กระบี่ - แห่ชื่นชม! คนขับรถแท็กซี่ที่อ่าวนาง หนุ่มสงขลา เขยกระบี่ เก็บกระเป๋าเงินนักท่องเที่ยวขณะลืมไว้บนรถ ภายในมีเงินนับแสน ออกตามหาส่งคืนเจ้าของ
วันนี้ (13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเรื่องราวดีๆ ทำให้ชาวโลกโซเชียลได้ชื่นชมกันอีกครั้ง เมื่อสมาชิกเฟซบุ๊ก ชื่อ ธนากร จันทร์สว่าง รองนายก อบจ.สงขลา ได้แชร์ภาพชายคนหนึ่งที่เก็บกระเป๋าเงินนักท่องเที่ยวได้ ภายในกระเป๋ามีเงินกว่า 1แสนบาท พร้อมโพสต์ข้อความว่า “น้องผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ นายดลเหล๊าะ เส็นหนุมาน “Loh Hanuman” บ้านอยู่ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา คนบ้านเดียวกันไปมีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดกระบี่ ทำงานเป็นคนขับรถ taxi ได้รับนักท่องเที่ยวไปส่งสนามบิน นักท่องเที่ยวได้ลืมกระเป๋าเงินไว้ในรถมีเงินอยู่เกือบหนึ่งแสนบาท
น้องคนขับรถก็ติดต่อเจ้าของไม่ได้ เลยโทรหา และปรึกษาผมให้ช่วยประสานติดต่อนักท่องเที่ยวให้หน่อย ผมประสานไปยัง ผอ.ททท. ของสงขลา ให้ประสานไปยัง ผอ.ททท.กระบี่แล้ว ตามหาเจ้าของ ใครเจอ หรือรู้จักเจ้าของกระเป๋าให้ประสานมาที่ผมก็ได้ครับ ผมจะเอากระเป๋าคืนให้ ขอชื่นชมน้องมากที่ทำความดี และสร้างเรื่องดีๆ ให้กับประเทศไทย รบกวนแชร์หาเจ้าของอีกทางด้วยนะครับ” หลังจากมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวได้มีชาวโซเชียลฯ เข้าไปแสดงความคิดเห็นทำนองชื่นชม และแชร์ต่อกันจำนวนมาก และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามไปยัง นายดลเหล๊าะ ซึ่งทำงานเป็นคนขับรถแท็กซี่ ประจำอยู่บริเวณหาดอ่าวนาง ใกล้โค้งโรงแรมพระนางอินน์ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ทราบว่า เป็นบุคคลคนเดียวกับที่ระบุในเฟซบุ๊ก โดย นายดลเหล๊าะ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งตนใช้รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายเขียว ทะเบียน ณข 424 กระบี่ เป็นรถร่วมชมรมอ่าวนางแท็กซี่-ตุ๊กตุ๊ก คลับ ในเวลา 13.00 น.มีผู้โดยสารซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 คน ได้เรียกใช้บริการรถของตนโดยสารจากอ่าวนาง ไปส่งที่สนามบิน ในราคาค่าโดยสาร 500 บาท
เมื่อส่งลูกค้าที่สนามบินแล้วก็ได้ขับรถกลับมาประจำที่คิว และได้ส่งไปลูกค้าอีก 1 รอบ จนกระทั่งในเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน ได้ตรวจสอบภายในรถ และปัดฝุ่นทำความสะอาด ก็ได้พบกระเป๋าในเงินเงินสีชมพู 1 ใบ ตกอยู่ในที่นั่งด้านหลังของห้องผู้โดยสาร มีข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า Michel Kors ตรวจสอบภายในกระเป๋าพบเงินสดเป็นเงินไทย 50,400 กว่าบาท และเงินสกุลฮังการี นอกจากนั้น ยังมีบัตรประจำตัวผู้ชาย ชื่อ KUHNEL-SZABO DAVID 1 ใบ บัตรประจำตัวหญิงระบุ ชื่อ SULYOK VIVIEN อีก 1 ใบ และบัตรเครดิตอีกจำนวน 1 ใบ คาดว่าน่าจะเป็นสัญชาติฮังการี
หลังจากนั้น จึงนำกลับไปบ้านพร้อมเล่าให้ภรรยาฟัง และพยายามติดต่อสถานทูตฮังการี แต่ติดต่อไม่ได้ จึงได้โทรปรึกษานายธนากร จันทร์สว่าง รองนายก อบจ.สงขลา ประสานความช่วยเหลือติดตามหานักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน และได้นำภาพมาโพสต์ลงเฟซดังกล่าว และประสานผ่านททท.สำนักงานกระบี่ แล้ว
ล่าสุด นายอภิชัย อรัญญิก ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกระบี่ เปิดเผยว่า ได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วทราบว่า นักท่องเที่ยว 2 หนุ่มสาว คือ น.ส.วิเวียน ซัลยอค (Vivien Sulyok) อายุ 24 ปี และนายเดวิด เคอร์เนล ซาโบ (David Kuhnel-Szabo) อายุ 38 ปี ชาวนครบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี และกำลังเดินทางท่องเที่ยวอยู่ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และทั้งคู่รับทราบแล้ว และยินดีที่จะมารับคืนด้วยตนเอง
โดยขณะนี้ นายดลเหล๊าะ เส็นหนุมาน ต้องไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ในเรื่องนี้จึงนับเป็นภาพลักษณ์แบบอย่างที่ดีของจังหวัดกระบี่ ที่มีส่วนร่วมดูแลต้อนรับนักท่องเที่ยวดุจญาติมิตร สิ่งสำคัญคือ มีความซื่อสัตย์สุจริต หรือมีจิตสาธารณะ ควรค่าแก่การยกย่องเป็นอย่างยิ่ง
