ตรัง - ประชาชนชาวตรังแห่ไปขอกู้เงิน ตามโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน หวังนำมาแก้ปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาล แต่ดูทีท่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะติดเงื่อนไขที่ยุ่งยาก และรัดกุม
วันนี้ (9 มี.ค.) ภายหลังรัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือในเรื่องนี้ก็คือ การปล่อยกู้โครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน โดยธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งแต่ละธนาคารได้เตรียมวงเงินไว้ธนาคารละ 5,000 ล้านบาท โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับสินเชื่อไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ยคงที่ 0.85% ต่อเดือน หรือ 10% ต่อปีตามหลักประกัน ผ่อนชำระไม่เกิน 5 ปี ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ธนาคารออมสิน สาขาตรัง ได้มีประชาชนเดินทางไปสอบถามรายละเอียด เงื่อนไข และขอเข้าร่วมโครงการดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย และเป็นหนี้นอกระบบ
น.ส.ยุวดี ชัยปรีชากุล อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175/21 ต.ท่ากลาง อ.เมือง จ.ตรัง มีอาชีพเป็นลูกจ้างของรัฐ กล่าวว่า แม้ตนจะสนใจเข้าร่วมโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน แต่หลังจากสอบถามรายละเอียดแล้ว คิดว่าขั้นตอน และเงื่อนไขการกู้ค่อนข้างยุ่งยาก โดยต้องมีคนค้ำประกันถึง 2 คน หรือเป็นข้าราชการเท่านั้น จึงอยากฝากถึงรัฐบาลว่า ถ้าจะช่วยเหลือประชาชนจนจริงๆ ขอให้ธนาคารลดเงื่อนไข และปล่อยกู้ง่ายกว่านี้
ด้าน นางเพียงใจ เพชรแก้ว อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ม.4 ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับจ้างกรีดยางพารา และเป็นหนี้นอกระบบ 40,000 บาท เป็นระยะเวลา 3-4 ปีแล้ว โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 2,000-2,500 บาท และมีรายได้ไม่แน่นอน เพราะยามฝนตกก็กรีดยางไม่ได้ ส่วนช่วงฤดูยางผลัดใบรายได้ก็ลดลง แต่รายจ่ายเท่าเดิม จึงอยากกู้เงินไปชำระหนี้นอกระบบ และผ่อนไปเรื่อยๆ จนหมดทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย แต่เงื่อนไขค่อนข้างยุ่งยากรัดกุม ตนคงไม่มีความสามารถกู้ได้ เพราะอาจตกคุณสมบัติ และที่สำคัญคนที่เป็นเจ้าหนี้นอกระบบก็คงไม่อยากมาที่ธนาคาร เพื่อยืนยันตัวตนอย่างแน่นอน