ศปมผ.เข้มตรวจเรือประมงนอกน่านน้ำ สร้างความเชื่อมั่นเสนอปลดล็อกใบเหลือง

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ลงตรวจเรือประมงอวนลาก สร้างความมั่นใจเพื่อปลดใบเหลือ'การทำประมง จากการตรวจสอบไม่พบกระทำผิดกฎหมายประมงนอกน่านน้ำ

วันนี้ (24 ก.พ.) ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ร.ต.เจริญพล คุ้มราษี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย น.อ.ฉัตรชัย ศุกระศร รองหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) อนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย และคณะ พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รอง ผกก.8 บก.รน. นายวัชรินทร์ รัตนชู ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงเขต 3 ภูเก็ต และชุดสหวิชาชีพ ประกอบด้วย ผู้แทนจากกรมประมง แรงงานจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันตรวจสอบเรือ ส.รุ่งสาคร 11 ซึ่งเป็นเรือประมงอวนลากของไทยที่ออกทำประมงนอกน่านน้ำ มีขนาด 320 ตัน ยาว 38 เมตร และกว้าง 8 เมตร มีกัปตัน และลูกเรือชาวไทยรวม 32 คน เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรายงานของเรือลำดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจในการเสนอปลอดใบเหลืองจากการผิดเงื่อนไขการทำประมงระหว่างประเทศ

การเข้าตรวจสอบเรือลำดังกล่าว สืบเนื่องจากศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) กำหนดให้มีการตรวจเรือประมงนอกน่านน้ำที่กำลังจะกลับเข้าเทียบท่า เพื่อรายงานตามประกาศของกรมประมง คือ เรือ ส.รุ่งสาคร 11 ซึ่งเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2560 ได้ทำการส่งลูกเรือที่ป่วย ณ ประเทศสาธารณรัฐเซเชลส์ และลูกเรือคนดังกล่าวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้น ก่อนการเดินทางเข้าประเทศสาธารณรัฐเซเชลส์ เรือ ส.รุ่งสาคร 11ได้ส่งเอกสาร Advance Request for Entry in Port (AREP) แจ้งสัตว์น้ำในเรือไม่ทราบชนิด (Unknown) ซึ่งเป็นเหตุให้ชวนสงสัยว่า เรือลำดังกล่าวอาจกระทำความผิดต่อกฎระเบียบของ Indian Ocean Tuna Commission (IOTC) และอาจเข้าข่ายเป็นเรือที่กระทำความผิด IUU-Fishing ดังนั้น อธิบดีกรมประมง จึงมีประกาศเรียกเรือ ส.รุ่งสาคร 11 ให้เดินทางกลับประเทศไทย เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ประกอบกับเรือประมงที่ออกไปทำการประมงนอกน่านน้ำจะต้องกลับมารายงานตัวเพื่อให้มีการตรวจสอบภายในวันที่ 3 มี.ค.นี้ ทุกลำ ซึ่งขณะนี้ได้มีการตรวจสอบไปแล้วทั้งหมด จำนวน 13 ลำ ผลการตรวจสอบไม่พบว่ามีการกระทำความผิดกฎหมายการจับปลาระหว่างประเทศ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

พล.ร.ต.เจริญพล คุ้มราศี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า กองทัพเรือ โดยศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 เป็นเจ้าภาพหลักในการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมดำเนินการตรวจสอบ เรือ ส.รุ่งสาคร 11 ซึ่งเป็นเรือประมงไทยที่ทำประมงนอกน่านน้ำ เพื่อขอตรวจสอบตามมาตรการป้องกันเรือประมงทำผิดกฎหมาย เป็นการตรวจสอบใน 4 เรื่องคือ 1.ตรวจคน 2.ตรวจเรือ 3.ตรวจเครื่องมือ และ 4.ตรวจเรื่องของการบริหารจัดการบนเรือ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด และในส่วนของลูกเรือก็จะมีการนำตัวไปแยกสอบ ก่อนที่จะอนุญาตให้เรือลำดังกล่าวเดินทางกลับไปยัง จ.สมุทรสาคร ในเวลา 14.30 น.วันนี้

ด้าน น.อ.ฉัตรชัย ศุกระศร รองหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ ศปมผ.กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่กติกาสากล ซึ่งการตรวจสอบเรือประมงต่างๆ นั้นก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้แค่รับปากในการแก้ไขปัญหาในการทำประมงผิดกฎหมายเท่านั้น แต่เรามีการดำเนินการจริงๆ เพื่อให้เป็นไปตามกติกาที่กำหนดด้วย และเรือที่เรียกมาตรวจสอบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามีความผิด แต่เป็นการยืนยันให้เห็นถึงการเริ่มต้นการปฏิบัติตามข้อตกลงที่ทำไว้ และในการตรวจสอบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามีความผิด ทั้งนี้ เพื่อให้เราสามารถปลดล็อกใบเหลืองของ IUU ด้วย