วันนี้ (13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเรื่องราวดีๆ ทำให้ชาวโลกโซเชียลได้ชื่นชมกันอีกครั้ง เมื่อสมาชิกเฟซบุ๊ก ชื่อ ธนากร จันทร์สว่าง รองนายก อบจ.สงขลา ได้แชร์ภาพชายคนหนึ่งที่เก็บกระเป๋าเงินนักท่องเที่ยวได้ ภายในกระเป๋ามีเงินกว่า 1แสนบาท พร้อมโพสต์ข้อความว่า “น้องผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ นายดลเหล๊าะ เส็นหนุมาน “Loh Hanuman” บ้านอยู่ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา คนบ้านเดียวกันไปมีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดกระบี่ ทำงานเป็นคนขับรถ taxi ได้รับนักท่องเที่ยวไปส่งสนามบิน นักท่องเที่ยวได้ลืมกระเป๋าเงินไว้ในรถมีเงินอยู่เกือบหนึ่งแสนบาท
น้องคนขับรถก็ติดต่อเจ้าของไม่ได้ เลยโทรหา และปรึกษาผมให้ช่วยประสานติดต่อนักท่องเที่ยวให้หน่อย ผมประสานไปยัง ผอ.ททท. ของสงขลา ให้ประสานไปยัง ผอ.ททท.กระบี่แล้ว ตามหาเจ้าของ ใครเจอ หรือรู้จักเจ้าของกระเป๋าให้ประสานมาที่ผมก็ได้ครับ ผมจะเอากระเป๋าคืนให้ ขอชื่นชมน้องมากที่ทำความดี และสร้างเรื่องดีๆ ให้กับประเทศไทย รบกวนแชร์หาเจ้าของอีกทางด้วยนะครับ” หลังจากมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวได้มีชาวโซเชียลฯ เข้าไปแสดงความคิดเห็นทำนองชื่นชม และแชร์ต่อกันจำนวนมาก และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามไปยัง นายดลเหล๊าะ ซึ่งทำงานเป็นคนขับรถแท็กซี่ ประจำอยู่บริเวณหาดอ่าวนาง ใกล้โค้งโรงแรมพระนางอินน์ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ทราบว่า เป็นบุคคลคนเดียวกับที่ระบุในเฟซบุ๊ก โดย นายดลเหล๊าะ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งตนใช้รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายเขียว ทะเบียน ณข 424 กระบี่ เป็นรถร่วมชมรมอ่าวนางแท็กซี่-ตุ๊กตุ๊ก คลับ ในเวลา 13.00 น.มีผู้โดยสารซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 คน ได้เรียกใช้บริการรถของตนโดยสารจากอ่าวนาง ไปส่งที่สนามบิน ในราคาค่าโดยสาร 500 บาท
เมื่อส่งลูกค้าที่สนามบินแล้วก็ได้ขับรถกลับมาประจำที่คิว และได้ส่งไปลูกค้าอีก 1 รอบ จนกระทั่งในเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน ได้ตรวจสอบภายในรถ และปัดฝุ่นทำความสะอาด ก็ได้พบกระเป๋าในเงินเงินสีชมพู 1 ใบ ตกอยู่ในที่นั่งด้านหลังของห้องผู้โดยสาร มีข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า Michel Kors ตรวจสอบภายในกระเป๋าพบเงินสดเป็นเงินไทย 50,400 กว่าบาท และเงินสกุลฮังการี นอกจากนั้น ยังมีบัตรประจำตัวผู้ชาย ชื่อ KUHNEL-SZABO DAVID 1 ใบ บัตรประจำตัวหญิงระบุ ชื่อ SULYOK VIVIEN อีก 1 ใบ และบัตรเครดิตอีกจำนวน 1 ใบ คาดว่าน่าจะเป็นสัญชาติฮังการี
หลังจากนั้น จึงนำกลับไปบ้านพร้อมเล่าให้ภรรยาฟัง และพยายามติดต่อสถานทูตฮังการี แต่ติดต่อไม่ได้ จึงได้โทรปรึกษานายธนากร จันทร์สว่าง รองนายก อบจ.สงขลา ประสานความช่วยเหลือติดตามหานักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน และได้นำภาพมาโพสต์ลงเฟซดังกล่าว และประสานผ่านททท.สำนักงานกระบี่ แล้ว
ล่าสุด นายอภิชัย อรัญญิก ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกระบี่ เปิดเผยว่า ได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วทราบว่า นักท่องเที่ยว 2 หนุ่มสาว คือ น.ส.วิเวียน ซัลยอค (Vivien Sulyok) อายุ 24 ปี และนายเดวิด เคอร์เนล ซาโบ (David Kuhnel-Szabo) อายุ 38 ปี ชาวนครบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี และกำลังเดินทางท่องเที่ยวอยู่ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และทั้งคู่รับทราบแล้ว และยินดีที่จะมารับคืนด้วยตนเอง
โดยขณะนี้ นายดลเหล๊าะ เส็นหนุมาน ต้องไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ในเรื่องนี้จึงนับเป็นภาพลักษณ์แบบอย่างที่ดีของจังหวัดกระบี่ ที่มีส่วนร่วมดูแลต้อนรับนักท่องเที่ยวดุจญาติมิตร สิ่งสำคัญคือ มีความซื่อสัตย์สุจริต หรือมีจิตสาธารณะ ควรค่าแก่การยกย่องเป็นอย่างยิ่ง
