xs
xsm
sm
md
lg

แห่ชื่นชม “จิตร์ ทองเพิ่ม” โชเฟอร์ตุ๊กตุ๊กเก็บเงิน และอัญมณีส่งคืนหญิงต่างชาติ เป็น “คนดีศรีหาดใหญ่”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ปิยภัทร โพธิภักดี (ซ้าย) กับ จิตต์ ทองเพิ่ม (ขวา)
 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สื่อท้องถิ่นประกาศผ่านเฟซบุ๊กให้ “จิตร์ ทองเพิ่ม” คนขับรถตุ๊กตุ๊กโดยสารเป็น “คนดีศรีหาดใหญ่” หลังเก็บกระเป๋าสะพายของนักท่องเที่ยวหญิงต่างชาติที่ลืมไว้บนรถ โดยมีทั้งธนบัตรไทย ต่างประเทศ และอัญมณี รวมมูลค่ามากมายส่งคืนเจ้าของ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ก.พ.) นายปิยภัทร โพธิภักดี นักจัดรายการที่วิทยุ ม.อ.88 ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (ม.อ.หาดใหญ่) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องราวของ นายจิตต์ ทองเพิ่ม คนขับรถตุ๊กตุ๊กโดยสารในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ได้ทำความดีนำกระเป๋าสะพายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งในนั้นมีทั้งธนบัตรไทย และต่างประเทศจำนวนมาก รวมถึงน่าจะมีของมีค่าอื่นๆ รวมอยู่ด้วยไปมอบให้ตำรวจส่งคืนเจ้าของ โดยนายปิยภัทร เขียนเล่าเรื่องราวไว้ดังนี้
 
ภาพทั้งหมดจากเฟซบุ๊ก ปิยภัทร โพธิภักดี
 
“ราวบ่ายโมง ผมขับรถตระเวนหาผู้โดยสารอยู่แถวตลาดพลาซ่า ก็มีหญิงคนหนึ่งโบก ผมจึงจอดรับ พอได้คุยกันจึงรู้ว่าเป็นคนต่างชาติ แต่พูดไทยได้บ้าง ว่าจ้างให้ผมไปส่งที่ห้างโอเดียนฯ ผมจึงรับหญิงคนนั้นขึ้นรถ และก็ไปส่งทันที” น้าจิตร์ ทองเพิ่ม ชาวบ้านหมู่บ้านนพคล้าย หมู่ที่ 5 ตำบลควนลัง หาดใหญ่ ผู้ขับรถตุ๊กตุ๊กเป็นอาชีพ เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่ตนได้ประสบในวันนั้น
 
“พอถึงที่หมายผมก็จอด เขาก็ลง และเดินมาจ่ายค่าโดยสารด้านหน้า ผมเก็บเธอ 20 บาท จากนั้นผมก็ออกรถวิ่งหาผู้โดยสารต่อไป ขับมาได้สักพักก็มองกระจกหลังเห็นกระเป๋าสะพายวางอยู่บนเบาะที่นั่ง จึงจอดรถลงไปดู”
 
น้าจิตร์ บอกว่า แรกที่เห็นกระเป๋าก็เอะใจ เพราะซิปกระเป๋าเปิดอยู่ ตนจึงรูดปิดให้เป็นที่เรียบร้อย และหิ้วมาวางไว้ด้านหน้าข้างที่นั่งตนเอง จากนั้นจึงขับคู่ชีพออกตระเวนวนเวียนไปตามย่านการค้ากลางเมืองหาดใหญ่ โดยเฉพาะจุดที่ส่งผู้โดยสารหญิงคนนั้น
 
“ผมขับวนหาอยู่หลายรอบเพื่อจะเอากระเป๋าคืนให้ พยายามสอดส่องสายตามองตามจุด ตามร้านค้าต่างๆ ก็ไม่เห็น” หลังจากที่น้าจิตร์ วนตามหาเจ้าของกระเป๋าจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีโอกาสตามเจอแน่ จึงตัดสินใจตรงไปที่จุดตรวจ 191 ของสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ซึ่งอยู่ที่ถนนนิพัทธอุทิศ 3 ย่านจุลดิศพลาซ่า เพื่อมอบกระเป๋าให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการหาเจ้าของต่อไป
 

 
“ไปถึงก็พบตำรวจ 2 นาย ถามผมว่ามาติดต่อธุระอะไร ผมจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง พร้อมกับยื่นกระเป๋าให้ ตำรวจก็เปิดออกดู ปรากฏว่า ในนั้นมีธนบัตรทั้งเงินไทย และเงินต่างประเทศจำนวนมาก และมีกล่องพลาสติกเล็กๆ อันหนึ่ง เจ้าหน้าที่หยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่า ด้านในมีวัตถุชิ้นหนึ่ง เสียงกระทบกับกล่อง แก๊กๆๆ แต่ก็ไม่ได้เปิดออกดู”
 
