สุนทร รักษ์รงค์
ผู้ประสานงานแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง
----------------------------------------------------------------------------------------
ขออนุญาตคุณ Usanee Chansuwan ก่อนนะครับ ผมชื่นชมคุณมากครับ ที่พูดด้วยหัวใจตรงไปตรงมา ผมขอก๊อบเมนต์ในโพสต์ของผมมาเป็นกรณีศึกษา
กรณีการต่อสู้เพื่อหยุดการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่/เทพา โดยเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน 17 ก.พ.60
ผมได้โพสต์ลงใน facebook วันที่ 19 ก.พ.2560 ว่า “ประชาชนชนะในยกแรก ค่อยมาว่ากันต่อในยกต่อไป” พร้อมทั้งให้เหตุผลในโพสต์ว่า ศัตรูของประชาชนคือ ทุนสามานย์ ไม่ใช่รัฐบาล ประชาชนต่อสู้เพื่อให้รัฐบาลเชื่อข้อมูลของฝ่ายประชาชน เมื่อรัฐบาลเชื่อ และจะมีประกาศยกเลิก EHIA เดิม เพื่อให้เริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง
เราสามารถใช้คำว่า ประชาชนชนะในยกแรกได้หรือไม่ ?
ผมมีความเชื่อว่า ประชาชนต้องรู้จักการสะสมชัยชนะ เราปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่า นี่เป็นการต่อสู้ทางชนชั้น ระหว่างทุนสามานย์ถ่านหิน กับประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ และแนวร่วมที่ออกมาปกป้องรักษาแผ่นดินเกิด
การที่รัฐบาลยอมถอยก้าวหนึ่ง เพื่อ Zet Zero จึงเป็นสัญญาณที่ดี ที่รัฐบาลฟังเสียงของประชาชน แต่การศึกมิได้หยุดเพียงแค่นี้ เพราะประสบการณ์สอนให้เราไม่ประมาท ซึ่งหลังจากนี้ทุนสามานย์ถ่านหินจะใช้เงินเพื่อสร้างความแตกแยกในพื้นที่มากขึ้น โดยที่สุนัขรับใช้ทุนถ่านหินจะได้ค่าแรงเพิ่มขึ้น เพราะงานมันยากขึ้น
ชัยชนะแรกของประชาชน ในมิติทางชนชั้นนั้นสำคัญยิ่ง คงต้องให้เครดิตแกนนำเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน รวมทั้งชื่นชมการสู้ไม่ถอยของพี่น้องชาวจังหวัดกระบี่ ที่เสียสละ ทุ่มเท แต่ต้องไม่ลืมมิติใหม่ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของรัฐบาลในครั้งนี้ นั่นก็คือ การสร้างเอกภาพในความหลากหลายได้
“พหุเอกาสังคม”
มีภาคีเครือข่าย และแนวร่วมหนุนเสริมจากทั่วประเทศที่จุดกระแสทางสังคมจนสามารถชิงพื้นที่สาธารณะได้
นี่คือความสำเร็จของเครือข่ายภาคประชาชนภาคใต้ ที่พยายามรวมตัวกันต่อสู้ เคลื่อนไหวในประเด็นร่วม เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพ และสร้างพลังการต่อรอง อาจอยู่ภายใต้หลักการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ หรือความสัมพันธ์เชิงระนาบ ร่วมคิด แยกกันทำก็ได้