สุราษฎร์ธานี - ค้นหาเบาะแสนักท่องเที่ยวชาวสาวรัสเซียที่หายไปอย่างปริศนา ยังมืดมน ด้านการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบเบาะแสใหม่ มีโรคประจำตัวหลายโรคที่ขัดต่อกฎดำน้ำ และยาที่ใช้อยู่กำลังหมดไป
จากกรณี น.ส.วาเลนตินา โนโวจีโอโนวา (Valentina Novozhyonova) อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียหายตัวไปอย่างปริศนาขณะเข้าพักบนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ล่าสุดวันนี้ (11 มี.ค.) ทางทีมดำค้นหาใต้น้ำได้ปรับแผนการค้นหา โดยมุ่งเน้นไปค้นภายในถ้ำที่อยู่ในบริเวณหัวปลายแหลมของอ่าวโฉลกบ้านเก่า ทั้ง 2 ด้านของอ่าว ซึ่งในถ้ำบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งนักดำน้ำชอบเข้าดำดูธรรมชาติ เนื่องจากมีปะการังชนิดต่างๆ จำนวนมาก ใช้เวลาในการดำประมาณ 40 นาที ในระดับน้ำลึก 5-8 เมตร โดยการดำจะใช้วิธีการดำเดินหน้าเป็นรูปขนาน และเกาะกลุ่มเข้าไปในถ้ำ แต่ไม่พบเบาะแส
และในรอบบ่าย การค้นหาทีมกู้ภัยต้องจุดธูปอธิษฐานขอต่อพ่อตาโต๊ะ ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เคารพบูชาของคนเกาะเต่า ให้เปิดทางให้ทีมดำค้นหาได้เบาะแส ซึ่งทีมดำน้ำจำนวน 8 คน ได้เริ่มทำการดำค้นหาบริเวณใต้น้ำจุดหน้าวิวพ้อยท์รีสอร์ท อีกครั้ง โดยใช้วิธีการดำจากทะเลที่มีความลึกประมาณ 7 เมตร เป็นหน้ากระดานเดินหน้าเข้าหาฝั่ง และจากความลึกระดับ 7 เมตร ออกไปสู่ทะเลในระดับความลึกประมาณ 17 เมตร แต่การดำในช่วงบ่ายต้องพบอุปสรรคกระแสน้ำเปลี่ยนทิศ และขุ่น ทัศนวิสัยมองเห็นได้ไม่เกิน 1 เมตร และต้องยุติลงเมื่อเวลา 17.00 น.กลับมาประเมินทิศทางการค้าหาใหม่อีกครั้งก่อนจะเริ่มดำค้นหาต่อในวันพรุ่งนี้
ด้าน พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สวญ.สภ.ย่อยเกาะเต่า ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเดินทางของผู้สูญหายอีกครั้ง หลังจากการค้นหาที่ผ่านมาทั้งทางบก และทางทะเลไร้เบาะแส และการสืบสวนทราบว่า น.ส.วาเลนตินา โนโวจีโอโนวา มีโรคประจำตัวที่ขัดต่อกฎข้อห้ามของนักดำน้ำถึง 4 โรค ประกอบด้วย เป็นโรคหอบหืด โรคลมชัก โรคซึมเศร้า และโรควิตกกังวล ต้องใช้ยาประจำ ซึ่ง น.ส.วาเลนตินา โนโวจีโอโนวา ได้โพสต์ใน VK หรือเฟซบุ๊กรัสเซีย และบรรยายในไดอารี่ส่วนตัวว่าตัวยาที่กินอยู่กำลังจะหมดต้องเดินทางไปซื้อที่กรุงเทพฯ ซึ่งอาจเป็นชนวนที่ทำให้ประสบอุบัติเหตุขณะดำน้ำได้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้น้ำหนักในประเด็นการค้นหาทางใต้น้ำ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่น
จากกรณี น.ส.วาเลนตินา โนโวจีโอโนวา (Valentina Novozhyonova) อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียหายตัวไปอย่างปริศนาขณะเข้าพักบนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ล่าสุดวันนี้ (11 มี.ค.) ทางทีมดำค้นหาใต้น้ำได้ปรับแผนการค้นหา โดยมุ่งเน้นไปค้นภายในถ้ำที่อยู่ในบริเวณหัวปลายแหลมของอ่าวโฉลกบ้านเก่า ทั้ง 2 ด้านของอ่าว ซึ่งในถ้ำบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งนักดำน้ำชอบเข้าดำดูธรรมชาติ เนื่องจากมีปะการังชนิดต่างๆ จำนวนมาก ใช้เวลาในการดำประมาณ 40 นาที ในระดับน้ำลึก 5-8 เมตร โดยการดำจะใช้วิธีการดำเดินหน้าเป็นรูปขนาน และเกาะกลุ่มเข้าไปในถ้ำ แต่ไม่พบเบาะแส
และในรอบบ่าย การค้นหาทีมกู้ภัยต้องจุดธูปอธิษฐานขอต่อพ่อตาโต๊ะ ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เคารพบูชาของคนเกาะเต่า ให้เปิดทางให้ทีมดำค้นหาได้เบาะแส ซึ่งทีมดำน้ำจำนวน 8 คน ได้เริ่มทำการดำค้นหาบริเวณใต้น้ำจุดหน้าวิวพ้อยท์รีสอร์ท อีกครั้ง โดยใช้วิธีการดำจากทะเลที่มีความลึกประมาณ 7 เมตร เป็นหน้ากระดานเดินหน้าเข้าหาฝั่ง และจากความลึกระดับ 7 เมตร ออกไปสู่ทะเลในระดับความลึกประมาณ 17 เมตร แต่การดำในช่วงบ่ายต้องพบอุปสรรคกระแสน้ำเปลี่ยนทิศ และขุ่น ทัศนวิสัยมองเห็นได้ไม่เกิน 1 เมตร และต้องยุติลงเมื่อเวลา 17.00 น.กลับมาประเมินทิศทางการค้าหาใหม่อีกครั้งก่อนจะเริ่มดำค้นหาต่อในวันพรุ่งนี้
ด้าน พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สวญ.สภ.ย่อยเกาะเต่า ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเดินทางของผู้สูญหายอีกครั้ง หลังจากการค้นหาที่ผ่านมาทั้งทางบก และทางทะเลไร้เบาะแส และการสืบสวนทราบว่า น.ส.วาเลนตินา โนโวจีโอโนวา มีโรคประจำตัวที่ขัดต่อกฎข้อห้ามของนักดำน้ำถึง 4 โรค ประกอบด้วย เป็นโรคหอบหืด โรคลมชัก โรคซึมเศร้า และโรควิตกกังวล ต้องใช้ยาประจำ ซึ่ง น.ส.วาเลนตินา โนโวจีโอโนวา ได้โพสต์ใน VK หรือเฟซบุ๊กรัสเซีย และบรรยายในไดอารี่ส่วนตัวว่าตัวยาที่กินอยู่กำลังจะหมดต้องเดินทางไปซื้อที่กรุงเทพฯ ซึ่งอาจเป็นชนวนที่ทำให้ประสบอุบัติเหตุขณะดำน้ำได้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้น้ำหนักในประเด็นการค้นหาทางใต้น้ำ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่น
