ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โจ๋กระบี่ให้พ่อแม่ติดต่อเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต หลังจากก่อเหตุยิงวัยรุ่นภูเก็ตดับ 1 ราย ภายในซอยธรรมโสภา กลางเมืองภูเก็ต ก่อนขับรถจักรยานยนต์หนีกลับบ้านเกิดที่ จ.กระบี่ สาเหตุมาจากคอมเมนต์ผ่านเฟชบุ๊กแล้วมีการท้ายทายกัน
จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ก.พ. เวลาประมาณ 03.50 น. ร.ต.อ.รณภูมิ เพิ่มพูน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงด้วยอาวุธปืน ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 98 ซ.ธรรมโสภา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายขจรศักดิ์ หรือแซม แซ่อึ้ง อายุ 20 ปี ที่อยู่ 3/17 ซ.ตลิ่งชัน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ณัฐ พรหมเทพ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และ พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ให้ทำการสืบสวนในการเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาให้โดยเร็วที่สุด โดยมีการนำพยานแวดล้อมทั้งเพื่อนคนร้าย และเพื่อนผู้ตายมาสอบสวน จนกระทั่งทราบตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งทราบว่าเป็นเยาวชนอายุ 14 ปี และต้องขอเข้ามอบตัว
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้นำอาวุธปืนที่ใช้ในการยิงนำไปซุกซ่อนไว้ที่บ้านภายในห้องนอนของบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยมะลิพันธ์ ม.1 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านพักของเพื่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ปรากฏว่า พบอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าภายในห้องนอนบ้านดังกล่าว และได้ตรวจยึดไว้เป็นอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยี่ห้อ BROWNING S.A. สีดำ เครื่องหมายทะเบียน กท 3900071 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 4 นัด เพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (24 ก.พ.) พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย ร.ต.อ.รณภูมิ เพิ่มพูน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต รับการมามอบตัวของ ด.ช.ภู (นามสมมติ) โดยเดินทางมาพร้อมด้วยพ่อแม่ หลังจากนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้สอบสวน ด.ช.ภู ถึงสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้
จากการสอบถาม ด.ช.ภู บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้มีปัญหากับเพื่อนผู้ตาย หลังจากนั้น ได้มีการคอมเมนต์กันผ่านเฟชบุ๊ก และได้มีการท้าทายกันผ่านเฟซบุ๊ก โดยวันที่เกิดเหตุตนและแฟนสาวได้เข้าไปหาเพื่อนที่บ้านหลังดังกล่าว แต่เมื่อไปถึงเพื่อนได้นอนแล้ว ตนกับแฟนสาวได้นั่งอยู่ที่หน้าบ้าน ระหว่างนั้นผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน ตนก็ไม่สนใจอะไร ต่อมา ผู้ตายได้มีการโทรศัพท์บอกเพื่อนๆ ว่า พบตนแล้วนั่งอยู่ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว เมื่อผู้ตายโทรศัพท์เสร็จผู้ตายได้เดินมาหาตนแล้วทำท่าคล้ายจะชักอาวุธออกมาเอวของผู้ตาย ตนจึงได้วิ่งเข้าอาวุธปืนของเพื่อนตนที่ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าโดยแขวนอยู่ใกล้กับที่ตนนั่ง หลังจากนั้น เมื่อผู้ตายเห็นตนนำอาวุธออกมาผู้ตายได้พยายามวิ่งหนี ตนจึงยิงใส่ผู้ตาย 1 นัด จนผู้ตายล้มลง หลังจากก่อเหตุเสร็จตนจึงทิ้งปืนไว้ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ และได้ขับรถจักรยานยนต์พร้อมด้วยแฟนสาว และเพื่อนกลับบ้านเกิดที่ อ.ลำทับ จ.กระบี่ หลังจากถึงบ้านได้มีการพูดคุยกับญาติพี่น้องว่าได้ไปก่อเหตุยิงคนตายมา ทางพ่อแม่จึงติดต่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ขอเข้ามอบตัวในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน พร้อมนำตัวเยาวชนคนดังกล่าวไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ก.พ. เวลาประมาณ 03.50 น. ร.ต.อ.รณภูมิ เพิ่มพูน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงด้วยอาวุธปืน ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 98 ซ.ธรรมโสภา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายขจรศักดิ์ หรือแซม แซ่อึ้ง อายุ 20 ปี ที่อยู่ 3/17 ซ.ตลิ่งชัน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ณัฐ พรหมเทพ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และ พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ให้ทำการสืบสวนในการเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาให้โดยเร็วที่สุด โดยมีการนำพยานแวดล้อมทั้งเพื่อนคนร้าย และเพื่อนผู้ตายมาสอบสวน จนกระทั่งทราบตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งทราบว่าเป็นเยาวชนอายุ 14 ปี และต้องขอเข้ามอบตัว
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้นำอาวุธปืนที่ใช้ในการยิงนำไปซุกซ่อนไว้ที่บ้านภายในห้องนอนของบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยมะลิพันธ์ ม.1 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านพักของเพื่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ปรากฏว่า พบอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าภายในห้องนอนบ้านดังกล่าว และได้ตรวจยึดไว้เป็นอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยี่ห้อ BROWNING S.A. สีดำ เครื่องหมายทะเบียน กท 3900071 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 4 นัด เพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (24 ก.พ.) พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย ร.ต.อ.รณภูมิ เพิ่มพูน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต รับการมามอบตัวของ ด.ช.ภู (นามสมมติ) โดยเดินทางมาพร้อมด้วยพ่อแม่ หลังจากนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้สอบสวน ด.ช.ภู ถึงสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้
จากการสอบถาม ด.ช.ภู บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้มีปัญหากับเพื่อนผู้ตาย หลังจากนั้น ได้มีการคอมเมนต์กันผ่านเฟชบุ๊ก และได้มีการท้าทายกันผ่านเฟซบุ๊ก โดยวันที่เกิดเหตุตนและแฟนสาวได้เข้าไปหาเพื่อนที่บ้านหลังดังกล่าว แต่เมื่อไปถึงเพื่อนได้นอนแล้ว ตนกับแฟนสาวได้นั่งอยู่ที่หน้าบ้าน ระหว่างนั้นผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน ตนก็ไม่สนใจอะไร ต่อมา ผู้ตายได้มีการโทรศัพท์บอกเพื่อนๆ ว่า พบตนแล้วนั่งอยู่ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว เมื่อผู้ตายโทรศัพท์เสร็จผู้ตายได้เดินมาหาตนแล้วทำท่าคล้ายจะชักอาวุธออกมาเอวของผู้ตาย ตนจึงได้วิ่งเข้าอาวุธปืนของเพื่อนตนที่ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าโดยแขวนอยู่ใกล้กับที่ตนนั่ง หลังจากนั้น เมื่อผู้ตายเห็นตนนำอาวุธออกมาผู้ตายได้พยายามวิ่งหนี ตนจึงยิงใส่ผู้ตาย 1 นัด จนผู้ตายล้มลง หลังจากก่อเหตุเสร็จตนจึงทิ้งปืนไว้ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ และได้ขับรถจักรยานยนต์พร้อมด้วยแฟนสาว และเพื่อนกลับบ้านเกิดที่ อ.ลำทับ จ.กระบี่ หลังจากถึงบ้านได้มีการพูดคุยกับญาติพี่น้องว่าได้ไปก่อเหตุยิงคนตายมา ทางพ่อแม่จึงติดต่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ขอเข้ามอบตัวในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน พร้อมนำตัวเยาวชนคนดังกล่าวไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป