xs
xsm
sm
md
lg

ท้าเที่ยวข้ามภาค! สไตล์ลึกซึ้ง “ตามรอยพระบาท ภูเก็ต-เชียงใหม่-ลำปาง-ลำพูน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จุดชมวิวกิ่วฝิ่น
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต ร่วมกับสายการบินไทยสมายล์ จัดกิจกรรม “ท้าเที่ยวข้ามภาค! เส้นทางตามรอยพระบาท ภูเก็ต-เชียงใหม่-ลำปาง-ลำพูน” นำสื่อมวลชนท้องถิ่นทุกแขนงกว่า 20 ชีวิต บินลัดฟ้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์การท่องเที่ยวข้ามภูมิภาคจากทะเลอันดามัน สู่ยอดดอยจังหวัดชียงใหม่ ลำปาง และลำพูน ระหว่างวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา นำทีมโดย นายอุทิศ ลิ่มสกุล รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต
จุดชมวิวกิ่วฝิ่น
ทริปนี้ ททท.สำนักงานภูเก็ต ต้องการประชาสัมพันธ์สร้างกระแสกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวข้ามภูมิภาคกันมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต และพื้นที่ใกล้เคียงที่มีความสะดวกสบายในการเดินทาง มีเที่ยวบินตรงจากภูเก็ตไปยังภาคเหนือ ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย หลายสายการบิน ที่จะพาทุกท่านบินลัดฟ้าข้ามภูมิภาคจากภูเก็ตไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ดินแดนล้านนาศูนย์กลางการเดินทางท่องเที่ยวในภาคเหนือของประเทศไทย ทาง ททท.จึงนำสื่อมวลชนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต เดินทางเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวจริง และนำประสบการณ์ตรงเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยพระบาทในหนังสือ “70 เส้นทางตามรอยพระบาท” ที่ทาง ททท.จัดทำขึ้นเพื่อแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวตามโครงการหลวง และโครงการตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ที่สวยงาม และครบครัน สามารถเป็นได้ทั้งแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวไปพร้อมกัน
บ้านแม่กำแปงใน
โดยกิจกรรมในครั้งนี้ เริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินภูเก็ต ด้วยสายการบินไทยสมายล์ ซึ่งมีเที่ยวบินตรงจากภูเก็ตสู่จังหวัดเชียงใหม่ทุกวัน ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง ออกจากสนามบินภูเก็ต เวลา 12.35 น.ถึงเชียงใหม่เวลา 14.30 น. ระหว่างการเดินทางมีบริการอาหาร และเครื่องดื่ม เมื่อถึงสนามบินเชียงใหม่แวะรับประทานอาหารเหนือแท้ๆ ล่ำแต้ๆ จุดหมายของคณะเรา คือ หมู่บ้านแม่กำปอง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ หมู่บ้านตัวอย่างของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่มีการอนุรักษ์ผืนป่า และภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามทางธรรมชาติ วิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้าน และอากาศที่เย็นสบายในช่วงปลายปี และต้นปี เพราะหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขา
บ้านในหุบเขาที่บ้านแมากำปองใน
ที่นี่มาเที่ยวได้ทั้งแบบวันเดย์ทัวร์ หรือค้างคืนก็ได้ มีที่พักให้เลือกทั้งแบบโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่รวมตัวกัน หรือพักแบบรีสอร์ตที่ช่อนตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้ และสายธารของน้ำตกสายเล็กๆ ไหลผ่านหมู่บ้านหมู่บ้านตัวอย่างของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่มีการอนุรักษ์ผืนป่าและภูมิปัญญาท้องถิ่น ไม่ว่าจะเดินไปจุดไหนของแม่กำปอง คุณจะได้สัมผัสกับเสียงน้ำไหลตลอดเส้นทาง มีร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ๆ ให้ได้นั่งจิบกาแฟดื่มด่ำธรรมชาติ พลาดไม่ได้ที่จะแวะแซะภาพเก๋ๆ กับผนังร้านกาแฟลุง………..ลองเลือกมาใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ที่บ้านแม่กำปองสักวันสองวันฟินแน่นอน ไม่มาไม่ได้แล้ว รีบจองตั๋วเครื่องบินไทยสมายล์ แพกกระเป๋า มานอนฟังเสียงน้ำตก ชาร์จแบตให้ตัวเองกัน
