xs
xsm
sm
md
lg

[มหากาพย์ประปาเทศบาลนครศรีฯ 11] แผนงาบน้ำประปา 5 พันล้าน! ยังไม่จบ “เส้นใหญ่เมืองคอน” เดินหน้าดัน ทหารไม่กล้าหือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
นครศรีธรรมราช - ลับ ลวง พราง แผนเหนือเมฆผู้ใช้น้ำชาวเมืองนครศรีฯ ถูกจับล่ามเงียบตกเป็นตัวประกัน “ซื้อน้ำเอกชน 5 พันล้าน” ยังไม่ตาย แค่วิธีการเปลี่ยนแบบเนียนๆ ของพวก “เส้นใหญ่”

กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 6 ความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้น้ำของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังคงต้องทนสุดๆ อยู่กับมาตรฐานของน้ำที่สุดทนราวกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด มหากาพย์ประปาเทศบาลล่วงเข้าสู่ตอนที่ 11 แล้ว แต่กิจการประปาแห่งนี้ยังคงอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ เชาว์นวัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ผู้สร้างชื่อเสียงโด่งดังให้แก่ “ฝ่ายตรงข้าม” ของเขาได้ทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องจระเข้หลุดหายจากสวนสัตว์ หรือการปล่อยน้ำเน่าเสียจากภูเขาขยะลงแหล่งน้ำสาธารณะ ล้วนแต่ยกความดีความชอบเป็นเรื่องของ “ฝ่ายตรงข้าม” เสียทั้งสิ้น

ประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เช่นเดียวกัน ความเดือดร้อนของผู้ใช้น้ำที่หาผู้รับผิดชอบไม่ได้ แม้ว่าจะยังมีน้ำดิบที่ผลิตได้อย่างต่อเนื่อง 2 เดือนที่ผ่านมา กลับเกิดปรากฏการณ์น้ำประปาปนเปื้อนน้ำมันแพร่กระจายไปครึ่งค่อนเมืองเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น โดยหลักแล้วประปาจะต้องเป็นสาธารณูปโภคที่มีความมั่นคง การปนเปื้อนของน้ำมันจึงเป็นการบ่องชี้ให้เห็นถึงความอ่อนแอ หากเกิดการปนเปื้อนสารพิษอื่นแน่นอนว่าชาวเมืองนครศรีธรรมราช เรือนหมื่นค่อนเมืองตายไปหมดแล้ว แม้ว่าความร้ายแรงที่เกิดขึ้นจะแพร่กระจายแต่ “ความรับผิดชอบ” หาไม่ได้จากบ้านเมืองนี้ เงียบเหมือนเป่าสาก หากเป็นญี่ปุ่นหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ผู้บริหารไม่พ้นที่จะฆ่าตัวตายรับผิดชอบความผิดต่อประชาชน ทัวร์ญี่ปุ่นที่จัดบ่อยครั้งไม่ได้หยิบเอา “ความรับผิดชอบ” จากญี่ปุ่นกลับมาแม้เพียงหยิบมือ

การลงทุนล่าสุดของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ถึง 47 ล้าน ในการวางท่อสูบน้ำจากฝายท่าดี โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครศรีธรรมราช สำนักชลประทานที่ 15 เป็นคำถามที่ไร้คำตอบแม้การตรวจสอบจากองค์กรทั้งหลายยังเงียบเฉยงบลงทุน 47 ล้านเพื่อรองรับการสูบน้ำที่มีน้อยกว่า 1 แสน ลบ.ม.ในช่วงหน้าแล้งกับกำลังการผลิตเกือบ 3 หมื่น ลบ.ม.ต่อวัน 47 ล้านเพื่อสูบน้ำ 3-4 วัน ตรรกะนี้จึงก่อให้เกิดประโยชน์แก่ใครบางคนเป็นกอบเป็นกำมากกว่าจะเป็นประโยชน์สาธารณะ

ปัจจุบัน การปล่อยน้ำให้ผู้บริโภคของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ไม่ต้องพูดถึงคุณภาพน้ำที่ตกต่ำสุดขีด แรงดันของการส่งน้ำถูกลดลงเหลือแค่ 0.8 บาร์ ทำให้ผลกระทบเกิดขึ้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ที่อยู่ในระบบท่อจำหน่ายขนาดเล็ก ปลายท่อ หรือท่อย่อย แรงดันน้ำไม่เพียงพอต่อการใช้เป็นความเดือดร้อนชั้นแรก สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตามมาคือ น้ำในท่อมีไม่เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงระบบท่อเก่าโดยเฉพาะท่อปูน ช่างเทคนิคยืนยันว่าจะเกิดการแตกเสียหายตามมาหลังจากนี้หากมีการเปิดปล่อยแรงดันมากขึ้น

“ผมไม่เข้าใจว่าเขาคิดยังไง แต่ถ้าเขาคิดแผนรื้อระบบ และทำลายประปาท้องถิ่นแห่งนี้ด้วยวิธีการนี้ผมว่าเป็นวิธีแนบเนียนพอสมควร”
 

