กระบี่ - ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ แจงภาพคลิปฉาวถือปืนยาวตามยิง ผญบ.โคกแซะ ลั่นถูกกลั่นแกล้ง ยืนยันไม่ได้ต้องการไปยิงใคร แต่เพื่อป้องกันตัวเพราะเป็นที่เปลี่ยว เชื่อเป็นการดิสเครดิตก่อนจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานชุมนุมฯ อีกสมัย
วันนี้ (5 มี.ค.) จากรณีที่มีการแชร์คลิปวิดีโอภาพจากกล้องวงจรปิด ชายฉกรรจ์แต่งกายชุดดำลักษณะภูมิฐาน เดินถือปืนยาววนเวียนบริเวณหน้าป้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บ้านโคกแซะ ม.3 ต.คีรีวง อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เผยแพร่ในโลกโซเชียล ท่ามกลางประชาชนที่เดินผ่านไปมาจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์
ขณะที่ นายก้องภพ หนูเอียด อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านโคกแซะ ม.3 ต.คีรีวง อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ผู้ที่เผยแพร่คลิปดังกล่าวระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 9 ก.พ.60 ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่าบุคคลในภาพคือ นายสมคิด พรหมเจริญ มีตำแหน่งเป็นประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด และประธานกรรมการสหกรณ์นิคมอ่าวลึก ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ต้องการที่จะตามเอาชีวิตตน โดยได้พูดข่มขู่ฝากคนอื่นมาหลายครั้ง
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุก็เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบวนที่ สภ.ปลายพระยา ในข้อหาพยายามฆ่า ก่อนจะเดินทางเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง นายสมคิด พรหมเจริญ ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ก็ได้รับการเปิดเผยว่า บุคคลที่เดินถือปืนในคลิปเป็นตนเองจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปตามยิงใคร ตามที่ นายก้องภพ ผู้ใหญ่บ้านกล่าวหา แต่สาเหตุที่เดินถือปืนตอนนั้น ตนและชาวบ้านได้เดินไปตรวจสอบความเสียหาย หลังเกิดเหตุรถบรรทุกของลูกเขยไปเฉี่ยวชนกล้องวงจรปิดที่ป้อมหมู่บ้านโคกแซะก่อนหน้านี้ ซึ่งตนก็ได้ชดใช้ค่าเสียหายไปแล้ว จำนวน 3,600 บาท ที่ สภ.ปลายพระยา
ส่วนสาเหตุที่ต้องถือปืนไปด้วยนั้นเพื่อไว้ป้องกันตัวเพราะเห็นว่าเป็นสถานที่เปลี่ยว ก่อนจะกลับไปขึ้นรถเดินทางไปงานศพคนในหมู่บ้าน เรื่องทั้งหมดตนก็ได้ไปให้ปากคำที่ สภ.ปลายพระยา แล้ว ส่วนอาวุธปืนนั้นเป็นของตน มีทะเบียนถูกต้อง และก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม การเผยแพร่คลิปดังกล่าวตนเชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งทำลายชื่อเสียง เพราะตนมีหลายตำแหน่ง นอกจากเป็นประธานชุมนมสหกรณ์แล้ว ก็เป็นประธานคณะกรรมการสหกรณ์นิคมอ่าวลึก และเป็นคณะกรรมการ ธ.ก.ส.ด้วย และหลังจากนี้อีกไม่กี่เดือนตำแหน่งประธานชุมนุมสหกรณ์ฯ ก็จะกำหนดครบวาระ 2 ปี และจะมีการเลือกตั้งประธานคณะกรรมการชุดใหม่ในเดือนพฤษภาคมนี้
ซึ่งตนก็จะลงสมัครต่ออีกสมัย และทราบมาว่า นายก้องภพ ก็จะลงสมัครด้วย จึงใช้วิธีการดังกล่าวมาทำลายชื่อเสียงของตน ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อไป
ขณะที่ พ.ต.ต.สมพร ดีดวง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสมคิด ได้เดินทางมาให้ปากคำที่ สภ.ปลายพระยา แล้ว พร้อมอาวุธปืนยาวลูกซอง 8 นัด มามอบให้เจ้าหน้าที่ เบื้องต้นพบว่า เป็นอาวุธปืนมีทะเบียน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตถูกต้อง และได้แจ้งข้อหาข่มขู่ ตามที่ผู้แจ้งความให้ปากคำไว้แล้ว
ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ใครถูกใครผิดนั้นก็ต้องรอผลการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ประชาชนที่ทราบข่าวไม่ควรตัดสินกันตามกระแสโซเชียล ซึ่งหลังจากนี้คงต้องว่ากันในชั้นศาล