xs
xsm
sm
md
lg

ปลูกทุกอย่างที่กิน ข้าราชการต้นแบบเดินตามรอยพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - มาแล้วเพลินตา เพลินใจ กับสำนักงานต้นแบบ ข้าราชการเดินตามรอยพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง ใช้พื้นที่ เวลาว่าง ปลูกผักกินได้ แทนไม้ประดับ สร้างความสามัคคี ลดค่าใช้จ่ายให้คนในองค์กร

เมื่อเราเดินทางไปติดต่อราชการที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.ภูเก็ต จะพบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด และมีความแตกต่างจากหน่วยงานราชการอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่รอบๆ อาคารจะมีการปลูกหญ้า หรือไม้ดอกไม้ประดับเพื่อให้เกิดความสวยงาม และสบายตาสำหรับผู้พบเห็น แต่ที่นี่พบว่า บริเวณรอบๆ ของสำนักงานจะไม่มีไม้ประดับ หรือไม้ดอกที่นำมาใช้ตกแต่งอาคารให้พบเห็น แต่จะได้พบกับแปลงปลูกผักนานาชนิดที่จัดวางอย่างสวยงามไม่แพ้การประดับด้วยไม้ดอก หรือไม้ประดับ โดยผักที่ปลูกในขณะนี้เป็นผักสลัด ที่ปลูกไว้บริเวณถนนทางเข้าอาคาร และบ้านพัก นอกจากนั้น พื้นที่รอบๆ ยังมีการปรับพื้นที่เพื่อปลูกผักอีกจำนวนมาก

นายทวี หอมหวล โยธาธิการและผังเมือง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงแนวคิดทำให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.ภูเก็ต เป็นสำนักงานต้นแบบ เดินตามรอยพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผักไว้กินเอง ว่า ตนเองมีความผูกพันกับการทำเกษตรมาตั้งแต่เด็ก เป็นลูกชาวนา ชาวสวน ปลูกผักสวนครัวไว้รอบๆ บ้านเพื่อกินเอง ส่วนที่เหลือก็มีการเก็บไปขายบ้าง เมื่อมาทำงานรับราชการก็ได้มีการศึกษาวิธีการปลูกผักทฤษฎีใหม่ๆ และมีการทดลองปลูกมาเรื่อยๆ ทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน สำหรับที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.ภูเก็ต เริ่มปลูกผัก ผลไม้ รวมทั้งผักสลัดมาประมาณ 3 ปี โดยให้แนวคิดแก่ข้าราชการ และลูกจ้างที่สำนักงานว่า “ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก” เดินตามรอยพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง

ปัจจุบัน ข้าราชการ และพนักงานต่างก็ให้ความสนใจร่วมกันปลูกผัก ดูแลแปลงผักที่ปลูกไว้ โดยใช้เวลาในช่วงเช้า และเย็น ซึ่งนอกจากร่วมกันปลูกผักเพื่อให้เกิดผลผลิต และเกิดความสวยงามแล้ว ยังทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และที่ทำงาน รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีสมาธิ นอกจากนั้น ยังสร้างรายได้ลดรายจ่ายอีกด้วย ผักที่ปลูกเป็นผักปลอดสารพิษ ส่งผลดีต่อผู้บริโภค ซึ่งขณะนี้ข้าราชการบางคนปลูกเองที่บ้านเหลือจากเก็บกินในครอบครัวก็นำไปขายซึ่งสามารถสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง โดยผักที่ปลูกสำนักงาน ข้าราชการสามารถเก็บกลับไปทำอาหารที่บ้านได้เลย ไม่ว่าจะเป็นผักสลัด ถั่วฝักยาว ตะไคร้ และอื่นๆ ซึ่งมีหลากหลายชนิดมาก นอกจากนั้น ยังมีการปลูกไม้ผลต่างๆ อีกด้วย

ส่วนพื้นที่ด้านหลังสำนักงานที่กำลังอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่ยกแปลง ขณะนี้ได้มีการปลูกผ่าหวานบางส่วน และจะปลูกเมล่อน ประมาณ 200 ต้น คาดว่าเร็วๆ นี้จะเริ่มปลูกได้ ส่วนผักก็สลับปลูกกันไป เพื่อให้มีผลผลิตออกต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา ตนจะคำนวณระยะเวลาในการปลูกเพื่อให้ผลผลิตออกมากในช่วงปีใหม่ หรือช่วงตรุษจีน ซึ่งช่วงนั้นจะมีคนเข้ามาสวัสดีปีใหม่ และต้องไปสวัสดีปีใหม่คนที่เคารพกันจำนวนมาก ก็ต้องมีของขวัญ หรือกระเช้าผลไม้ไปด้วย สำหรับตนก็จะจัดผักที่ปลูกเองใส่ตะกร้าเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนที่ไปหา และคนที่มาหาเรา ซึ่งส่วนใหญ่ก็พอใจ เพราะผักที่ปลูกเราทำด้วยใจ เอาใจใส่ทุกขั้นตอน

นายทวี กล่าวต่อไปว่า นอกจากจะปลูกผักเพื่อไว้กิน และแจกแล้ว ในเรื่องของความรู้ในการปลูกผักต่างก็พร้อมที่จะถ่ายทอดให้แก่ผู้ที่สนใจ โดยมาศึกษาเรียนรู้ได้ที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะให้ความรู้ตั้งแต่การเตรียมดินปลูก เช่น การปลูกผักสลัด ใช้ดิน 3 ส่วน มูลวัว 1 ส่วน และกาบมะพร้าวสับ ครึ่งส่วนโดยประมาณ นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใช้ผ้าใบ หรือกระสอบมาปิด หลังจากนั้น หมักทิ้งไว้ 2-3 วัน และนำไปลงแปลงปลูก หรือใส่กระถางพลาสติก ซึ่งขนาดกระถางที่เหมาะสมอยู่ที่ขนาดประมาณ 10 นิ้ว หรือจะนำไปใส่วัสดุอื่น เช่น ยางล้อรถ ถังน้ำที่ไม่ใช้แล้ว ขณะที่การเพาะต้นกล้าก็สามารถทำไปพร้อมๆ กัน ใช้ดินที่มีอยู่ไปใส่ในอุปกรณ์สำหรับเพาะตั้งกล้า และหยอดเมล็ดพันธุ์ลงไป 1-2 เม็ด รถน้ำให้ชุ่ม ปิดด้วยผ้าใบ ใช้เวลา 1-2 วัน จะเห็นลำต้นเริ่มงอก หลังจากนั้น ก็พาออกไปไว้ที่มีแสงแดด รดน้ำตามปกติ รอจนความยาวของต้นได้ขนาด 1 นิ้ว ก็นำไปลงแปลงผัก ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 30-40 วัน ก็เก็บผลผลิตได้

นายทวี กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ตนกำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ คือ การเก็บเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ ต่อไป หากมีผู้สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้คนก็จะแจกเมล็ดพันธุ์ให้ไปด้วย ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้สนใจสอบถามเข้ามาพอสมควร และมีการส่งรายงานการปลูกกันเข้ามา ทำให้คนที่ไปทำมีกำลังใจในการหันมาปลูกผักกินเองมากขึ้น เพราะการปลูกผักทำแล้วได้ทั้งความสบายใจ และสบายกาย





กำลังโหลดความคิดเห็น