 
ไม่นับรวมภาวะรายได้ที่กำลังตกต่ำอย่างรุนแรง แม้ว่าผู้ใช้น้ำของประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช กำลังจะทะลุ 4 หมื่นราย ทั้งการขยายเขตที่กำลังเซ็นมือเป็นระวิง และผู้ใช้น้ำรายใหม่ในเขต แต่รายได้ที่เข้ามาเดือนสองเดือนนี้อยู่ที่แค่ 4.1 ล้านบาท ยังไม่หักค่าเก็บขยะ และภาษี รายได้จริงอยู่เพียง 2 ล้านเศษเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายที่กำลังบานเป็นวัวพันหลักค่าไฟฟ้าที่กำลังค้างจ่ายต่อเนื่องเพิ่มมากขึ้น ค่าเช่าบ่อน้ำที่ไม่ได้สูบใช้ต้องจ่ายอย่างต่อเนื่องซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เป็นเครื่องพิสูจน์ความอ่อนล้าของการตรวจสอบตาม “ระบบ” รายได้ที่กำลังดิ่งลงแม้ว่าทุกคลองน้ำดิบในขณะนี้จะเต็มไปด้วยน้ำ ผู้ใช้น้ำที่มากขึ้น กำลังเป็นเครื่องบ่งชี้ให้เห็นก่อนแล้งหนักจะมาเยือนในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า การบริหารจัดการที่กำลังล้มเหลว การลงทุ่มทุนมหาศาลกว่า 200 ล้านบาทอย่างหาผลสัมฤทธิ์กลับมาเป็นประโยชน์สาธารณะที่เป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ จึงเป็นไปได้เพียงสองทางคือ “เจตนา” และ “มือไม่ถึง”

แต่ทันทีที่คล้อยหลังการเดินทางกลับไป กทม.ของ “ประธานบอร์ด” การประปาส่วนภูมิภาคไปไม่กี่วัน นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค มีกำหนดการเดินทางมายังเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เพื่อทำข้อตกลงบันทึกความเข้าใจ หรือที่เรียกว่า MOU ในศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2560 ในหัวข้อ ความร่วมมือด้านวิชาการ ด้านเทคโนโลยีด้านการผลิตน้ำประปา และด้านการจำหน่ายน้ำประปา ทุกอย่างถูกเตรียมไว้แล้ว

พลันหลังจากกำหนดการนี้ออกมาผู้ที่ติดตามเรื่องนี้ทุบโต๊ะ ทุกอย่างเริ่มจะลงตัวหลักใหญ่ใจความหาใช่อยู่ที่การทำ MOU เท่านั้น แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของขบวนการขายน้ำของคนหน้าเดิม โครงการจัดซื้อน้ำจากเอกชน 30 ปี 5 พันล้าน ที่จำต้องล่มไปเมื่อปีที่แล้ว ยังไม่ตาย การลงทุนในที่ดิน 600 ไร่เกิดขึ้นแล้ว กำไรยังไม่เกิดขึ้นการหาช่องทางเพื่อพัฒนาพื้นที่ของเขานำไปสู่การขายน้ำชั่วลูกหลาน แผนนี้จึงต้องเดินต่อไปเพียงแค่จำต้องเปลี่ยนตัวเล่นเท่านั้น บริษัทที่มีชื่อเหมือนกับลูกชายของบางคนผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินจำเป็นต้องเดินหน้าเพราะหากล้มเหลวหมายถึงการถือครองที่ดินโดยเปล่าประโยชน์ ทุนหายกำไรหด

หากเป็นไปตามเช่นที่ผู้รู้ และยังเป็น “คนใน” บอกว่า ชาวนครศรีธรรมราช ผู้ใช้น้ำประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช กำลังถูกจับตัวใส่ปลอกคอเป็นตัวประกันแบบเงียบๆ อีกครั้ง หากเป็นไปตามแนวทางบันไดขั้นที่ 1 ลงนามใน MOU อีกไม่นานประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่กำลังอยู่ในภาวะล้มเหลวจะถูกเปลี่ยนมือไปเป็นประปาภูมิภาค น้ำประปาที่ถูกที่สุดในประเทศไทยจะไม่มีต่อไป แผนการส่งขายน้ำให้แก่ประปาภูมิภาคกำลังเริ่มขึ้นแบบเนียนๆ ค่าน้ำจะขึ้นไปอีกกี่เท่าตัว

แหล่งน้ำแหล่งนี้คงไม่พ้นแหล่งน้ำของพวกเดิมๆ ที่เคยถูกชาวบ้านฮือค้านมาแล้วเมื่อปีกลาย มาถึงตรงนี้จำต้องเชื่อแล้วว่าพวกเขาเป็นพวก “เส้นใหญ่” ทหาร หรืออำนาจพิเศษใดๆ ไม่สามารถทำอะไรได้ แถมยังดูถูกดูแคลนทหารอยู่บ่อยครั้งด้วยบารมีที่เหนือกว่าของการมี “เส้นใหญ่” มาถึงตรงนี้กลับนึกสงสารเมื่อเทียบกับ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีแถว จ.ขอนแก่น ที่เจอมาตรา 44 คงเพียงเพราะ “เส้นไม่ใหญ่” พอ

แต่ที่นครศรีธรรมราช ประชาชนที่ไม่มีเส้นกำลังถูกจับเป็นตัวประกันอีกครั้ง ความผิดปกติของงบประมาณมหาศาลเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ปัญหาประชาชนเดือดร้อนเป็นหมื่นครัวเรือนวิกฤตก็ต้องจำทนต่อไปเพราะพวก “เส้นใหญ่” เขาเหนือกว่าประชาชน
 
กำลังโหลดความคิดเห็น