บรรยากาศตอนเช้าที่บ้านแม่กำปอง
ไม่ไกลจากหมู่บ้านแม่กำปอง เรายังได้ตามรอยพระบาทไปที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก ตำบลห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ เป็นอีกศูนย์ฯ หนึ่งที่เกิดจากน้ำพระทัย และพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.๙) พระองค์ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ประมาณ 300,000 บาท ก่อสร้างศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก เพื่อเป็นแหล่งพัฒนา สาธิต และส่งเสริมการเพาะเห็ดหอม และกาแฟให้เป็นอาชีพเสริมให้แก่ราษฎร นอกเหนือจากการปลูกเมี่ยง เพื่อส่งเสริมให้เกษตรมีรายได้เสริมนอกจากการปลูกเมี่ยง โครงการหลวงตีนตก ยังเปิดให้บริการในส่วนของที่พักอีกด้วย
พระที่อยู่ภายในวัดที่บ้่นแม่กำปอง
เต็มอิ่มกับธรรมชาติของหมู่บ้านแม่กำปอง และโครงการหลวงตีนตกกันแล้ว มุ่งหน้าสู่ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เพื่อสัมผัสความงดงามตามธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลวังเงิน ทริปนี้คณะของเราเลือกใช้บริการรถสองแถวของชาวบ้านที่ให้บริการนักท่องเที่ยว เพราะเกรงว่ารถตู้อาจจะไม่สะดวกในการเดินทางในบางช่วงที่เป็นเนินสูง และโค้ง ประกอบกับคนขับชำนาญทางเป็นอย่างดี สอบถามราคาค่าบริการคนละ 100 บาท ไป-กลับ ผู้โดยสาร 5 คนขึ้นไป หรือจะเหมาคัน 500 บาท (ไปถึงบริเวณกิ่วฝิ่น) เมื่อมาถึงเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จุดรอยต่อ จ.เชียงใหม่-ลำปาง ต้องแวะชมวิวจุดที่เรียกว่า “กิ่วฝิ่น” ต้องเดินขึ้นเนินไปประมาณ 300 เมตร เมื่อขึ้นมาถึงต้องร้อง “ว้าว” กับความสวยงามของธรรมชาติเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผืนป่า และเทือกเขาสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตาสูด อากาศบริสุทธิ์ให้เต็มแรง หายเหนื่อยทันที
บ้านของชาวบ้านที่บ้านแม่กำปอง
มาถึงอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ก็ต้องไปแช่น้ำแร่ในธารน้ำแร่ ที่เต็มไปด้วยโขดหินธรรมชาติที่สวยงามแทรกกอยู่ท่ามกลางแอ่งน้ำร้อน น้ำแร่ที่มีอุณหภูมิสูงถึง 70-80 องศาเซลเซียส สามารถแช่ไข่ให้สุกได้ภายใน 15 นาที ไข่จะมีลักษณะไข่แดงสุกไข่ขาวสุกไม่แข็งจะ เหมือนมะพร้าวอ่อน เมื่อนำมาปรุงเป็น “ยำไข่แช่น้ำแร่” ซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อ อร่อยยิ่งนัก นอกจากนี้บริเวณอุทยานฯ ยังมีน้ำตกแจ้ซ้อน ที่มีความงดงามทางธรรมชาติ ที่เคยรับเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาแล้ว น้ำตกแจ้ซ้อน เป็นน้ำตกที่กำเนิดจากลำน้ำแม่มอญ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีแอ่งน้ำรองรับอยู่ตลอดสาย ไหลตกลงมาเป็นชั้นๆ มี 6 ชั้น มีทางเดินสะดวก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1 กิโลเมตร
ผู้ใหญ่บ้านให้ความรู้เกี่ยวกับบ้านแม่กำปอง
จากนั้นวกเข้าในตัวอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตแบบล้านนาที่กาดกองต้า ตลาดคนเดิน ชม ชอปสินค้าพื้นเมือง เปิดให้บริการทุกเย็นวันเสาร์ และอาทิตย์ รับประทานอาหารเย็นพื้นถิ่นแบบล้านนา และนั่งรถม้าเลาะเลียบแม่น้ำวัง ชมเมืองเก่า คนท้องถิ่นบอกว่า การนั่งรถม้านี่แหละทำให้เห็นเมืองได้ 360 องศา ยิ่งเมื่อวิ่งผ่านย่านตลาดเก่า ถึงถนนทิพย์เนตร ยิ่งรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเมืองที่ไม่หมุนไปตามกาลเวลา เพราะตึกรางบ้านช่องที่นี่ยังอนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม
