สุราษฎร์ธานี -ไฟฟ้าเกาะเต่าวิกฤตหนักเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของบริษัทเอกชน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 14 ตัว แต่เสียไป 8 จ่ายกระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับวันละ 5-6 ครั้ง และเกิดกระแสไฟฟ้ากระชากทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายไปจำนวนมาก จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และประชาชนเป็นวงกว้าง

จากกรณีชาวบ้าน ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะเต่า ร้องเรียนต่อนายกอบชัย เสาวลักษณ์ กำนันตำบลเกาะเต่า ให้เร่งแก้ไขปัญหากระแสไฟฟ้าบนเต่าไม่เพียงพอต่อการใช้ และมีเหตุไฟฟ้าดับวันละ 5-6 ครั้ง ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดได้รับความเสียหาย ล่าสุด กำนันเกาะเต่า ได้เชิญตัวแทนจากบริษัทซีนิกซ์ จำกัด ที่เป็นบริษัทรับจ้างผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และนายอนุวัฒน์ เข็มแดง ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเกาะเต่า ได้มาสรุปหาทางออกเพื่อเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

ซึ่งการการไฟฟ้า และบริษัทเอกชนได้ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเครื่องปั่นไฟของบริษัท จำนวน 6 ตัว ที่บริษัทมีสัญญาผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้แก่ทางการไฟฟ้า วันละ 4 เมกะวัตต์ ได้ชำรุดไป จำนวน 4 เครื่อง ซึ่งอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม จึงทำผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงวันละ 3 เมกะวัตต์เศษ ส่วนเครื่องปั่นไฟของการไฟฟ้า มีเครื่องอยู่ทั้งหมด จำนวน 7 ตัว ปัจจุบันใช้ได้เพียง 3 ตัว ส่วนที่เสียกำลังอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม ประกอบกับเครื่องของการไฟฟ้าเป็นเครื่องเก่าสามารถจ่ายไฟได้เพียงร้อยละ 50 ซึ่งขณะนี้ได้นำเครื่องปั่นไฟโมบายที่มีกำลังผลิต 1,000 วัตต์มาเสริมอีก 2 เครื่อง แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการที่ปัจจุบันมีความต้องการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวันอยู่ที่ 4.7 เมกะวัตต์ และช่วงเย็นถึงเที่ยงคืนอยู่ที่ 6 เมกะวัตต์

นายอนุวัฒน์ เข็มแดงผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเกาะเต่า ระบุว่า ขณะนี้สามารถผลิตจ่ายกระแสไฟฟ้าได้เพียง 3.5 เมกะวัตต์ ดังนั้น จึงเกิดปัญหาจึงเกิดปัญหาไฟฟ้าไม่พอใช้ และดับปล่อย ในการแก้ไขในเบื้องต้นที่รอการดำเนินการซ่อมเครื่องที่เสีย ทางการไฟฟ้าอาจจะสลับการจ่ายไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ และอาจมีการดับเครื่องงดจ่ายไฟฟ้าทั้งเกาะให้เครื่องพักวันละประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่ที่น่าห่วงในฤดูกาลท่องเที่ยวปลายเดือนมีนาคมต่อเดือนเมษายน ปริมาณการใช้ไฟฟ้าบนเกาะเต่าจะสูงถึง 7 เมกะวัตต์ ซึ่งทางการไฟฟ้าเกาะเต่า ได้เสนอของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามาเสริมเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ แต่เรื่องยังไม่ผ่านการอนุมัติจากข้างบน

ด้าน นายกอบชัย เสาวลักษณ์ กำนันตำบลเกาะเต่า กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวหากไม่ได้รับการแก้ไขย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเป็นวงกว้าง และในเดือนเมษายนซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวบนเกาะเต่า จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่านบนเกาะเต่าเป็นจำนวนมาก หากกระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และชาวบ้านอย่างหนักอย่างแน่นอน
จากกรณีชาวบ้าน ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะเต่า ร้องเรียนต่อนายกอบชัย เสาวลักษณ์ กำนันตำบลเกาะเต่า ให้เร่งแก้ไขปัญหากระแสไฟฟ้าบนเต่าไม่เพียงพอต่อการใช้ และมีเหตุไฟฟ้าดับวันละ 5-6 ครั้ง ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดได้รับความเสียหาย ล่าสุด กำนันเกาะเต่า ได้เชิญตัวแทนจากบริษัทซีนิกซ์ จำกัด ที่เป็นบริษัทรับจ้างผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และนายอนุวัฒน์ เข็มแดง ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเกาะเต่า ได้มาสรุปหาทางออกเพื่อเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ซึ่งการการไฟฟ้า และบริษัทเอกชนได้ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเครื่องปั่นไฟของบริษัท จำนวน 6 ตัว ที่บริษัทมีสัญญาผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้แก่ทางการไฟฟ้า วันละ 4 เมกะวัตต์ ได้ชำรุดไป จำนวน 4 เครื่อง ซึ่งอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม จึงทำผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงวันละ 3 เมกะวัตต์เศษ ส่วนเครื่องปั่นไฟของการไฟฟ้า มีเครื่องอยู่ทั้งหมด จำนวน 7 ตัว ปัจจุบันใช้ได้เพียง 3 ตัว ส่วนที่เสียกำลังอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม ประกอบกับเครื่องของการไฟฟ้าเป็นเครื่องเก่าสามารถจ่ายไฟได้เพียงร้อยละ 50 ซึ่งขณะนี้ได้นำเครื่องปั่นไฟโมบายที่มีกำลังผลิต 1,000 วัตต์มาเสริมอีก 2 เครื่อง แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการที่ปัจจุบันมีความต้องการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวันอยู่ที่ 4.7 เมกะวัตต์ และช่วงเย็นถึงเที่ยงคืนอยู่ที่ 6 เมกะวัตต์
นายอนุวัฒน์ เข็มแดงผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเกาะเต่า ระบุว่า ขณะนี้สามารถผลิตจ่ายกระแสไฟฟ้าได้เพียง 3.5 เมกะวัตต์ ดังนั้น จึงเกิดปัญหาจึงเกิดปัญหาไฟฟ้าไม่พอใช้ และดับปล่อย ในการแก้ไขในเบื้องต้นที่รอการดำเนินการซ่อมเครื่องที่เสีย ทางการไฟฟ้าอาจจะสลับการจ่ายไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ และอาจมีการดับเครื่องงดจ่ายไฟฟ้าทั้งเกาะให้เครื่องพักวันละประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่ที่น่าห่วงในฤดูกาลท่องเที่ยวปลายเดือนมีนาคมต่อเดือนเมษายน ปริมาณการใช้ไฟฟ้าบนเกาะเต่าจะสูงถึง 7 เมกะวัตต์ ซึ่งทางการไฟฟ้าเกาะเต่า ได้เสนอของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามาเสริมเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ แต่เรื่องยังไม่ผ่านการอนุมัติจากข้างบน
ด้าน นายกอบชัย เสาวลักษณ์ กำนันตำบลเกาะเต่า กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวหากไม่ได้รับการแก้ไขย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเป็นวงกว้าง และในเดือนเมษายนซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวบนเกาะเต่า จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่านบนเกาะเต่าเป็นจำนวนมาก หากกระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และชาวบ้านอย่างหนักอย่างแน่นอน