ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หน.อุทยานธารเสด็จ-เกาะพะงัน (เตรียมการ) จ.สุราษฎร์ธานี เรียกประชุมคณะทำงาน ร่วมหาแนวทางการลงสำรวจแนวเขตรอบใหม่ เพื่อความสบายใจของราษฎรในเขตพื้นที่
วานนี้ (27 ก.พ.) ที่ อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี นายอุเทน แสงดามุก หัวหน้าอุทยานธารเสด็จ-เกาะพะงัน (เตรียมการ) เชิญคณะทำงาน การอำนวยการสำรวจและจำแนกการใช้ประโยชน์ในที่ดินฯ ประชุมปรึกษาหารือ ณ ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอเกาะพะงัน เพื่อกำหนดการลงสำรวจแนวเขตในพื้นที่เตรียมการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน
สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรี ได้มีมติจะประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน อย่างเป็นทางการ และปรากฏว่า เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2559 มีกลุ่มประชาชนชาว อ.เกาะพะงัน ได้ยื่นหนังสือถึงหัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน (เตรียมการ) ขณะนั้น เพื่อขอให้ชะลอการประกาศแนวเขตฯ ไว้เป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อทำการพิสูจน์แนวเขต และการถือครองที่ดินของราษฎร โดยอ้างว่าแนวเขตดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน และราษฎรจำนวนมากยังไม่ทราบแนวเขต จึงเกรงว่าจะมีการประกาศเขตทับซ้อนที่ทำกินของราษฎร
ซึ่งทาง อ.เกาะพะงัน โดยมี นายเกริกไกร สงธานี นายอำเภอเกาะพะงัน ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอำนวยการสำรวจและจำแนกการใช้ประโยชน์ในที่ดิน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559 จึงได้มีการประชุมขึ้นในวันนี้เพื่อตกลงทำข้อกำหนด เงื่อนไข และวันเวลาเดินสำรวจ
นายอุเทน แสงดามุก หัวหน้าอุทยานธารเสด็จเกาะพะงัน กล่าวว่า การทำแนวเขตได้ทำไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งตนเองยังไม่ได้มาทำหน้าที่นี้ และแนวเขตดังกล่าวได้อยู่ในมือของคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว แต่เมื่อราษฎรเกาะพะงัน แย้ง ขอให้ชะลอการประกาศทำการสำรวจแนวเขตใหม่ จึงต้องทำการเดินสำรวจใหม่อีกรอบ เพื่อความสบายใจของราษฎร แต่ตนเองไม่สามารถยืนยันได้ว่า ข้อมูลการสำรวจครั้งนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงแนวเขตเดิมที่เสนอไปแล้วได้หรือไม่ เพราะเกินกรอบอำนาจที่จะตอบได้ ต้องทำการเดินสำรวจและเสนอเข้าไปยังคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วรอผล
สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเดินสำรวจพื้นที่นั้น ทางอุทยานฯ ได้เสนอดังนี้
1.ต้องมีร่องรอยปรากฏในภาพถ่ายระหว่างทางอากาศ ปี 2545
2.ต้องเป็นพื้นที่ที่มีการทำประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งร้างเป็นเวลานาน
3.ต้องไม่เป็นพื้นที่ที่อุทยานฯ ได้ดำเนินการตรวจยึด และจับกุมแล้ว
4.บุคคลที่ครอบครองพื้นที่ต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
ซึ่งข้อเสนอทั้ง 4 ข้อ ทางตัวแทนภาคประชาชนมีความกังวลว่า หากยึดตามแนวทางข้อเสนอแบบนี้ทั้งหมดคงกระทบต่อราษฎรแน่นอน จึงเสนอว่าต้องมีการพิจารณาในพื้นที่จริงเป็นกรณีๆ ไป ประกอบกับข้อกำหนดดังกล่าวที่ประชุมเห็นด้วยต่อการเสนอ
ส่วนวันเวลาดำเนินการลงพื้นที่สำรวจของคณะทำงานที่นายอำเภอเกาะพะงัน ได้แต่งตั้งไว้นั้น ต้องร่วมกันประชุมหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้าน ตามกำหนดการประชุมประจำเดือน โดยต้องประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจต่อราษฎรที่มีแนวเขตที่น่าจะกระทบต่อการประกาศเขตฯ แล้วหลังจากนั้นค่อยกำหนดวันเวลาเดินสำรวจต่อไป
ด้าน นายพิพิธ รัตนรักษ์ สจ.อ.เกาะพะงัน กล่าวว่า ควรแจ้งให้ผู้ครอบครองที่ดินทุกแปลงทราบเพื่อมาร่วมพิสูจน์แนวเขต และควรจะให้ความเป็นธรรมต่อราษฎร ไม่ควรยึดกฎหมายมากเกินไป เพราะเห็นว่าผู้ครอบครองเป็นเพียงชาวบ้านจนๆ ทำมาหาเลี้ยงชีพเท่านั้น จึงควรผ่อนปรนกันตามความเหมาะสม และเท่าที่จะเป็นไปได้