup Association นายกิตติชัย พิพัฒน์บุณยารัตน์ Punspace นายปริวรรต วงษ์สำราญ National Innovation Agency (NIA) นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด (PKCD) นักการตลาดเชิงกลยุทธ์ ร่วมกันเปิดเผยถึงการจัด STARTUPS IN RESIDENCE : ISLANDER SPACESHIP ว่า จากวิสัยทัศน์นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพัฒนา “วิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) เป็นนักรบทางเศรษฐกิจใหม่ (New Economic Warrior : NEW) และประเทศไทยจะเป็นพื้นที่เปิดสําหรับการเติบโตของอาเซียน” โดยมียุทธศาสตร์เปิดพื้นที่ 4 ด้าน ได้แก่ 1) เป็นพื้นที่เปิดรับผู้ที่มีทักษะสูงจากทั่วโลก (Talent) 2) เป็นพื้นที่เปิดรับการเร่งการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น (Business Growth) 3) เป็นพื้นที่เปิดรับและสนับสนุนการลงทุนในวิสาหกิจเริ่มต้น (Investment) และ 4) เป็นพื้นที่เปิดรับการสร้างและพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น (Ecosystem)
ทั้งนี้ คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ (National Startup Committee) ยังได้พัฒนาแผนการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นของประเทศไทย (พ.ศ. 2559-2564) โดยเร่งดําเนินการให้มีการจัดตั้งโปรแกรมเพื่อบ่มเพาะ และเร่งสร้างวิสาหกิจเริ่มต้น เพื่อสร้างให้เกิดมาตรฐานในการถ่ายทอดองค์ความรู้ และสร้างมาตรฐานในการคัดเลือกวิสาหกิจเริ่มต้นในระยะแรก Pre-Seed เพื่อพิจารณาขอรับสิทธิประโยชน์ หรือเงินทุนให้เปล่า (Grants) ซึ่งจะช่วยผลักดันการสร้างธุรกิจนวัตกรรมที่มีความเข้มแข็งและสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วผ่านการพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) ภายใต้ระบบพี่เลี้ยง (Mentor) ตลอดจนส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มุ่งเน้นการยกระดับ และพัฒนาคุณภาพของบุคลากรในธุรกิจด้านเทคโนโลยีเป็นสําคัญ ซึ่งสอดคล้องต่อยุทธศาสตร์การเป็นพื้นที่เปิดรับการเร่งการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น
นอกจากนี้ ทางสํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. ได้ดําเนินโครงการ “ย่านวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup District)” ภายใต้ยุทธศาสตร์ “เศรษฐกิจนวัตกรรมเชิงพื้นที่” โดยมีแนวคิดของการวางแผน และออกแบบพื้นที่ และสังคมเมืองเพื่อพัฒนาเมือง หรือย่านให้เป็นกลุ่มคลัสเตอร์ของผู้ประกอบธุรกิจ นวัตกรรมและวิสาหกิจเริ่มต้น โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมือและกลไกที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัย และผู้ดําเนินกิจกรรมในย่าน เพื่อเชื่อมต่อผู้คน และไอเดียภายในย่าน รวมถึงมีกลไกที่ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม สร้างสรรค์สิ่งใหม่ร่วมกัน แบ่งปันความรู้แก่กันของวิสาหกิจเริ่มต้น ชุมชน ธุรกิจ และหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องต่อยุทธศาสตร์การเป็นพื้นที่เปิดรับการสร้าง และพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น
ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว ทาง สนช. จึงริเริ่มโครงการเร่งสร้างวิสาหกิจเริ่มต้นระยะแรก (Startups in Residence) สนช. จึงมีความประสงค์ในการจัดหาหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความพร้อมจัดกิจกรรมบ่มเพาะ และเร่งสร้าง การให้ปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และพี่เลี้ยง เพื่อพัฒนารูปแบบธุรกิจนวัตกรรมที่มีความเป็นไปได้ทางธุรกิจ รวมทั้งมีพื้นที่ทํางานร่วม (co-working space) เพื่อจัดกิจกรรมเครือข่ายของวิสาหกิจเริ่มต้น ชุมชน ธุรกิจ และหน่วยงานในพื้นที่ ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มวิสาหกิจ เริ่มต้นเป้าหมายทั้ง 8 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และลอจิสติกส์ (E-Commerce and Logistictech) 2) กลุ่มเทคโนโลยีการเงิน (Fintech) 3) กลุ่มการเกษตรและอาหาร (Agtech) 4) กลุ่มการแพทย์และสุขภาพ (Medtech and Healthtech) 5) กลุ่มไลฟสไตล์ การเดินทาง และสื่อ (Lifestyletech - Traveltech- Mediatech) 6) กลุ่มอุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) 7) กลุ่มธุรกิจภาครัฐและการศึกษา (Govtech & Edtech) 8) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (Propertytech)
โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.เพื่อให้ผู้ประกอบการนวัตกรรม และวิสาหกิจเริ่มต้นที่อยู่ในเครือข่ายของแต่ละภูมิภาคสามารถต่อยอดแนวความคิดพัฒนาสู่การเป็นวิสาหกิจเริ่มต้นที่สร้างมูลค่าเพิ่มสูงให้แก่ประเทศที่ช่วยผลักดันการสร้างธุรกิจนวัตกรรมที่มีความเข้มแข็ง และสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วผ่านการพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) ภายใต้ระบบพี่เลี้ยง (Mentoring System) 2.เพื่อส่งเสริม และพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นให้มีความรู้ความสามารถพร้อมที่จะดําเนินธุรกิจในระดับสากลได้ 3.เพื่อส่งเสริมให้วิสาหกิจเริ่มต้นสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อตลาดได้ 4.เพื่อสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและประชาคมวิสาหกิจเริ่มต้นพัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มุ่งเน้นการยกระดับ และพัฒนาคุณภาพของบุคลากรในธุรกิจด้านเทคโนโลยีอย่างเป็นมาตรฐาน และ 5.เพื่อสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน และวิสาหกิจเริ่มต้นในการพัฒนาประชาคมวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup Community) ในการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่รายอุตสาหกรรมให้เอื้ออํานวยต่อการจัดตั้ง และเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัป
ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้สนใจเป็น Startup และนักประดิษฐ์คิดค้น หรือสร้างสรรค์ มีความพยายามอดทน มุ่งมั่นไปถึงเป้าหมายไม่มีสัญญาผูกมัดกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ขาดเงินลงทุน และเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่เสมอโดยได้เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ มีผู้สมัครมาแล้ว 10 ทีม (ทีมละไม่เกิน 3 ท่าน) และจะคัดเลือก 6 ทีม เพื่อเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2560 เป็นการเริ่มต้นวัน D-Day “ยกพลขึ้นเกาะ เหาะไปด้วยกัน” ทั้งนี้ ผู้เข้ารอบทั้ง 6 ทีม จะได้เข้ามานั่งทำงานที่ Hatch Coworking Space สัปดาห์ละ 5 วัน หรือร้อยละ 80 ของระยะเวลาโครงการ (3 เดือน) สามารถใช้ wifi เครื่องดื่ม ของว่างตลอดทั้งวัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเป็นโอกาสดีที่ 6 ทีมจะมีพี่เลี้ยง Mentor ให้คำปรึกษาในเรื่องการเขียนโครงการ มีเพื่อนใหม่ๆ ได้แชร์ประสบการณ์ และมีโอกาสพบปะนักลงทุนที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจอีกด้วย ซึ่งจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมเครือข่าย สัมมนา โดยจัดหาวิทยากรสำหรับรรยาย และ Workshop จำนวนอย่างน้อย 6 ครั้ง
ประกอบด้วย หัวข้อการบรรยายที่เน้นให้ความรู้ และพัฒนาศักยภาพของผู้เข้าร่วมโครงการให้สามารถดำเนินธุรกิจในรูปแบบของ startup และมีกิจกรรมเสริมอื่นๆ จัดหาวิทยากรบรรยาย วิทยากรได้แก่ วิทยากรในท้องถิ่น วิทยากรจากหน่วยงานต่างๆ ที่มีประสบการณ์ และทักษะด้านนั้นๆ ซึ่งระยะเวลาการจัดเมื่อเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม 2560 สำหรับเงินรางวัลที่จะมอบให้แก่ผู้ร่วมโครงการ ทีมละ 1 แสนบาท และเงินสนับสนุนเพื่อทำผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (prototype) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ : Hatch Phuket Startups หรือโทร.08-7461-6406