โฮมสเตย์ที่บ้านแม่กำปอง
ลำปาง นับเป็นอีกจังหวัดในภาคเหนือที่เป็นแหล่งอารยธรรมล้านนาไทยที่น่าสนใจ ทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ มีวัดวาอาราม และสถาปัตยกรรมท้องถิ่น มีรถม้าที่ไม่เหมือนใคร มีอาหารการกินแสนอร่อย มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ทำให้ลำปางกลายเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นของตนเอง
บรรยากาศร้านค้าในหมู่บ้าน
จบจากจังหวัดลำปาง ก็ไปเที่ยวชมสะพานขาวทาชมภู อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน สะพานข้ามทางรถไฟสมัยสงครามโลก ที่สร้างมายาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ.2464 ปัจจุบัน นอกจากสะพานขาวทาชมภู จะเป็นทางรถไฟที่ทอดข้ามแม่น้ำแล้ว ยังใช้เป็นจุดแบ่งเขตระหว่างอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน กับเขตป่าสงวนแห่งชาติอีกด้วย อีกทั้งสะพานแห่งนี้ยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญจุดหนึ่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างประเทศ จึงไม่ควรพลาดที่จะหาโอกาสมาแวะชมความงดงามของสะพานขาวทาชมภู จากนั้นก็เลยไปสักการะพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตนับเวลามากกว่าพันปี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน นอกจากนั้น ยังเป็นองค์พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกา อีกด้วย แวะไปซื้อของฝากที่ตลาดวโรรส ตลาดพื้นเมืองชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเดินทางกลับภูเก็ต
นักท่องเที่ยวมาก็ต้องเซลฟี่กับบรรยากาศที่แสนจะอบอุ่น
สำหรับจังหวัดลำพูน ได้รับคัดเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เป็นเมืองต้องห้ามพลาดพลาดพลัส เชื่อมโยงนักท่องเที่ยวกับจังหวัดลำปาง (ลำปาง Plus ลำพูน) โดยทั้ง 2 จังหวัด เป็นเมืองที่กลิ่นอายคล้ายคลึงกันทั้งในประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมแบบล้านนาอันเก่าแก่ วิถีชีวิตท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ เป็นเมืองน่ารัก และมีแหล่งท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดที่สามารถเที่ยวเชื่อมโยงกันได้ทั้งรถยนต์ และรถไฟ
ร้านกาแฟ ภายในหมู่บ้าน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางมาเที่ยวแบบเนิบช้า ซึมซับอดีตกลิ่นอายแห่งล้านนาโบราณที่เมืองลำพูน บอกเลยว่า เมืองเล็กๆ แห่งนี้เป็นเมืองท่องเทียวแบบสโลว์ไลฟ์ ผู้คนน่ารัก เป็นกันเอง และใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ใครมาเยือนกี่ครั้งก็ติดตาตรึงใจ และประทับใจไม่เคยเลือนหาย
บ้านพักแบบโอมสเตย์ที่บ้านแม่กำปอง
วัดที่บ้านแม่กำปอง
รอบหมู่บ้านจะมีธารน้ำตกล้อมรอบ
บรรยากาศภายในวัด
ภาพบรรยากาศขณะที่ในหลวงรัชการที่ 9 เสด็จบ้านแม่กำปอง
หมกเมี่ยงอาหารพื้นบ้าน
ร้า่นกาแฟในหมู่บ้าน
ร้านโครงการหลวง
ผักจากโครงการหลวงถุงละ 10 บาท สดๆ
ทางขึ้นจุดจมวิว กิ่วฝิ่น
ลานจุดชมวิวกิ่วฝิ่น
ถึงแล้วกิ่วฝิ่น

ทางขึ้นน้ำตกแจ้ซ้อน

น้ำพุร้อนที่อุทยานแจ้ซ้อนสามารถต้มไข่ให้สุขได้
สะพานรัษฎาภิเศก
นั่งรถมือชมเมืองลำปาง
นักรถม้าชมเมืองลำปาง
สะพานรัษฎาพิเศก

บรรยากาศถนนคนเดินที่ลำปาก
พระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือ
ไหว้พระขอพร
ไหว้พระขอพร


พระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือ
กำลังโหลดความคิดเห็น