ทั้ง 3 คน คือ น้าจิตร์ และตำรวจอีก 2 นาย จึงเป็นพยานร่วมกันเปิดดูสิ่งของในกระเป๋า กระทั่งพบเอกสารมีหมายเลขโทรศัพท์หนึ่งปรากฏอยู่ เจ้าหน้าที่จึงกดโทร.ออกตามหมายเลขที่เห็นนั้นทันที พอตำรวจโทร.ไป ปลายสายก็มีเสียงผู้หญิงรับ คุยกันอยู่พักหนึ่งจึงสื่อสารกันเข้าใจ ตำรวจจึงบอกว่า เป็นลูกสาวของหญิงเจ้าของกระเป๋า ได้นัดแนะให้มาพบกันที่นี่ ตอนนี้กำลังเดินทางมา
 
ตำรวจบอกให้น้าจิตร์ อยู่คอยด้วยเพื่อให้ได้พบหน้ากัน และไม่นานนักก็มีรถตุ๊กตุ๊กคันหนึ่งขับเข้ามาจอดหน้าจุดตรวจ สุภาพสตรี 2 คนลงมาจากรถ หนึ่งในนั้นน้าจิตร์ จำได้แม่นยำว่าเป็นผู้โดยสารที่กำลังตามหา ทันทีที่หญิงต่างชาติเข้ามาพบ น้าจิตร์ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระเป๋าของตนเองที่วางลืมไว้ น้าจิตร์ เล่าว่า หญิงคนนั้นพนมมือไหว้ตนปลกๆ ปากก็พูดว่า ขอบคุณ ขอบคุณๆๆ หลายครั้ง เขาดีใจมากที่ได้เจอกระเป๋า
 
หลังจากทุกฝ่ายเจรจาทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนเข้าใจกันดีแล้ว หญิงชาวต่างชาติก็ไม่ลืมสินน้ำใจมอบให้แก่พลเมืองดีชาวหาดใหญ่คนนี้ แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธไม่ขอรับ แต่ด้วยน้ำใจจริงจากเจ้าของกระเป๋า และเพื่อความสบายใจของผู้ให้ ตนจึงขัดเสียมิได้ เรื่องราวดีๆ นี้จบลงด้วยความปลื้มใจ แม้จะไม่ได้นับธนบัตรในกระเป๋า รวมทั้งกล่องพลาสติกเล็กๆ นั้นด้วย แต่คาดว่าจำนวนเงินคงหลายหมื่นบาท และวัตถุเล็กๆ ในกล่องนั้นน่าจะเป็นอัญมณีมีค่า! 
 
ตอนท้าย น้าจิตร์ บอกให้ฟังอย่างซึ้งใจว่า “ตนตั้งปณิธานไว้ในใจเสมอว่า เรามีอาชีพขับรถตุ๊กตุ๊ก มีอาชีพรับส่งบริการผู้โดยสาร จะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อะไรที่ไม่ใช่ของเรา ก็จะต้องคืนเจ้าของ วันนั้นถ้าผมเอากระเป๋ากลับไปบ้าน ยึดเป็นของตนเอง ผมคงนอนไม่หลับ แม้จะไม่มีใครรู้ แต่เรารู้ เราไม่สบายใจ ต้องคืนให้เขา เพราะไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ มันย่อมมีความสำคัญ มีความจำเป็นต่อเจ้าของอย่างแน่นอน”
 

 
เรื่องราวของ “พลเมืองดีศรีหาดใหญ่” ได้รับคำชื่นชม ทั้งจากคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านร่วมชุมชน โดยเฉพาะประธานชุมชนนพคล้าย นายโสพล ฉิมนวล บอกว่า น้าจิตร์ เป็นคนดี เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ครอบครัวก็เป็นคนดี เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ก็ยิ่งทำให้เห็นชัดเจนว่า สังคมเรายังมีคนดีๆ คนที่ไม่เห็นแก่ตัว ก็ขอชื่นชมคนดีอย่างน้าจิตร์ ด้วยเช่นกัน
 
10 ปีแล้วที่น้าจิตร์ หัวหน้าครอบครัววัย 58 ปี คนนี้หันมายึดอาชีพขับรถตุ๊กตุ๊กอยู่ในเมืองหาดใหญ่ ก่อนหน้านี้ น้าจิตร์ เป็นพนักงานลูกจ้างฝ่ายกองช่าง เทศบาลนครหาดใหญ่ และลาออกมา กระทั่งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนขาหัก และได้เงินจากค่าทำขวัญก้อนหนึ่ง จึงนำมาต่อยอดซื้อรถตุ๊กตุ๊กมือสองมาขับเป็นอาชีพสุจริตหาเลี้ยงครอบครัวกระทั่งปัจจุบัน
 
“จิตร์ ทองเพิ่ม” คนดีศรีหาดใหญ่!
 

กำลังโหลดความคิดเห็น